การเข้าใจเรื่องประจำเดือนหลังผ่าคลอดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตร การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและฮอร์โมนที่เกิดขึ้นหลังคลอดสามารถทำให้ประจำเดือนของคุณเปลี่ยนแปลงไปมาก การเตรียมตัวและความรู้เรื่องนี้จะช่วยให้คุณแม่สามารถจัดการกับประจำเดือนหลังผ่าคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจึงนำเรื่องของ ประจำเดือนหลังผ่าคลอด เพื่อให้คุณแม่เตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังผ่าคลอด ไปดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ประจำเดือนหลังผ่าคลอด
ประจำเดือนหลังผ่าคลอดคือการที่ร่างกายของผู้หญิงเริ่มมีรอบเดือนอีกครั้งหลังจากที่คลอดบุตร สำหรับคุณแม่บางคน ประจำเดือนอาจกลับมาหลังจากผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ แต่สำหรับคนอื่น ๆ อาจใช้เวลาหลายเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การให้นมบุตรและการฟื้นตัวของร่างกาย เรามีสาระดี ๆ เกี่ยวกับประจำเดือนหลังคลอดมาฝาก
1. ประจำเดือนหลังผ่าคลอดทำไมยังไม่มา
ปัจจัยที่ส่งผลต่อประจำเดือนหลังผ่าคลอด ขึ้นอยู่กับการให้นมลูกและระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว ระดับฮอร์โมน เอสโตรเจน โพรเจสเทอโรน และฮอร์โมน hCG จะลดลงหลังคลอด แต่การให้นมลูกจะทำให้ระดับฮอร์โมนเหล่านั้นยังอยู่ หรือลดลงช้ากว่าปกติ จึงอาจจะทำให้ประจำเดือนแรกหลังคลอดยังไม่มา หรือมาช้าได้เป็นเรื่องปกติ
2. ประจำเดือนหลังผ่าคลอดเริ่มมาเมื่อไหร่
สถิติโดยทั่วไปทั้งของคุณแม่ที่ทำการผ่าคลอด หรือคลอดธรรมชาติ พบว่าประจำเดือนหลังคลอดจะเริ่มมีในช่วงระยะเวลาดังนี้
- คุณแม่ประมาณ 60% จะเริ่มมีประจำเดือนในช่วงเดือนที่ 7 หลังคลอด
- ประมาณ 20% จะเริ่มมีประจำเดือนในช่วงเดือนที่ 2 – 4 หลังคลอด
- คุณแม่อีกจำนวน 10% จะเริ่มมีประจำเดือนในช่วง 2 เดือนครึ่งหลังคลอด
3. ประจำเดือนหลังผ่าคลอดกับการให้นมลูก
ประจำเดือนหลังคลอดของคุณอาจจะยังไม่มาจนกว่าคุณแม่จะหยุดให้นมลูก แต่สำหรับคุณแม่บางท่าน ประจำเดือนก็อาจจะมาตั้งแต่ 2 เดือนแรกหลังจากการคลอดก็มี และหากว่าคุณแม่ให้นมลูกน้อยเท่าไร โอกาสที่ประจำเดือนแรกจะมาก็มีมากขึ้นเท่านั้น หรือหากคุณแม่ให้นมผงแทนการให้นมจากเต้า ประจำเดือนแรกหลังคลอดก็อาจจะมาเร็วกว่า 6 เดือนหลังคลอดได้
บทความที่น่าสนใจ: 15 คำถามที่พบบ่อยเรื่องผ่าคลอด เรื่องน่ารู้ก่อนเป็นคุณแม่
4. ประจำเดือนหลังผ่าคลอด ยังไม่มาก็ท้องได้
การที่ประจำเดือนยังไม่มา หลังจากการผ่าคลอด ไม่ได้หมายความว่าร่างกายจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก ประจำเดือนหลังคลอดอาจจะกลับมาในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การให้นมลูก หรือสุขภาพทั่วไปของแม่หลังคลอด
การให้นมลูกเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่มีผลต่อการกลับมาของประจำเดือน เนื่องจากฮอร์โมนโปรแลคตินที่หลั่งออกมาในระหว่างการให้นมสามารถยับยั้งการตกไข่ได้ แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าไข่จะไม่ตก และแม้ว่าประจำเดือนยังไม่มา ร่างกายก็ยังอาจจะมีการตกไข่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว
ดังนั้น หากมีการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้วิธีการคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถุงยางอนามัย การใช้ยาคุมกำเนิด การใส่ห่วงคุมกำเนิด หรือวิธีการอื่น ๆ ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ แม้ประจำเดือนจะยังไม่กลับมาหลังจากการผ่าคลอดก็ตาม ดังนั้นการคุมกำเนิดจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการมีลูกในช่วงเวลานั้น ๆ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมหรือไม่พึงประสงค์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับตนเอง และเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพทั้งแม่และลูกน้อยในระยะยาวค่ะ
บทความที่น่าสนใจ: ผ่าคลอดกี่เดือนถึงจะมีเพศสัมพันธ์ได้ เมื่อไหร่ควรมีเพศสัมพันธ์ได้
5. การผ่าคลอดไม่ได้ทำให้ประจำเดือนแรกมาช้า
การผ่าคลอดนั้น ไม่มีผลต่อประจำเดือนแรกหลังคลอดว่าจะมาเมื่อใด แต่การที่ประจำเดือนแรกมาช้าขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ ซึ่งหากฮอร์โมนหลังจากการคลอดของคุณกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว ประจำเดือนก็จะเริ่มมาตามปกติ
6. ประจำเดือนแรกอาจจะมาน้อยและไม่ค่อยมีอาการปวด
สำหรับคุณแม่บางท่าน ประจำเดือนแรกหลังคลอดจะมาน้อย ปวดประจำเดือนน้อยกว่า และมาในช่วงเวลาสั้นกว่าปกติ เนื่องมาจากการขยายตัวของมดลูกระหว่างที่ตั้งครรภ์ อีกทั้งระดับฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนที่สูงขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์จะทำให้อาการปวดประจำเดือนลดลง
7. ประจำเดือนหลังผ่าคลอดอาจมาไม่สม่ำเสมอ
หลังจากการผ่าคลอด ร่างกายของผู้หญิงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวและปรับสมดุลฮอร์โมนใหม่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอในช่วงแรกหลังคลอด ปัจจัยที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออาจประกอบด้วย
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: หลังคลอด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะลดลง ในขณะที่ระดับฮอร์โมนโปรแลคติน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างน้ำนมจะสูงขึ้น โปรแลคตินสามารถยับยั้งการตกไข่และทำให้ประจำเดือนมาช้า
- การให้นมบุตร: การให้นมบุตรโดยเฉพาะการให้นมจากเต้าจะทำให้ระดับโปรแลคตินสูงขึ้น ซึ่งยับยั้งการตกไข่และทำให้ประจำเดือนมาช้า การให้นมแม่อย่างต่อเนื่องอาจทำให้ประจำเดือนไม่มาเป็นเวลาหลายเดือน
- ภาวะทางกายภาพและจิตใจ: การฟื้นตัวจากการผ่าคลอดและการดูแลทารกแรกเกิดอาจทำให้ร่างกายและจิตใจมีความเครียด ซึ่งส่งผลต่อรอบเดือน
- ภาวะทางสุขภาพอื่น ๆ: โรคหรือภาวะทางสุขภาพบางประการ เช่น ภาวะโพสต์พาร์ทัมฮีโมเรจ (postpartum hemorrhage) หรือโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์อาจมีผลกระทบต่อรอบเดือน
โดยปกติแล้ว ประจำเดือนจะกลับมาในช่วงระหว่าง 6 สัปดาห์ถึง 6 เดือนหลังคลอด แต่ถ้าให้ลูกดูดนมแม่ อาจจะนานถึง 1 ปีหรือมากกว่านั้น หากมีความกังวลหรือประจำเดือนไม่กลับมาเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจเช็กและคำแนะนำเพิ่มเติม
8. ของเหลวที่ออกมาหลังคลอด อาจไม่ใช่ประจำเดือน
หลังจากที่คุณแม่ทำการคลอดแล้ว ไม่ว่าจะคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด จะมีสิ่งที่เรียกว่าน้ำคาวปลาออกมา โดยน้ำคาวปลานั้นเป็นของเหลวที่ออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิง ประกอบไปด้วยเลือด น้ำเหลือง น้ำคร่ำ เยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมา และน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ ลดลงและหายไปเมื่อแผลในโพรงมดลูกหายสนิท
9. ประจำเดือนหลังผ่าคลอดมีลักษณะอย่างไร
ประจำเดือนหลังผ่าคลอดมีลักษณะที่แตกต่างจากปกติทั่วไปที่ผู้หญิงเป็นประจำ เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงหลังจากการตั้งครรภ์และการคลอดลง การขับถ่ายของมดลูกที่ออกมาจึงมีลักษณะเป็นการขับถ่ายที่มากขึ้น อาจมีเลือดปนออกมาด้วยก็ได้ ซึ่งเรียกว่า “เลือดหลังคลอด” มักจะมีการออกเลือดน้อยๆ แต่บางครั้งอาจมีมากขึ้นก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วการเลือดหลังคลอดจะเป็นเรื่องปกติ และไม่ถือเป็นปัญหาที่ร้ายแรง
10. สัญญาณว่าประจำเดือนจะกลับมาหลังผ่าคลอด
การเป็นประจำเดือนที่กลับมาหลังจากผ่าคลอดเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการฟื้นตัวของร่างกายหลังจากทารกเกิด เมื่อผ่าคลอดเสร็จสิ้นแล้ว ระบบร่างกายของผู้หญิงจะเริ่มปรับตัวให้กลับสู่สภาพปกติ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและได้รับผลกระทบจากการผ่าตัดและการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอด ซึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าประจำเดือนจะกลับมาหลังจากผ่าคลอดได้แก่การมีอาการรับรู้ว่าร่างกายกำลังเริ่มปรับตัวเข้าสู่ระบบปกติอีกครั้ง เช่น อาการเจ็บแสบหรือคัดหน้าท้อง, รู้สึกอ่อนเพลีย, หรือมีอาการเหมือนกับช่วงที่ประจำเดือนจะมาก่อนหน้าที่จะตั้งครรภ์ เป็นต้น
การเข้าใจเรื่องประจำเดือนหลังผ่าคลอดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ การเตรียมตัวและการดูแลสุขภาพหลังคลอดจะช่วยให้ประจำเดือนกลับมาเป็นปกติและช่วยให้คุณแม่สามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่พบความผิดปกติอย่างเช่น มีตกขาวที่มีกลิ่นเหม็นร่วมกับอาการเป็นไข้ ก็อาจจะเป็นไปได้ที่คุณอาจจะมีอาการติดเชื้อหลังคลอด ดังนั้นควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว
ที่มา momjunction.com, medthai.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผ่าคลอดครั้งที่ 3 อันตรายไหม ผ่าคลอดได้ไม่เกินกี่ครั้ง
ผ่าคลอดกี่วันถึงจะขับรถได้ คำแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
แม่ผ่าคลอด คุณพร้อมไหม? เตรียมให้พร้อม ทั้งเรื่อง “สมองไว” และ “ภูมิคุ้มกันแข็งแรง”
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!