เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียนอนุบาล เด็กไปโรงเรียน เด็กๆ จำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง สำหรับพ่อแม่ที่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรให้ลูก ลองมาดูลิสต์รายการที่เด็กๆ ต้องใช้ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. เด็กไปโรงเรียน ชุดสำรอง
ในโรงเรียนบางทีอาจมีกิจกรรมให้น้องๆ ได้ทำในแต่ละวัน สิ่งแรกที่คุณแม่ต้องทำคือดูตารางเรียนของน้องๆ ว่าวันนี้มีเรียนอะไรบ้าง จำเป็นต้องมีชุดไปเปลี่ยนไหม เพื่อที่น้องๆ จะได้มีชุดใส่หลังจากทำกิจกรรมค่ะ แต่สำหรับน้องๆ ที่เพิ่งเข้าโรงเรียน การมีชุดสำรองติดกระเป๋าไว้น่าจะดีกว่า เพราะน้องบางคนยังมีปัญหาเรื่องการฉี่รดที่นอนอยู่ หรือไปเข้าห้องน้ำไม่ทัน ชุดสำรองน่าจะช่วยได้ค่ะ และอย่าลืมปักชื่อให้เรียบร้อย ป้องกันการสลับชุดด้วยนะคะ
2. เด็กไปโรงเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียน
ไปเรียนจะไม่มีอุปกรณ์การเรียนได้ยังไงใช่ไหมค่ะ อุปกรณ์การเรียนก็ได้แก่ ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด กล่องดินสอ สี จะเป็นสีเทียนหรือสีแท่งก็ได้ค่ะ สมุดแต่ละรายวิชาตามตารางเรียน และแฟ้มใส่ผลงานน้อง นอกเหนือจากนี้ อาจต้องถามครูประจำชั้นว่าต้องมีอะไรเพิ่มเติมไหม
3. นมกล่อง
ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนจะมีนมให้น้องอยู่แล้ว แต่ว่าที่โรงเรียนอาจปล่อยให้น้องกินนมตามเวลาเท่านั้น ทำให้บางโรงเรียนแจ้งให้พ่อแม่เตรียมนมมาให้ลูกเผื่อไว้ด้วย เพื่อให้น้องๆ ได้ทานเพิ่มเติมค่ะ ที่สำคัญคุณแม่อย่าลืมแจ้งคุณครูหากลูกน้อยแพ้นมวัว หรือแพ้อาหารอื่นๆ ค่ะ คุณครูจะได้ระวังในเรื่องของอาหารการกินน้องได้ดีขึ้น
4. เด็กไปโรงเรียน ขวดใส่น้ำ
ขวดใส่น้ำหรือกระติกใส่น้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้น้องๆ กินน้ำได้ง่ายขึ้น และเป็นการควบคุมโรคได้ระดับหนึ่ง เนื่องจากเด็กๆ อาจจะใช้แก้วในการดื่มน้ำกับเพื่อน หากเพื่อนคนนั้นป่วยด้วยก็จะทำให้น้องป่วยตามได้ง่ายค่ะ ทำให้โรงเรียนส่วนใหญ่จึงกำหนดให้นักเรียนพกขวดน้ำของตัวเองมาด้วยนั่นเองค่ะ แนะนำให้คุณแม่เลือกแบบมีสายสะพายนะคะ เด็กๆ จะได้ไม่ต้องถือให้เมื่อย และสามารถพกพาได้ง่าย ถ้าโรงเรียนมีกิจกรรมนอกสถานที่ค่ะ
5. ขนมทานเล่น
เด็กน้อยเป็นวัยที่กำลังกินกำลังโต น้องบางคนอาจรู้สึกว่าขนมที่โรงเรียนน้อยเกินไปกินไม่พอ อยากกินอีก หากคุณแม่กลัวว่าน้องจะหิวลองหยิบขนมให้น้องติดกระเป๋าไว้ได้ค่ะ แต่อาจต้องถามคุณครูเพิ่มเติม เพราะบางโรงเรียนอาจจะมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันนะคะ จะได้เป็นการฝึกให้น้องๆ ทานเป็นเวลาด้วย
6. ผ้าเช็ดหน้า
ผ้าเช็ดหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญกับเด็กๆ มาก เพราะว่ามันสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น เวลาที่น้องล้างหน้าก็ไว้ซับหน้า หรือจะเป็นตอนแปรงฟัน หรือไว้เช็ดเวลาที่มีน้ำมูก หรือจะตอนที่กำลังไอหรือจาม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องสอนว่าเวลาไหนควรหยิบผ้าเช็ดหน้ามาใช้ด้วยนะคะ
7. แปรงสีฟัน
สุขภาพช่องปากต้องเริ่มต้นดูแลตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าทุกโรงเรียนมักจะให้น้องๆ ได้แปรงฟันหลังกินข้าว คุณแม่ก็อย่าลืมเปลี่ยนแปลงให้ลูกเมื่อถึงเวลา หากรู้สึกว่าลูกใช้แปรงนานแล้วนะได้เวลาเปลี่ยนแปรงแล้ว ก็อาจจะหยิบใส่กระเป๋าให้ลูกไปด้วย
8. ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
จริงๆ คุณครูย่อมมีเบอร์โทรของพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนทุกคนอยู่แล้ว แต่อย่าประมาทดีกว่าค่ะ เพราะบางครั้งคุณครูประจำชั้นอาจจะติดภาระกิจด่วนวันนั้นมาโรงเรียนไม่ได้ หากลูกคุณแม่เจ็บป่วยฉุกเฉินขึ้นก็จะได้โทรติดต่อได้สะดวกด้วยค่ะ
สำหรับน้องๆ ที่ต้องเข้าโรงเรียนอนุบาลวันแรก อาจจะต้องเตรียมมากกว่านี้อีก เช่น ที่นอน สำหรับนอนกลางวันของน้องๆ อันนี้ต้องดูว่าทางโรงเรียนมีให้หรือไม่หรือว่าพ่อแม่ต้องเตรียมไปเองนะคะ แนะนำว่าให้คุณแม่ซื้อยาวหน่อยเพราะว่าจะได้ใช้หลายๆ ปีหน่อยค่ะ และต้องเลือกที่นุ่ม สบาย พกพาสะดวก พับเก็บได้ง่ายด้วย
เครื่องแต่งกาย เป็นสิ่งที่น้องๆ ทุกคนต้องมี ตั้งแต่ ถุงเท้า รองเท้า ชุดพละ ชชุดนักเรียน และชุดอื่นๆ ซึ่งรองเท้าก็ควรเลือกพอดีนะคะ ไม่ควรเลือกเผื่อไว้มาก เพราะถ้าใหญ่ไปน้องวิ่งเล่นอาจทำให้สะดุดล้มได้ง่าย
กระเป๋านักเรียน บางโรงเรียนให้ใช้กระเป๋าของโรงเรียนเท่านั้น แต่บางทีสามารถใช้กระเป๋าที่ซื้อจากข้างนอกได้ ทั้งนี้ คุณแม่อย่าลืมศึกษากฎระเบียบของโรงเรียนนะคะ แต่ถ้าเลือกซื้อเองจากข้างนอกแนะนำให้เลือกกระเป๋าที่เบาหน่อย มีสายสะพายหนา เพื่อเวลาลูกสะพายจะได้ไม่ปวดหลัง หรือจะเลือกเป็นแบบกระเป๋าลากก็น่ารักไปอีกแบบค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากจะเตือนพ่อแม่อีกครั้งว่าอย่าลืมเขียนชื่อ หรือทำสัญลักษณ์ไว้บนข้าวของเครื่องใช้ลูกนะคะ จะได้ไม่สลับหรือหลงกับเพื่อน และอย่าเผลอหยิบของเล่นให้ลูกไปโรงเรียนล่ะ เพราะทางโรงเรียนน่าจะมีอยู่แล้ว ยกเว้นที่ว่าในช่วงแรกของการไปโรงเรียน อาจให้ลูกเอาผ้าห่มที่ลูกติด หรือตุ๊กตาที่ติดไปด้วยก็ได้ แล้วบอกว่าถ้าคิดถึงพ่อแม่ให้กอดตุ๊กตาไว้นะลูก จะช่วยให้เด็กคลายกังวลลงได้ค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
แฟชั่นรับ-ส่งลูกที่โรงเรียน แม่ๆ แต่ละคนคือปังมาก เพราะทุกที่คือรันเวย์จริงๆ
การบ้านสำหรับเด็กอนุบาลเป็นสิ่งจำเป็นรึเปล่านะ?
สารอาหารเด็กเล็ก อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี ลูกต้องการสารอาหารอะไรบ้าง