แม่จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกมี สิ่งแปลกปลอมในจมูก ?
เมื่อคุณพ่อ คุณแม่ พาน้องทรายไปโรงพยาบาล ก็ได้รับการตรวจจมูก จึงทราบว่า น้องทรายมีเม็ดส้ม ค้างอยู่ในโพรงจมูกมานาน และ มีการติดเชื้อ เมื่อได้เอาเม็ดส้มออก ร่วมกับทานยาปฏิชีวนะ น้องทราย จึงไม่มีน้ำมูกเรื้อรังอีกเลย แล้วเช่นนี้ คุณพ่อ แม่จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก เราจึงเสนอวิธีการสังเกต และ การปฎิบัติ เมื่อลูกมี สิ่งแปลกปลอมในจมูก ให้คุณพ่อ คุณแม่ทุก ๆ คน ได้ทราบกันค่ะ
ลูกมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก เรื่องที่พบบ่อย ในเด็ก 1-2 ปี
คุณพ่อ คุณแม่ ทราบไหมคะว่า การมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ในเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ อายุ 1-2 ปี ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น และ ซุกซน แต่คุณพ่อคุณแม่มักจะไม่ทราบตั้งแต่แรก นอกจาก ลูกจะมีอาการ เหมือน หรือคล้ายกับน้องทราย ที่มีปัญหาน้ำมูกข้างเดียวยืดเยื้อเริ้อรังจนต้องมาพบคุณหมอ แล้วก็พบว่ามีสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ เช่น ลูกปัด ยางลบ เมล็ดผลไม้ หรือ ถั่ว อยู่ในจมูกนั่นเองค่ะ
ทราบได้อย่างไรว่า ลูกมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก?
หากลูกมีอาการเหล่านี้ คุณพ่อ คุณแม่ควรไปพบคุณหมอ เนื่องจากลูกอาจจะมีสิ่งแปลกปลอมในจมูกนะคะ ได้แก่
- มีน้ำมูกไหลจากจมูกเพียงข้างเดียว ลักษณะน้ำมูกเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น หรือ มีเลือดปน มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงจมูก และ ไซนัสถ้าเป็นมานาน
- มีอาการเจ็บในจมูก หรือ มีเลือดไหลอยู่เรื่อย ๆ ออกจากจมูกข้างเดียวบ่อย ๆ อาจเกิดจากมีสิ่งแปลกปลอมที่มีชีวิต เช่น ปลิง อยู่ในจมูกก็ได้ค่ะ
- เนื่องจากการมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก มักเกิดขึ้นในเด็กเล็กที่ยังพูดสื่อสารได้ไม่ดี คุณพ่อ คุณแม่จึงมักไม่ทราบว่าลูกมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในจมูก ยกเว้นได้ทราบ หรือ เห็นด้วยตนเองว่า ลูกใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในจมูก
หากสงสัยว่าลูกมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก ควรทำอย่างไร?
หากคุณพ่อ คุณแม่ สงสัยว่า ลูกมีอาการที่สงสัยมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก ควรรีบไปพบคุณหมอเพื่อรีบเอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออกให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนค่ะ โดยคุณหมอก็ จะนำสิ่งแปลกปลอมออกจากจมูกอย่างระมัดระวัง ไม่ให้สิ่งแปลกปลอมนั้นหลุดลึกเข้าไปใน หลอดลม และ หากในไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากเด็ก โดยคุณหมอไม่สามารถนำสิ่งแปลกปลอมออกจากจมูกได้ ก็จะต้องเอา สิ่งแปลกปลอมออกโดยการดมยาสลบ
ข้อควรระวัง เมื่อสงสัยว่าลูกมีสิ่งแปลกปลอมในจมูกมีอะไรบ้าง?
หากลูกมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก มีข้อควรระวัง ดังนี้
- ไม่ควรลองใช้เครื่องมือต่าง ๆ พยายามใส่เข้าไปในจมูก เพื่อนำสิ่งแปลกปลอมออกมา เพราะอาจจะเกิดอันตรา ยจากการดันเอาสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในหลอดลม และ เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ อันตรายมากค่ะ
- อย่าพยายามนำสิ่งแปลกปลอมออกจากจมูก แม้จะอยู่ตื้น หากลูกไม่ร่วมมือ เพราะอาจเกิดอันตราย จากการกระทบกระแทกของโพรงจมูกได้
- ถ้าทราบว่าสิ่งแปลกปลอมที่เข้าจมูกเป็นแบตเตอรี่ คุณพ่อคุณแม่ ควรรีบนำเด็ก มาโรงพยาบาล ให้เร็วที่สุด เพราะ ต้องรีบนำออกมาก่อนจะเกิดอันตรายร้ายแรง ต่อเนื้อเยื่อโพรงจมูกนะคะ
สุดท้ายนี้ หมอขอฝาก คุณพ่อ คุณแม่ และ ผู้ดูแลเด็ก ทุกท่านว่า ควรให้เด็กเล็ก ๆ อยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้ใหญ่ตลอดเวลา และ การเก็บของชิ้นเล็ก ๆ ให้อยู่ไกลจากมือเด็ก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ การป้องกันอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในในจมูก ที่ต้องระมัดระวังกันอย่างเคร่งครัดมาก ๆ ค่ะ
ที่มา: https://saranukromthai.or.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ระวังเด็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก กรมควบคุมโรค เตือนพ่อแม่ ดูแลลูก 1-3 ปี สังเกตอาการโรคมือเท้าปาก