เพราะอะไรเด็กถึง เป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น
ในปัจจุบันนี้พบว่าอัตราส่วนของประชากรที่ เป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น ทุก ๆ ปี นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งสมมติฐานว่าอาจมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไป
มีการศึกษาที่รวบรวมข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน ที่มีส่วนทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในเด็ก ทำให้ได้ข้อสรุปว่าสิ่งแวดล้อมภายนอกน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเกิดโรคภูมิแพ้จริง โดยแบ่งปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้เป็น 3 กลุ่มดังนี้ค่ะ
-
จุลินทรีย์และสิ่งแวดล้อมที่เด็กสัมผัส เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
- การคลอดทางช่องคลอด จะทำให้เด็กทารกได้สัมผัสกับแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย คือ Lactobacillus ในช่องคลอดของมารดา ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ ส่วนเด็กที่คลอดโดยการผ่าคลอดจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น
- การให้นมแม่ เด็กที่ทานนมแม่จะมีแบคทีเรียที่ดี เช่น Bifidobacterium อยู่ในทางเดินอาหารมากกว่า เด็กที่ทานนมวัว และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ลงได้
- การเลี้ยงเด็กในสิ่งแวดล้อมกสิกรรม อยู่ในพื้นที่สีเขียวตั้งแต่วัยเด็กเล็ก ทำให้เด็กได้สัมผัสกับ endotoxin ซึ่งมีการศึกษาอย่างชัดเจนว่าช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้
- การติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะ RSV และ HRV ตั้งแต่ในเด็กเล็ก จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหืดเมื่อโตขึ้น
- การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่จำเป็นในทารก จะทำให้ปริมาณแบคทีเรียที่ดีในร่างกายลดลง จึงเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้ได้
-
สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน
- ไรฝุ่น แมลงสาบ หนู และเชื้อรา หากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเหล่านี้ในปริมาณมากก่อนอายุ 5 ปี จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะโรคหืดได้
- สัตว์เลี้ยงได้แก่สุนัขและแมว การศึกษาในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงหรือช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้กันแน่ เพราะมีหลายการศึกษาวิจัยที่ผลขัดแย้งกัน
-
มลภาวะ
- มลภาวะในอากาศ มีการศึกษาวิจัยที่สรุปผลอย่างชัดเจนว่าการสัมผัสกับมลภาวะต่างๆ โดยเฉพาะมลภาวะที่เกิดจากการจราจร เช่นก๊าซพิษบนท้องถนนต่าง ๆ หรือมลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรม จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหืดหรือหลอดลมไวในเด็ก
- ควันบุหรี่ การสัมผัสกับควันบุหรี่ตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์มารดา หรือคลอดออกมาแล้ว โดยที่มารดาเป็นผู้สูบบุหรี่เอง หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต้องสัมผัสกับควันบุหรี่ ล้วนเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ในทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคหืดในเด็กได้
เราจะลดความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้ของลูกได้อย่างไร?
เมื่อได้ทราบปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมทั้ง 3 ข้อนี้ที่มีผลต่อโรคภูมิแพ้ ก็จะสามารถนำมาประยุกต์ในการปฏิบัติเพื่อลดโอกาสที่ลูกของคุณพ่อคุณแม่จะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ ใช่ไหมคะ ยกตัวอย่างเช่น
- เลือกวิธีคลอดแบบธรรมชาติทางช่องคลอด หากไม่มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนก็ไม่จำเป็นต้องผ่าคลอด
- ให้ลูกทานนมแม่
- ให้ลูกสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด
- ป้องกันการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจของลูกน้อยวัยทารก เช่น ไม่ไปในที่ชุมชนคนเยอะ หรือ ไม่ส่งเข้าเนอสเซอรี่หากไม่จำเป็นจริง ๆ
- ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่มีข้อบ่งชี้
- กำจัดสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่นฝุ่น ไรฝุ่น แมลงสาบ หนู
- หลีกเลี่ยงมลภาวะในอากาศ ทางจากการจราจรและอุตสาหกรรม
- หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่สูบบุหรี่ และไม่ไปอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดทั้งในและนอกบ้าน
ลองนำผลการศึกษาวิจัยนี้ ไปปฏิบัติ เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ของเด็ก ๆ กันนะคะ
เอกสารอ้างอิง : Burbank AJ, Sood AK, Kesic MJ, Peden DB, Hernandez ML. Environmental determinants of allergy and asthma in early life. J Allergy Clin Immunol. 2017;140:1-12.
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แพ้น้ำลาย ผื่นรอบปากทารกวัยเล่นน้ำลาย จากการระคายเคือง
6 ปัจจัยที่มีผลต่อสมอง และพัฒนาการที่สมบูรณ์ของวัยทารก
ทราบได้อย่างไรว่าลูกแพ้อาหารผ่านนมแม่ ทารกเป็นผื่น ถ่ายมีมูกเลือด คือแพ้ใช่ไหม