ระวัง! โรคไข้เลือดออกระบาด อธิบดีกรมควบคุมโรคประกาศเตือน

โรคไข้เลือดออกระบาด กำลังมาเตรียมตัวให้พร้อม

โรคไข้เลือดออกระบาด กำลังมาพ่อแม่ต้องดูแลลูกน้อยอย่าให้ยุงกัด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม น.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (1 ม.ค. – 28 ก.พ. 61) พบผู้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกทั้งประเทศจำนวน 3,072 ราย เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดนี้ อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง 6 ราย และภาคใต้ 3 ราย

ส่วนใหญ่เป็นเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และมีโรคประจำตัวร่วมด้วย โดยเฉพาะโรคอ้วน ซึ่งอาการร่วมกับไข้ที่พบในระยะแรกของผู้เสียชีวิต คือ อาการปวดท้อง ถ่ายเหลว และในบางรายได้รับการวินิจฉัยท้องร่วง หรือลำไส้อักเสบมาก่อนด้วย หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ช้าอาจทำให้อาการหนักก่อนมาถึงโรงพยาบาลได้ และอาจเป็นเหตุสำคัญทำให้มีโรคแทรกซ้อนรักษายากขึ้นและเป็นปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตได้

ถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะไม่ใช่ฤดูฝนก็ตาม แต่มีมรสุม พายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบ้างในบางพื้นที่ ทำให้หลายจังหวัดมีฝนตกประปรายอย่างต่อเนื่อง และเกิดเป็นน้ำขังตามพื้นที่และภาชนะต่างๆ ตามมา ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้

สำหรับจังหวัดอำนาจเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดได้ออกมากำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ประสานความร่วมมือกับชุมชนและท้องถิ่นในการรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก รวมถึงโรคอื่นๆ ที่เกิดจากยุง คือ คือ โรคติดต่อเชื้อไวรัสซิกาและโรคไข้ปวดข้อยุงลาย โดยเฉพาะชาวสวนยางพารา ให้คว่ำถ้วยรองน้ำยางที่ไม่ได้ใช้งาน เนื่องจากช่วงนี้ เป็นช่วงปิดหน้ายาง ( ก.พ. – พ.ค.) ถึงแม้ว่าในขณะนี้ทางจังหวัดยังจะไม่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกก็ตาม

วิธีกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

ทางสำนักระบาดวิทยา ได้ขอให้ประชาชนใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกและป้องกันการแพร่เชื้อ โดยใช้วิธี ดังนี้

• เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง
• เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
• เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันยุงลายไปวางไข่ เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย

ลักษณะอาการของโรคไข้เลือดออก

• ไข้สูงมากโดยฉับพลัน
• ปวดเมื่อย
• หน้าตาแดง
• อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ
• มีไข้สูง 2-3 วันไม่หายหรือไม่ดีขึ้น
• กินยาลดไข้แล้วไม่ลด หรือลดชั่วคราวแล้วกลับมาสูงอีก
• เบื่ออาหาร
• อาเจียน

นอกจากนี้ยังมีวิธีป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคไข้เลือดออกโดยการใช้มุ้งคลุมเวลาลูกน้อยนอนอยู่ที่บ้าน สำหรับเวลาออกนอกบ้านก็ควรมีตาข่ายกันยุงปกปิกรถเข็นเด็ก ไม่ควรพาลูกไปอยู่ใกล้แหล่งน้ำเน่าเสีย ใช้ยากันยุงที่มีส่วนสมของสมุนไพรหรือจะใช้ตะไคร้ไล่ยุง และฉีดวัคซีนไข้เลือดออกก็ได้

ที่มา: kaohit, thaipost

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

ผู้ใหญ่เป็นพาหะเชื้อไวรัส RSV สู่ทารก เอ็นดูอยู่ห่าง ๆ ปลอดภัยกับเด็กมากกว่า

สังเกตให้ดี 5 อาการแบบนี้ ต้องพาลูกไปหาหมอโดยเร็ว

ลูกดั้งไม่โด่ง ดั้งแบน ดั้งแหมบ โตแล้วจะโด่งไหมนะ