ลูกของเราเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดและเรามีโอกาสที่จะปกป้องพวกเขาจากสิ่งอันตรายต่าง ๆ โดยการลดปริมาณสารพิษที่พวกเขารับเข้าไปในร่างกายได้ อาหารปลอดสารพิษสามารถช่วยให้เราเลี้ยงลูกให้มีสุขภาพที่ดีและเป็นเด็กที่แข็งแรงได้ ทั้งนี้ ราคาอาหารปลอดสารพิษอาจแพงกว่าอาหารทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็มีคุณค่าสำหรับคุณและครอบครัวของคุณอย่างมาก
ทำไมเด็กถึงควรทานอาหารปลอดสารพิษ?
เนื่องจากเด็กกำลังพัฒนาอวัยวะของร่างกายเพื่อใช้ไปตลอดชีวิตของเขา เนื่องจากพวกเขามีขนาดร่างกายที่เล็กกว่า มีระบบเผาผลาญพลังงานและระบบอื่น ๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีอาหารให้เลือกน้อยกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้น ทารกและเด็กจึงมีความอ่อนแอกว่าและสามารถถูกทำร้ายจากอาหารและสิ่งแวดล้อมได้อย่างง่ายดาย
ในปีค.ศ. 1993 สภาสหรัฐอเมริกามอบอำนาจให้ทางสถาบันการศึกษาวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาและแสดงวิธีที่จะประเมินให้เห็นว่าสารพิษทำให้เด็กมีปัญหาสุขภาพได้ และเมื่อไม่นานมานี้ ทางสหภาพผู้บริโภคและกลุ่มผู้คุ้มครองสภาพแวดล้อมในการทำงานได้เปิดเผยงานวิจัยที่ยืนยันให้เห็นว่าเด็กมีการรับสารพิษจากอาหารมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่สารพิษนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎหมาย กฎหมายคุ้มครองคุณภาพอาหารปี 1996 กำหนดให้มีการทบทวนสารเคมีที่ใช้ในภาคเกษตรกรรมเนื่องจากมีข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงนี้ และในกฎหมายนี้ก็ได้กำหนดว่า เมื่อตั้งค่ามาตรฐานการใช้ยาฆ่าแมลงที่ใช้ในอาหารจะต้องมีความปลอดภัยกับเด็กเพิ่มขึ้น 10 เท่า เมื่อมีมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้ การเลือกซื้ออาหารปลอดสารพิษน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องลูกของคุณได้
เลือกอาหารปลอดสารพิษอย่างไร อ่านหน้าถัดไป >>>
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีตราสัญลักษณ์ความปลอดภัย
เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและคุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายเพิ่มขึ้น คุณควรเลือกซื้ออาหารปลอดสารพิษที่มีสัญลักษณ์จากกรมการอาหารหรือโครงการหลวง เพื่อให้คุณได้มั่นใจว่าทุกบาททุกสตางค์ที่คุณจ่ายไป คุณจะได้อาหารที่ปลอดภัยและลูกจะได้รับแต่สิ่งที่ดี่ที่สุด นอกจากนี้ ปัจจุบันอาหารปลอดสารพิษสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เช่น ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ตามตลาด หรือตามร้านของโครงการหลวง
หากครอบครัวคุณยังไม่ได้หันมารับประทานอาหารปลอดสารพิษ วันนี้ก็ยังไม่สาย ลองมาดูเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยคุณเปลี่ยนครอบครัวของคุณให้มารับประทานอาหารปลอดสารพิษได้ง่าย ๆ
1. เริ่มด้วยการทำอาหารจานโปรดของลูกด้วยผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ
เด็กมักกลัวที่จะทานอาหารที่แปลกไป และพวกเขามักอยากทานอาหารชนิดเดิมทุกวัน นี่เป็นพัฒนาการที่ปกติสำหรับเด็กทั่วไป ดังนั้น ขั้นตอนแรกคือให้ลูกทานอาหารที่เขาชอบทานมากที่สุดแต่ทำมาจากผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ พวกเขาจะไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และจะช่วยคุณประหยัดเวลาและแรงในการเกลี้ยกล่อมลูกให้ทานอาหารปลอดสารพิษที่เขาไม่คุ้นเคยได้
2. รับประทานผักปลอดสารพิษแทนผักที่ใช้ยาฆ่าแมลงสูง
คุณควรระลึกไว้เสมอว่าปริมาณสารตกค้างที่อนุญาตให้มีในอาหารที่ไม่ปลอดสารพิษเป็นระดับที่ยอมรับได้สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น นั่นหมายความว่า เด็กอ่อนและเด็กที่กำลังพัฒนาอวัยวะและระบบร่างกายมีความเสี่ยงต่อสารพิษมากกว่าผู้ใหญ่และมีความไวต่อสารพิษมากกว่า ผู้ที่ทานผักผลไม้ที่มีสารเคมีหลงเหลือพบว่ามีปริมาณของยาฆ่าแมลงสะสมในร่างกายสูงที่สุด อาหารในกลุ่มผักผลไม้ที่คุณควรให้ลูกเปลี่ยนมารับประทานแบบปลอดสารพิษแทนคือ อะโวคาโด กล้วย ลูกแพร์ บล็อคโคลี ถั่ว แครอท และมันเทศ เป็นต้น
3. เลือกอาหารปลอดสารพิษเพื่อหลีกเลี่ยงฮอร์โมนสังเคราะห์ที่ปนเปื้อนในเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์นม
ในการเลี้ยงสัตว์ เกษตรกรมักให้ฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะกับสัตว์เพื่อเร่งการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตของนมหรือไข่ หากคุณให้ลูกน้อยทานอาหารจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงการรับยาต้านแบคทีเรียและฮอร์โมนสังเคราะห์ที่นำมาใช้ในสัตว์เหล่านี้ด้วย อาหารที่ผลิตแบบปลอดสารพิษจะไม่มีการใช้สารเหล่านี้ในกระบวนการผลิต เกษตรกรจะผลิตอาหารด้วยมาตรฐานปลอดสารพิษตามที่กำหนด พร้อมกับมีการออกตรวจสอบจากภาครัฐเพื่อยืนยันคุณภาพด้วย
พ่อแม่ที่รู้ว่าได้ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและสิ่งที่ดีที่สุดกับลูก จะทำให้พวกเขาสบายใจได้ และหากคุณมีข้อมูลที่ถูกต้อง ยิ่งจะช่วยให้ลูกคุณเติบโตและพัฒนาร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง อาหารที่คุณเลือกให้พวกเขาในวันนี้จะส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของเขาในวันหน้า
บทความใกล้เคียง: อาหารบำรุงสมอง
บทความใกล้เคียง: ไอเดียอาหารกล่องสำหรับลูก