ทารกไม่ยอมนอน ตื่นบ่อยตอนกลางคืน เป็นเรื่องที่คุณแม่มือใหม่ต้องเจอกันแทบทุกคน ซึ่งบางครั้งอาจสร้างความกังวลใจให้แก่เราที่กลัวว่าลูกจะไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ หรืออาจเกิดสิ่งที่ผิดปกติขึ้น ทราบหรือไม่ว่า อาการไม่ยอมของทารก สามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ทั้งความหิว สภาพแวดล้อม อาการป่วย สิ่งรบกวน หรือแม้กระทั่งการติดคุณพ่อคุณแม่ ก็อาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับของลูกน้อยได้ด้วย วันนี้ theAsianparent จึงได้รวบรวมสาเหตุ และวิธีการแก้ปัญหาที่ลูกไม่ยอมนอนมาฝากค่ะ
ทำไมจึงควรให้ลูกนอนหลับยาวในตอนกลางคืน
การนอนหลับยาวตอนกลางคืนนั้นดีสำหรับลูกน้อย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ Growth Hormone หรือ ฮอร์โมนการเจริญเติบโตเริ่มทำงาน โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยให้ร่างกายของเด็กเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ หากขาดฮอร์โมนชนิดนี้ จะทำให้เด็กร่างกายของเด็กจะยังไม่เติบโตเต็มที่ ซึ่งบางครั้งอาจมีสภาพเหมือนเด็กอายุ 2 ขวบได้ คุณพ่อคุณแม่หลายคนชอบปลุกลูกตอนกลางคืนเพื่อให้ลูกมาดื่มนม เพราะกลัวลูกจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่แท้จริงแล้ว การกระทำเช่นนี้เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะทำให้ Growth Hormone ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทารกนอนบิดตัว เกิดจากอะไร ส่งผลเสียต่อสุขภาพลูกน้อยหรือไม่?
สาเหตุของปัญหา ทารกไม่ยอมนอน
เมื่อลูกไม่ยอมนอน หรือตื่นกลางดึกบ่อย ๆ อาจเกิดได้หลากหลายสาเหตุดังนี้
-
เป็นธรรมชาติของทารก
ทารกเวลาหลับจะมีอาการนิ่งเป็นปกติ แต่สำหรับบางคนอาจมีอาการดิ้นไปดิ้นมา ซึ่งถือเป็นอาการธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งบางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจเกิดความสงสัยได้
-
มีอาการป่วยหรือไม่สบาย
เด็กที่มาอาการป่วย และไม่สบาย แน่นอนว่าจะเกิดอาการไม่ยอมหลับ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตได้ว่าลูกมีอาการตื่นนอนกลางดึก หรือร้องไห้บ่อ และนานกว่าปกติ รวมทั้งมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ ไม่ยอมกินนม อาจเกิดอาการป่วยขึ้นได้
-
หิว
หากเด็กเกิดร้องไห้ในช่วงกลางดึก อาจเกิดการอาหารหิวได้ ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตเสียงร้องของเด็ก หากลูกร้องเป็นจังหวะด้วยเสียงต่ำ ๆ สั้น ๆ และพยายามเอาลิ้นดุนปาก อาจเกิดจากการหิวนมได้ โดยเฉพาะยิ่งพ่อแม่ไม่สนใจ อาจทำให้พวกเขาเริ่มโกรธ และร้องหนักมากกว่าเดิมได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้นมลูกทันที เมื่อพวกเขาเกิดอาการเหล่านี้
-
ผ้าอ้อมเปียกแฉะ
ทารกที่มีอุจจาระหรือปัสสาวะจนส่งผลให้เกิดผ้าอ้อมเปียกแฉะ อาจทำให้เด็กส่งเสียงร้องจนไม่ยอมนอนออกมาได้ รวมทั้งอาจส่งผลให้เด็กเกิดอาการหงุดหงิด ทำท่าขยับเนื้อขยับตัว ให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็กผ้าอ้อมลูกดูว่ามีความเปียกแฉะหรือไม่ และถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือยัง
-
สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม
คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตสภาพแวดล้อมการนอนของลูก ๆ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากปล่อยให้ลูกนอนในบรรยากาศที่มีเสียงรบกวน และมีคนเดินผ่านไปผ่านมาทั้งวัน จะทำให้ลุกตื่นนอนบ่อยมาก ๆ แม้ว่าจะใช้เปลไกวก็ตาม พยายามเลือกห้องนอนที่เหมาะสม ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาก็จะช่วยให้พวกเขาสามารถหลับได้นาน และนอนได้สบายตัวมากยิ่งขึ้น
-
แพ้อาหารที่คุณแม่กิน
ทารกบางคนที่กินนมแม่อาจเกิดอาการแพ้ หายใจครืดคราด และมีอาการคันตามผิวหนัง เนื่องจากอาหารที่คุณแม่รับประทาน ไม่ว่าจะเป็นนมวัว ชา กาแฟ น้ำอัดลม โกโก้ ช็อกโกแลต และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน อาจออกทางน้ำนมแม่จนทำให้เด็กแพ้ และส่งผลให้นอนหลับได้ยาก ทั้งนี้หากคุณแม่รับประทานอาหารเหล่านี้เพียงเล็กน้อย ก็อาจไม่ส่งผลในน้ำนมได้
-
กินเยอะมากเกินไป
เด็กบางคนที่ดื่มนมมากเกินไป อาจเกิดอาการ Overfeeding หรืออาการอึดอัด แน่นท้องจนไม่สบายตัว ซึ่งหากลูกมีอาการร้องเป็นเสียงแพะ เสียงแกะ บิดตัวไปมา ร้องเสียงเอี๊ยดอาด หรือมีเสียงครืดคราดในลำคอ อาจเกิดจากการกินเยอะมากเกินไปได้ หากลูกมีการอาเจียน แหวะนม จนพุงกางออกเป็นรูปทรงน้ำเต้า นั่นแปลว่าลูกกินเยอะมากเกินไปจนไม่สบายตัวนั่นเอง
-
ฟันขึ้นหรือเจ็บเหงือก
เมื่อทารกเริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ 5 เดือน อาจเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้น จนทำให้รู้สึกปวดตรงเหงือก ลูกจะเกิดอาการร้องไห้พร้อมน้ำลายไหล ซึ่งอาจทำให้มีน้ำลายไหลออกมามาก นอกจากนี้เด็กจะมีเหงือกบวมแดง และกัดทุกอย่างใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นมือเท้าของตัวเอง หัวนมแม่ จนกระทั่งของเล่นต่าง ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีน้ำลายไหลกว่าปกติหรือไม่ หรือมีอาการบวมแดงตรงเหงือก ก็อาจเป็นสาเหตุจากการฟันขึ้นได้
-
อาการโคลิค
อาการโคลิคเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ทารกไม่ยอมนอน โดยมักจะเกิดกับเด็กที่มีอายุประมาณ 2-3 สัปดาห์ ไปจนถึง 3 เดือน เมื่อทารกรู้สึกหิว เบื่อ หรือเหนื่อย ก็มักจะร้องออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ หากลูกเกิดร้องไห้หนักมาก และร้องไห้ในช่วงเวลาเดิม ๆ ตั้งแต่เย็นหรือหัวค่ำ มีเสียงร้องที่ดังแหลม และนานกว่าปกติ ให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณาว่าลูกอาจเกิดอาการโคลิคหรือไม่ ทั้งนี้อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อลูกอายุ 3-4 เดือนขึ้นไป
-
เรียกร้องความสนใจ
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจไม่ทราบว่า เมื่อลูกไม่มีคนเล่นด้วย อาจทำให้พวกเขารู้สึกเหงา เบื่อ จนร้องไห้ออกมา เนื่องจากเด็ก ๆ มักมีความสุขเมื่อมีคนคอยเล่นด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องคอยเอาใจใส่พวกเขาเป็นพิเศษ หากลูกมีอาการไม่ยอมนอน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทารกนอนกรน ปกติไหม ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า
วิธีการรับมือเมื่อ ทารกไม่ยอมนอน
- ให้ลูกกินนมก่อนนอน จะช่วยให้เด็กหลับได้ยาวนาน ไม่หิว และตื่นกลางดึกได้
- ใช้วิธีการห่อตัวทารก เพื่อช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น และรู้สึกปลอดภัย
- อาบน้ำก่อนนอน และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้ลูก จะช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายตัวมากยิ่งขึ้น
- นวดตัวเด็กเบา ๆ หรือตบก้นกล่อมนอน จะช่วยให้เด็กรู้สึกสบายตัว และผ่อนคลายง่ายต่อการนอนหลับได้ดี
- อ่านหนังสือนิทานกล่อมนอน หรือร้องเพลงกล่อมนอนให้ลูกฟัง สามารถช่วยเด็กรู้สึกเพลิดเพลิน จนเคลิ้มหลับเองได้
- ใช้จุกนมหลอก เพื่อช่วยลดอาการร้องไห้งอแงอยากกินนมในเวลากลางคืน โดยเฉพาะทารกบางคนอาจร้องไห้ขอนมทั้งที่กินไป คุณพ่อคุณแม่จึงอาจใช้จุกหลอกให้พวกเขาได้ดูดแทนการดื่มนมได้
- จูบหน้าผากลูกก่อนนอน อาจทำให้เด็กรู้สึกถึงความรัก และความอบอุ่นจากพ่อแม่
- หรี่ไฟในมืดสนิท และจัดห้องลูกให้ไม่มีเสียงรบกวน จะช่วยให้พวกหลับได้ยาวนานขึ้น ไม่สะดุ้งตื่นตกใจกลางดึก
ควรให้ลูกเข้านอนกี่โมงดี
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเข้าใจว่าการให้ลูกนอนเร็ว และนอนเป็นเวลา จะยิ่งส่งผลดี และทำให้ลูกหลับยาว แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่ความเชื่อที่ถูกต้องซะทีเดียว การให้ลูกนอนเร็วตั้งแต่ 1-2 ทุ่ม ไม่ได้หมายความว่าลูกจะหลับยาว การนอนของลูกนั้นควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการบังคับลูกให้นอนถ้าลูกยังไม่ง่วง หรือกรณีที่ ทารกไม่ยอมนอน แต่แค่ให้นอนหลับอย่างเพียงพอ และอย่าปล่อยให้นอนดึกจนเกินไปก็พอ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
การถดถอยของการนอนหลับ อาการของทารก ที่คุณแม่แทบอยากร้องกรี๊ด
ลูกนอนกระตุก ทารกนอนหลับไม่สนิท เป็นเพราะอะไร พ่อแม่ต้องกังวลไหม?
ทารกนอนอย่างไรให้ปลอดภัย ท่านอนทารก ที่นอนทารกแรกเกิด ต้องเป็นแบบไหน
ที่มา : nappibaby, aboutmom, hellokhunmor