แม่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ลูกในท้องจะเป็นอันตรายไหม ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หาก แม่ท้องเป็นเบาหวาน ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ นับว่าอันตรายอย่างมาก เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการคลอดก่อนกำหนด ความพิการแต่กำเนิด หรือแม้แต่ภาวะสูญเสียบุตรขณะตั้งครรภ์

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์นั้น ก็สามารถส่งผลให้ แม่ท้องเป็นเบาหวาน หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ หากแต่ผลกระทบจากโรคเบาหวาน และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีความร้ายแรงที่แตกต่างกัน

 

รู้จักกับ “เบาหวาน”

เบาหวาน คืออาการที่ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการ หรือไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) นี้ มีหน้าที่ในการลำเลียงกลูโคสในกระแสเลือด เข้าสู่เซลล์ เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เมื่ออินซูลินบกพร่อง และไม่สามารถขนส่งกลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้ จึงเกิดการสะสมในกระแสเลือด และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลกระทบต่ออวัยวะในร่างกาย เช่น หลอดเลือด เส้นประสาท ไต หัวใจ เป็นต้น ในการตั้งครรภ์ช่วงเริ่มต้น ยังอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก และความผิดปกติแต่กำเนิดอีกด้วย

ประเภทของเบาหวานในคนท้อง

แม้ว่าแม่ท้องจะไม่ได้มีโรคประจำตัวมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ แต่ระดับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะแตกต่างจากโรคเบาหวานที่เป็นมาก่อน เนื่องจากเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational diabetes) อาจจะจะหายไป หลังจากการให้กำเนิด หรือส่งผลให้อินซูลินในร่างกายมีความผิดปกติ หลังจากคลอดได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ประเภทของเบาหวานแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

1. เบาหวานประเภทที่ 1 เกิดจากการที่ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ซึ่งเป็นความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

2. เบาหวานประเภทที่ 2 เกิดจากร่างกายไม่สามารถนำอินซูลินที่ผลิตออกมาแล้ว ไปใช้ได้

3. ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และมีอาการของโรคเบาหวานประกอบ เช่น ปัสสาวะบ่อย ปากแห้ง ซึ่งภาวะนี้มักเกิดขึ้นร้อยละ 3 – 9 ของแม่ท้อง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สาเหตุของเบาหวานขณะตั้งครรภ์

ร่างกายของคนท้องขณะตั้งครรภ์ มีความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น ต้นเหตุหลัก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากการทำงานของ รก ซึ่งไม่เพียงแต่ลำเลียงอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงลูกน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนอีกด้วย

ในช่วงท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) คอร์ติซอล (Cortisol) และฮิวแมนพลาเซ็นตัลแลคโทเจน (Human Placental Lactogen: HPL) ที่ถูกผลิตออกมามากขึ้น มีฤทธิ์ต่อต้านการทำงานของอินซูลิน ทำให้กลูโคสสะสมอยู่ในเลือด และไม่ถูกนำไปใช้ จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นนั่นเอง

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ส่งผลต่อลูกน้อยอย่างไร ?

ความเสี่ยงต่อคุณแม่ที่เป็นเบาหวานก่อนตั้งครรภ์

ความเสี่ยงต่อคุณแม่ที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์

  • น้ำตาลในเลือดสูง
  • ความดันต่ำ
  • ธาตุเหล็กต่ำ
  • ความดันโลหิตสูง
  • ขนาดของหัวใจขยายใหญ่ผิดปกติ
  • การพัฒนาระบบประสาทบกพร่อง
  • ผลเสียต่อปอด
  • คลอดก่อนกำหนด
  • ทารกเสียชีวิตในครรภ์

ผลกระทบที่จะเกิดกับลูกน้อยหลังคลอด

  • ทารกมีขนาดตัวที่ใหญ่
  • น้ำตาลในเลือดต่ำ
  • แคลเซียมในเลือดต่ำ
  • ธาตุเหล็กในเลือดต่ำ
  • เซลล์เม็ดเลือดแดงสูง เลือดมีความข้น
  • หัวใจ หลอดเลือด สมอง และไขสันหลังบกพร่อง
  • คลอดก่อนกำหนด
  • หัวใจขยายใหญ่
  • ปัญหาการหายใจ
  • โรคอ้วน หรือโรคเบาหวาน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์

  • มีความผิดปกติของการสร้างอินซูลินในร่างกาย หรือเป็นเบาหวานประเภทที่ 1 ซึ่งอาจไม่แสดงอาการ
  • คุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือเป็นโรคอ้วน
  • คุณแม่ที่เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์มาก่อน
  • คนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน

การตรวจหาเบาหวานขณะตั้งครรภ์

โดยทั่วไป แม่ท้องที่มีอายุครรภ์ระหว่าง 24 – 28 สัปดาห์ จะได้รับการตรวจหาเบาหวานขณะตั้งครรภ์อยู่แล้ว ซึ่งจะใช้เวลาตรวจประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงก็จะทราบผลได้ว่า เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือไม่

การตรวจดูความผิดปกติของทารกในครรภ์

โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มักจะส่งผลกระทบต่อลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม่ท้องที่มีการฉีดอินซูลินเข้าไปในร่างกาย เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดภาวะตายคลอด (stillbirth) ได้ การตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ จึงมีความจำเป็น โดยสามารถตรวจได้ด้วยวิธีการเหล่านี้

  • การนับจำนวนครั้งที่ลูกดิ้น โดยนับว่าลูกดิ้น หรือเตะกี่ครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง รวมทั้งสังเกตการเคลื่อนไหวของลูกในครรภ์ด้วย
  • อัลตร้าซาวด์ เพื่อตรวจดูว่าอวัยวะต่าง ๆ ของลูกทำงานได้เป็นปกติดีหรือไม่
  • การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ วิธี Nonstress test โดยอาศัยความสัมพันธ์ระหว่าง จังหวะการเต้นหัวใจทารก กับการดิ้น
  • การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ วิธี Biophysical profile ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการอัลตร้าซาวด์ และ การตรวจความสัมพันธ์ของจังหวะการเต้นของหัวใจทารก กับการดิ้น (Nonstress test)
  • การตรวจดอปเลอร์อัลตร้าซาวด์ เป็นการอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจดูระบบการไหลเวียนของเลือด ว่าเป็นปกติหรือไม่

การดูแลตัวเอง ลดความเสี่ยงของเบาหวานขณะตั้งครรภ์

  • ออกกำลังกายเบา ๆ ให้อัตราการหายใจ และการเต้นของหัวใจ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เดินหลังอาหารเช้า หรือเที่ยงสัก 15 นาที การวิจัยพบว่าการออกกำลังกาย เป็นวิธีรับมือกับระดับน้ำตาลกลูโคสที่เพิ่มสูงขึ้นในกระแสเลือดได้ดีที่สุด เนื่องจากจะช่วยให้ร่างกายสามารถนำอินซูลินไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่หลาย ๆ มื้อ การงดอาหารเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะจะยิ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เป็นปกติ พยายามรับประทานอาหารเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากตื่นนอน และกำหนดเวลารับประทานอาหารกลางวัน อาหารเย็น และอาหารว่างอีก 2 มื้อ วิธีนี้จะทำให้ร่างกายได้รับอาหารทุก 3 – 4 ชั่วโมง และไม่ขาดอาหารนานเกินไป
  • ทานผักให้มากขึ้น ผักควรจะมีปริมาณ 1/3 ของจาน และควรจะเป็นผักต้ม หรือนึ่ง ไม่ควรนำไปทอด
  • ทานผลไม้ไม่เกิน 2 ผลต่อวัน ทานผลไม้สด หรือแช่แข็งก็ได้ แต่หลีกเลี่ยงผลไม้ที่ผสมน้ำเชื่อม น้ำตาล หรือน้ำผลไม้ และควรทานก่อนอาหาร เพื่อป้องกันน้ำตาลในเลือด
  • ทานแป้งไม่ขัดสี ขนมปังธัญพืช ปริมาณที่ควรทานคือ ขนมปัง 2 – 3 แผ่น ข้าวกล้อง พาสต้า หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ถ้วยตวง
  • เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เลือกทานอาหารที่ไม่ติดหนัง และไม่ติดมัน พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงอย่าง เบคอน ไส้กรอก และกุนเชียง เป็นต้น

 

การดูแลสุขภาพ ฝากครรภ์ และหมั่นพูดคุย ปรึกษาแพทย์ จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทั้งคุณแม่ และลูกในท้อง มีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์

ที่มา : rochester , stanfordchildrens

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

การกินอาหารของทารกในครรภ์ ลูกรับสารอาหารจากแม่ทางไหน กินอะไรเพิ่มน้ําหนักลูกในท้อง

ตั้งครรภ์อ่อนๆ ท้องอืด เรอ อาหารไม่ย่อย ลมในท้องเยอะ วิธีบรรเทาอาการท้องอืด

อยากให้ลูกขาว ทำอย่างไร อาหารบำรุงผิวให้มีออร่า ฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Khunsiri