แม่กินเหล้า ตอนท้องหรือตอนให้นมลูก ผลลัพธ์จากแอลกอฮอล์ที่แม่กินเข้าไป ยิ่งมีปริมาณสูงเท่าไหร่ แม่เมา ลูกก็จะเมาด้วย!!
ทำไมแม่ท้องไม่ควรกินเหล้า
เนื่องจากแอลกอฮอล์จะดูดซึมได้เร็วจากทางเดินอาหาร การดื่มเพียงเล็กน้อยก็มีผลต่อทารก มีผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยวิสคอนซินในสหรัฐอเมริกาสรุปว่า แม่ตั้งครรภ์ที่ดื่มเหล้าเพียงวันละ 1-2 แก้วในระหว่างสองเดือนแรกที่ตั้งครรภ์ มีผลทำให้สมองและอวัยวะอื่น ๆ ของทารกเติบโตไม่เต็มที่ กระดูกสันหลังคด หน้าตาผิดปกติ หัวเล็ก จมูกแบน ตาตก พัฒนากล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน ใช้มือและนิ้วไม่ดีเท่าที่ควร มีพัฒนาการช้า เช่น การนั่งและยืนช้ากว่าเด็กอื่น และการดื่มจัดขณะตั้งครรภ์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีความผิดปกติได้ด้วย
สำหรับแม่ที่กินเหล้าระหว่างการให้นมลูกก็เช่นกัน แอลกอฮอล์จะผ่านไปสู่น้ำนม โดยระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดแม่จะใกล้เคียงกับระดับแอลกอฮอล์ในน้ำนม ดังนั้นเมื่อแม่ดื่มและให้นมลูกก็จะทำให้ลูกกินนมแม่ที่มีแอลกอฮอล์ การหลีกเลี่ยงที่ทำได้คือ ถ้าจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มในปริมาณที่จำกัด เช่น ไวน์ไม่เกินครึ่งแก้วไวน์ (150 มิลลิลิตร) เบียร์ไม่เกินหนึ่งกระป๋องเล็ก (360 มิลลิลิตร) ค็อกเทลที่ผสมเหล้า 40 ดีกรีไม่เกิน 1 เป็กครึ่ง (45 มิลลิลิตร) และควรเว้นระยะของการให้นมลูกห่างออกไป ร่างกายจะกำจัดแอลกอฮอล์ออกได้ ซึ่งช่วยให้ลูกกินนมแม่ได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดนั้นไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้เหมือนผู้ใหญ่ ผลเสียของแอลกอฮอล์ที่แม่ดื่มจึงมีผลต่อลูกน้อยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแม่ที่ติดเหล้าหรือให้เหตุผลว่าที่ แม่กินเหล้า / ยาดอง เพราะเข้าใจว่าทำให้เลือดลมดี ขับน้ำนมได้มาก การดื่มจัดขณะตั้งครรภ์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะปัญญาอ่อน
อย่างไรก็ตามการป้องกันไม่ให้ลูกเกิดมาปัญญาอ่อนเพราะ แม่กินเหล้า เป็นเรื่องที่ป้องกันได้ด้วยการไม่ดื่มตั้งแต่ทันทีที่ทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างการให้นมลูก ซึ่งจะช่วยให้ลูกไม่ต้องเจอผลกระทบในระยะยาว และไม่ต้องคอยห่วงวิตกกังวลว่าลูกจะได้รับแอลกอฮอล์ไปมากน้อยแค่ไหน เพื่อไม่ให้สายเกินแก้ และให้ลูกน้อยได้เติบโตออกมาเป็นเด็กที่มีพัฒนาการและร่างกายที่สมบูรณ์.
คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง ?
ช่วงเวลาตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ควรให้ความสำคัญกับการทานอาหาร เพราะมีอาหารหลายประเภทที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น อาหารสำเร็จรูปหรือน้ำอัดลม และอาจรวมไปถึงผักผลไม้บางชนิดอีกด้วย เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีส่วนทำให้คุณแม่มีอาการท้องเสีย หรือเกิดกรดไหลย้อนได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารตามโภชนาการนั่นเอง ส่วนอาหารที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกัน
อาหารที่ส่งผลเสียต่อร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์
อาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่ควรต้องหลีกเลี่ยงทั้งผู้ที่ตั้งครรภ์ และไม่ได้ตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นอาหารที่อาจส่งผลต่อร่างกายในเชิงลบ ได้แก่
- อาหารที่แพ้ เช่น กุ้งที่มีคนแพ้กันมาก หากรู้ว่าตนแพ้อาหารชนิดไหนควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทาน
- อาหารรสจัด อาหารทุกรสชาติที่มีรสจัดทำให้เกิดท้องอืดท้องเฟ้อได้ง่าย
- อาหารสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เป็นต้น การทานอาหารเหล่านี้มีผลเสียเนื่องจากมีส่วนผสมของผงชูรสในปริมาณมาก สามารถส่งผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
ผักผลไม้บางชนิดที่ไม่ควรทานระหว่างตั้งครรภ์
จริงอยู่ที่อาหารประเภทผัก และผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการสูงอยู่แล้ว แต่ยังมีบางชนิดที่มีผลต่อคุณแม่และลูกน้อย จึงควรหลีกเลี่ยงไว้ ได้แก่
- ผักเครือเถา เคยมีคำโบราณกล่าวไว้ว่าการทานผักเครือเถาจะทำให้คลอดยาก ซึ่งความจริงแล้วผักชนิดนี้จะมีสาร Purine สูง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเกาต์ ซึ่งอันตรายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
- ผลไม้บางชนิด เช่น มะม่วงดิบ ที่ย่อยได้ยาก ทุเรียน ที่ทำให้จุกเสียดแน่นท้อง และผลไม้รสหวานจัด เนื่องจากจะทำให้เสี่ยงต่อเบาหวานซึ่งเป็นโรคเสี่ยงในคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่แล้ว
เครื่องดื่มที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง
เดิมทีการทานอาหารประเภทนี้มาก ๆ มักจะส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นปกติอยู่แล้ว ยิ่งเป็นผู้ที่ตั้งครรภ์ยิ่งมีผลเสียต่อเด็กที่อยู่ในครรภ์ด้วยอย่างแน่นอน ได้แก่
- ยาจีน หรือยาดอง เนื่องจากเครื่องดื่มประเภทนี้ไม่ได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าสามารถช่วยให้ร่างกายดีขึ้น หรือช่วยบำรุงร่างกายได้ ดังนั้นหากต้องการอาหารเสริมควรปรึกษากับแพทย์จะดีกว่า
- เครื่องดื่มแบบชงเอง เครื่องดื่มเหล่านี้มีทั้งชา กาแฟ หรือช็อกโกแลต เนื่องจากเครื่องดื่มพวกนี้หากทานมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการท้องผูก หรือสารคาเฟอีนที่ทำให้นอนไม่หลับจนพักผ่อนไม่เพียงพอ
- แอลกอฮอล์ ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลต่อพัฒนาการ และการสร้างอวัยวะของทารกในครรภ์
อาหารประเภทอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง
นอกจากอาหารที่กล่าวไปนั้นยังมีอาหารประเภทอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงด้วย เช่น
- อาหารที่มีส่วนผสมของเกลือมาก เช่น อาหารดอง ขนมกรุบกรอบที่มีโซเดียมสูง เพราะเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ
- อาหารแช่แข็ง ที่เก็บใว้เป็นระยะเวลานาน เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
- ตับ เนื่องจากตับมีวิตามินเอค่อนข้างมาก ซึ่งหากมากเกินไปจะส่งผลต่อลูกในครรภ์ได้ แต่หากมีการปรุงสุกแล้วสามารถรับประทานได้ในปริมาณที่พอดี
- ปลาบางชนิด เช่น ปลากระโทงแทง ปลาฉลาม เนื่องจากมีปรอทปริมาณมากไม่ปลอดภัยต่อร่างกาย
แล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ควรทานอะไรบ้าง
อาหารหลัก ๆ ที่คุณแม่ควรทานระหว่างการตั้งครรภ์ต้องเป็นอาหารที่มีสารอาหารช่วยในการเติบโตของลูกน้อยซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ได้แก่
- ธาตุเหล็ก อาหารชนิดนี้ช่วยป้องกันคุณแม่จากโรคโลหิตจาง เช่น ผักโขม ถั่วแดง ไข่แดง ตับ และสัตว์เนื้อแดง เป็นต้น
- แคลเซียม เนื่องจากมีส่วนช่วยให้ระบบกระดูกของลูกน้อยแข็งแรง และป้องกันกระดูกของแม่เสื่อมได้ในอนาคต อาหารที่มีแคลเซียมเยอะ เช่น ผักคะน้า หรือนม เป็นต้น
- โปรตีน มีส่วนช่วยในระบบสมองของลูกน้อยในครรภ์หลัก ๆ แล้วมักพบมากในถั่ว และเนื้อสัตว์บางชนิด เช่น ปลา ไข่ และนมถั่วเหลือง เป็นต้น
- ไอโอดีน หากขาดไอโอดีนจะส่งผลต่อระบบประสาทได้ อาหารที่มีไอโอดีนมาก ได้แก่ อาหารทะเล โดยให้ทานอาหารทะเลที่ตนไม่แพ้ และไม่มีสารปรอทมากจนเกินไป เช่น สาหร่ายทะเล หอย ปลาหมึก เป็นต้น
- โฟเลต สารอาหารชนิดนี้มีส่วนในการพัฒนาไขสันหลัง และระบบประสาทของลูกในครรภ์ เช่น บรอกโคลี แคนตาลูป และคะน้า เป็นต้น
ตลอดเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์มีรายละเอียดมากมายที่ควรต้องทำความเข้าใจ ซึ่งเรื่องอาหารการกินก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกน้อยได้คลอดออกมาด้วยสุขภาพที่ดี และแข็งแรง เพื่อรอยยิ้มที่สวยงามของครอบครัว
แม่ท้องต้องกินอะไรดี? ให้เจ้าตัวเล็กผิวใส ดูมีออร่าตั้งแต่เกิด
เป็นเรื่องธรรมดาของคนท้องที่จะต้องสรรหาอาหารและยาบำรุงเพื่อให้เจ้าตัวเล็กในท้องมีสุขภาพที่แข็งแรง รวมไปถึงการช่วยผิวพรรณของเด็กด้วย ไม่จำเป็นต้องรอให้คลอดก่อนแล้วค่อยบำรุงผิวทีเดียว เพราะเราสามารถบำรุงได้ตั้งแต่ตอนอยู่ในท้องได้เลย ซึ่งเราก็จะมาแนะนำแหล่งอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณของเด็กทารกให้ออกมาดูผิวดีมีออร่า 6 อย่างดังต่อไปนี้
1.อาหารจำพวกถั่วเหลือง
เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญที่นอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายคุณแม่แล้ว ยังช่วยให้เด็กในท้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเจริญเติบโตได้เต็มที่ โดยในถั่วเหลืองมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกระตุ้นให้ผิวดูมีสุขภาพดี เนียนนุ่มชุ่มชื้นและสว่างใสได้มากขึ้น
2.มะพร้าว
เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมายทั้งภายในและภายนอก การทานมะพร้าวนั้นจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงทั้งแม่และเด็กในท้องได้ นอกจากนี้ยังมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใสไร้รอยแผลเป็น ดื่มน้ำมะพร้าวบ่อย ๆ ก็ช่วยให้ผิวเด็กปราศจากไข ผิวขาวผุดผ่องและผิวของคุณแม่ก็จะแข็งแรงผุดผ่องด้วยเช่นกัน
3.ไข่ไก่
ไข่เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญที่จะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ให้แข็งแรง การรับประทานไข่ไก่จะช่วยให้ระบบเซลล์ผิวหนังของเด็กทารกนั้นแข็งแรงมากขึ้นและยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ที่เข้ามาทำร้ายผิวได้เช่นกัน
4.องุ่น
การรับประทานองุ่นจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและการพัฒนาการของเด็กในครรภ์ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงระบบเซลล์ประสาทและสมอง กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ในเรื่องของผิวพรรณองุ่นก็ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวเด็กดูขาวใสและเนียนนุ่มอยู่ตลอด แถมยังช่วยให้ผิวแข็งแรงสามารถเผชิญต่อมลภาวะภายนอกได้
5.เนื้อปลา
อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่งมากขึ้น นอกจากนี้เนื้อปลายังมีปริมาณแคลอรี่ที่น้อย แต่ก็เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญอย่างหนึ่ง สำหรับคุณแม่คนไหนที่กลัวหุ่นจะอ้วนเผละก็สามารถเลือกทานเนื้อปลาจำพวกปลาแซลมอน ก็จะช่วยบำรุงผิวทารกในครรภ์ได้เป็นอย่างดี
6.ผลไม้รสเปรี้ยว
ผลไม้จำพวก เลม่อน ส้ม สับปะรด เหล่านี้มีกรดวิตามินซีที่ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งที่จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส และ ยังมีกรด AHA เป็นสารผลัดเซลล์ผิวอ่อน ๆ ทำให้ทั้งแม่ และ เด็กได้ผิวที่ดูขาวใสอย่างแน่นอน
อาหารบำรุงผิวทารกในครรภ์เหล่านี้ นอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณของทารกในครรภ์ให้ออกมาขาวใสแล้วยังช่วยในเรื่องของการพัฒนาการและเสริมสร้างภูมิคุ้มได้อีกด้วย บำรุงในครรภ์ไว้แต่เนิ่น ๆ คลอดออกมาจะได้ขาวใสแถมแข็งแรงอีกด้วย
อ้างอิง : guruobgyn.com
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
ถึงคุณพ่อที่กำลังจะเป็นพ่อคน สูบบุหรี่ดื่ม เหล้า อันตรายถึง DNA ลูก!!
คนท้องดื่มเหล้าได้ไหมนะ ลูกคลอดมาจะพิการ หรือตายไหม
คนท้องควรรู้ คนท้องกินหอยนางรมได้ไหม กินแล้วอันตรายหรือเปล่า?