การ ดูแลทารกแรกเกิด ของคุณแม่เริ่มต้นตั้งแต่การให้นมจนถึงขั้นอดหลับอดนอน การเลี้ยงลูกในช่วงแรกเกิดจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายและอาจต้องผ่านความยากลำบากในจุดนี้ไปให้ได้ และนี่คือเคล็ดลับที่ช่วยให้แม่มือใหม่นั้นได้เรียนรู้และเข้าใจในการดูแลเบบี๋มากขึ้น
8 เคล็ดลับในการ ดูแลทารกแรกเกิด สำหรับแม่มือใหม่
#1 คุณแม่สามารถถอดเบบี๋สูทของลูกน้อยโดยดึงลงได้นะ
มันจะง่ายกว่ามา ถ้าคุณแม่ต้องเปลี่ยนเสื้อที่เลอะอึลูกโดยดึงลงมาทางก้นได้ มากกว่าที่จะดึงชุดออกทางศีรษะของเจ้าตัวน้อย
#2 ท่าบริหารเพื่อระบายแก๊สในท้องของเบบี๋
การมีแก๊สในกระเพาะอาหารและไม่ได้ระบายออกอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทารกร้องไห้ เพราะรู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ไม่สบายตัว แต่มันทีวิธีที่จะช่วยให้เบบี๋สบายท้องได้ ด้วยการจับลูกน้อยนอนหงาย จากนั้นยกแขนขวาและขาซ้ายของลูกเข้าหากัน ให้ศอกและเข่าได้สัมผัสกัน โดยแตะสลับทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อช่วยให้ลูกเรอและรู้สึกสบายตัวขึ้น
#3 สำหรับทารกแรกเกิดไม่ควรตื่นนานกว่า 1 ชม.ครึ่ง
ช่วงแรกของทารกแรกเกิดนั้นจะใช้เวลาในการนอนอย่างมาก ถึงแม้เด็ก ๆ อาจไม่ได้นอนทีละนาน ๆ และจะสลับกับการตื่นนอน แต่ที่สำคัญคือ ทารกแรกเกิดนั้นควรตื่นอยู่ได้เป็นระยะเวลานานมากที่สุดคือไม่เกิน 1 ชม.ครึ่งเท่านั้น เพราะจะทำให้ลูกหงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย ในช่วงกลางวัน ลูกควรได้นอนมากกว่า 2-3 ครั้ง แต่อย่าให้ลูกนอนนานกว่า 1 ชั่วโมง เด็กแรกเกิดควรได้นอนประมาณวันละ 15 ชั่วโมง ซึ่งรวมทั้งเวลานอนปกติตอนกลางคืนและเวลานอนระหว่างวัน
อ่านเคล็ดลับการดูแลเจ้าตัวน้อยข้อ 4-8 หน้าถัดไปนะคะ >>
#4 บันทึกตารางการให้นมและการเปลี่ยนผ้าอ้อมของลูก
ในช่วงแรก ๆ คุณแม่ควรทำบันทึกการให้นมว่าลูกดื่มไปกี่ออนซ์ หรือให้นมจากเต้าแต่ละข้างได้นานข้างละกี่นาที รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนผ้าอ้อมของลูกวันละกี่แผ่น บันทึกไปถึงการฉี่และอึของลูก เช่น อึที่ออกมาเป็นอย่างไร ทั้งเรื่องสี ลักษณะ และความถี่การปัสสาวะหรืออึ เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งละเอียดอ่อนที่คุณแม่ลูกอ่อนจำเป็นที่จะต้องทำไว้นะคะ
#5 หาวิธีการอุ้มลูกน้อยในแบบอื่นๆ
คุณแม่อาจต้องคอยสังเกตว่า ลูกน้อยมีความสุขตอนถูกอุ้มท่าไหน เมื่อเขาร้องแล้วอุ้มท่าไหนทำให้เบบี๋สงบลงได้ แต่การอุ้มลูกให้อยู่ในอ้อมแขนเพียงท่าเดียว มันคงไม่สะดวกทุกเวลา ลองเปลี่ยนให้ลูกได้นอนอยู่ในท่าอื่น ๆ บ้างด้วยการลองใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นตัวช่วย เช่น เปลไกว เป้อุ้มเด็ก นอนอยู่ในรถเข็น หรือเบาะนอนสำหรับทารก ลองใช้วิธีที่แตกต่างเพื่อให้ลูกน้อยของคุณได้นอนหลับโดยที่ไม่ต้องใช้ท่าอุ้มเพียงอย่างเดียวดูนะคะ
#6 ควรห่อตัวทารกแรกเกิดก่อนนอน
การห่อตัวนั้นจะช่วยในการปรับตัวของทารก ให้ทารกนอนหลับได้นานขึ้นและรู้สึกอบอุ่น เสมือนว่ากำลังนอนคู้ตัวอยู่ในครรภ์ ลดอาการสะดุ้งตกใจ (จากเสียงดังรอบข้าง) โดยคุณแม่ควรจะห่อตัวทารกตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 วัน หรือ 1 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่บ้านด้วย หากในช่วงหน้าหนาวก็ห่อตัวเด็กให้รู้สึกอบอุ่น หรือช่วงกลางคืนเพื่อให้ลูกนอนหลับยาวได้ยิ่งขึ้น หลังจากนั้นก็สามารถหาเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดมาเปลี่ยนใส่ได้
Read : วิธีห่อตัวทารกแรกเกิด เตรียมพร้อมสำหรับแม่มือใหม่ ชมคลิป
#7 ใช้เสียง white noise กล่อมลูกนอน
เบบี๋นั้นจะได้เสียง white noise ตั้งแต่ในครรภ์คุณแม่ ดังนั้นเมื่อลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลกถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ สภาพแวดล้อมใหม่ที่ไม่คุ้นเคยอาจทำให้ทารกเกิดความเครียด ร้องไห้งอแง แต่หากคุณแม่ใช้เสียง white noise อย่างเช่น เสียงไดร์เป่าผม เสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงเครื่องซักผ้า เสียงทีวีซ่า ๆ ลูกน้อยจะสงบ และนอนหลับปุ๋ยได้ภายในไม่กี่นาที จะช่วยให้ลูกน้อยหลับได้นานขึ้น
Read : แอพฯ เสียง White noise กล่อมลูกฝันดี
#8 ควรใช้ผ้าม่านสีเข้ม
ทารกนั้นจะยังไม่รู้สึกถึงกลางวันหรือกลางคืนเมื่อตอนอยู่ในครรภ์ ดังนั้นเมื่อเจ้าตัวน้อยออกมาต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวอย่างยิ่ง คุณแม่อาจจะต้องช่วยเบบี๋ให้เข้าใจถึงกลางวันกลางคืนด้วยการแขวนผ้าม่านสีเข้ม ๆ โดยเฉพาะในตอนกลางคืน เพื่อให้เบบี๋เริ่มปรับตัวและเรียนรู้ว่านี่คือตอนกลางคืน และเมื่อมืดแล้วต้องนอนหลับยาว ๆ
ในช่วงแรกเกิดนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากพอสมควรเลยใช่ไหม ที่คุณแม่และคุณลูกจะต้องปรับตัวด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งเราหวังว่าเคล็ดลับการดูแลทารกแรกเกิดจะทำให้คุณแม่รู้วิธีที่จะช่วยระบายแก๊สในท้องของลูกน้อย และรู้ว่าจะช่วยให้ลูกได้นอนหลับยาวขึ้นได้อย่างไร อย่างน้อยก็คงจะช่วยให้คุณแม่คลายเหนื่อยในช่วงเดือนแรกเพิ่มขึ้นอีกนิดนะ
Source : www.sleepingshouldbeeasy.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
การดูแลทารกแรกเกิด 5 ประการที่ควรทำทุกวัน
แม่มือใหม่ กับคู่มือเอาตัวรอดของหนึ่งเดือนแรก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!