ทำอย่างไรหากลูกไม่ยอมนอน เคล็ดลับทำให้ลูกนอนง่าย และไม่ตื่นช่วงกลางคืน

เคล็ดลับทำให้ลูกนอนง่าย และตรงเวลามาให้ จะมีวิธีอะไร บ้าง ทั้งครอบครัวคุณอ้วนและ คุณแม่มือใหม่ทั้งหลายตามมาเลย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดูเหมือนจะเป็นความกังวลเล็กๆ ของคุณพ่อมือใหม่อย่างหนุ่มอ้วน รังสิต ที่ต้องเผชิญปัญหาของพ่อแม่มือใหม่ซึ่งก็คือ ลูกไม่ยอมนอนในตอนกลางคืน พร้อมทั้งขอ เคล็ดลับทำให้ลูกนอนง่าย ๆ โดยทางคุณพ่ออ้วน ถึงกับโพสภาพบนอินสตาแกรมส่วนตัวของตน พร้อมกับลูกสาวตัวเล็กอย่างน้องโรฮา ซึ่งภายในภาพ น้องโรฮากำลังร้องไห้จ้า สาเหตุน่าจะมาจาก น้องไม่ยอมนอน เมื่อถึงเวลานอน แถมยังได้ใส่แคปชั่น สั้น ๆ ใจความประมาณว่า “ ขอ เคล็ดลับทำให้ลูกนอนง่าย ๆ ครับ ”

ก็แหม ขอมาซะขนาดนี้ เรา theAsianparent Thailand เว็บไซต์อันดับหนึ่งเรื่องแม่และเด็กในเมืองไทย ก็ต้องขออนุญาติแนะนำ วิธีทำให้ลูกนอนหลับง่าย และตรงเวลามาให้ ณตรงนี้ เลย จะมีวิธีอะไีร บ้าง ทั้งครอบครัวคุณอ้วนและ คุณแม่มือใหม่ทั้งหลายตามมาเลย

โรฮา ไม่ยอมนอน

อ้วนรังสิต น้องโรฮา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้องโรฮา และ ครอบครัว

อันดับแรก ควรเริ่มจากการ ทำตารางการนอนของลูก 

ก่อนจะไปดูวิธีทําให้ลูกนอนหลับง่าย ในตอนกลางคืนนั้น เรามาทำความเข้าใจเรื่องเวลาของการนอนของทารก ในแต่ละช่วงเดือนกันก่อน ซึ่งเวลาการนอนตามธรรมชาติของทารกในแต่ละช่วงเดือน จะลดลงตามอายุ ดังนี้

  • การนอนของทารกแรกเกิด นอนเป็นช่วง ๆ รวมแล้วประมาณ 16-18 ชั่วโมง แล้วค่อยนอนติดต่อกันยาวขึ้นในช่วงกลางคืน นอนกลางวันน้อยลงจนเหลือสองงีบ เช้าบ่าย จนอายุประมาณ 12-15 เดือน จึงเลิก การงีบนอนในตอนเช้า
  • การนอนของทารก 1 เดือน จำนวนการนอน 3-4 ครั้งต่อวัน รวมชั่วโมงการนอนกลางวัน 7-8 ชั่วโมง รวมชั่วโมงการนอนกลางคืน 8-9 ชั่    วโมง การนอนทั้งหมดรวมแล้ว 15-16 ชั่วโมงต่อวัน
  • การนอนของทารก 3 เดือน จำนวนการนอน 3 ครั้งต่อวัน รวมชั่วโมงการนอนกลางวัน 5-6 ชั่วโมง รวมชั่วโมงการนอนกลางคืน 9-10 ชั่วโมง การนอนทั้งหมดรวมแล้ว 15 ชั่วโมงต่อวัน
  • การนอนของทารก 6 เดือน จำนวนการนอน 2-3 ครั้งต่อวัน รวมชั่วโมงการนอนกลางวัน 3-4 ชั่วโมง รวมชั่วโมงการนอนกลางคืน 10-11 ชั่วโมง การนอนทั้งหมดรวมแล้ว 14-15 ชั่วโมงต่อวัน
  • การนอนของทารก 9 เดือน จำนวนการนอน 2 ครั้งต่อวัน รวมชั่วโมงการนอนกลางวัน 3 ชั่วโมง รวมชั่วโมงการนอนกลางคืน 11 ชั่วโมง การนอนทั้งหมดรวมแล้ว 14 ชั่วโมงต่อวัน
  • ลูกอายุ 1 ปี จะใช้เวลานอนประมาณ 14 ชั่วโมง
  • ลูกอายุ 2 ปี จะใช้เวลานอนประมาณ 12-13 ชั่วโมง

เคล็ดลับทำให้ลูกนอนง่าย1

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สาเหตุที่ทารกตื่นบ่อยในช่วงกลางคืนนั้น เนื่องจาก 3 เดือนของทารกแรกเกิด ลูกจะนอนเป็นช่วง ๆ และตื่นขึ้นมาดูดนมทุก 2-4 ชั่วโมง ทารกบางคนร้อง Colic หรือที่คนไทยโบราณเรียกว่าร้อง 3 เดือน ผู้ปกครองต้องทำใจไว้เลยว่า ช่วง 3 เดือนแรกของการมีลูก จะต้องอดนอน อย่างแน่นอน

 

ปัญหาการนอนของเด็กที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็คือ มักจะตื่นบ่อยในตอนกลางคืน และไม่ยอมนอนต่อ แต่ในช่วง 3 เดือนแรก คงเลี่ยงภาวะตื่นบ่อยกลางคืนไม่ได้ เพราะเป็นไปตามพัฒนาการ แต่ส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่มักจะกังวลไปเอง เช่นกลัวลูกหิว กลัวน้ำหนักไม่ตรงตามเกณ พอเห็นว่าลูกขยับตัวนิดหน่อย ก็ป้อนนมไว้ก่อน  ซึ่งการทำเช่นนั้นบ่อยๆ นั้นจะทำให้เกิดการจดจำ ซึ่งเป็นการฝึกให้ตื่นกลางคืน (Trained night feeder) นั่นเอง 

 

ในช่วงเดือนที่ 4 ช่วงนี้เด็กจะเริ่มเรียนรู้ และสามารถแยกกลางวัน และกลางคืนได้แล้ว ส่วนใหญ่จะสามารถนอนยาวติดต่อกัน โดยไม่ต้องกินนมรอบดึก เมื่ออายุ 4 เดือน จนกระทั่งเข้าเดือนที่ 6 ก็สามารถนอนยาวได้ 10-12 ชั่วโมง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ในช่วง 6-12 เดือน ทารก0tเริ่มหลับยาวแล้ว แต่ในบางช่วง อาจมีการกลับมาตื่นบ่อยในช่วงกลางคืนอีก ทารกที่ได้นมแม่ จะตื่นบ่อยเวลากลางคืน ก็จะพยายามใช้หลักที่ว่าตอบสนองให้น้อยที่สุด สั้นที่สุด เพื่อให้เขานอนต่อเองได้ โดยไม่ต้องกวนเรา ในช่วงเดือนแรก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกตื่นกลางคืน บ่อยเกินไปเราอาจจะไม่ไปหาลูกในทันที พอลูกร้องเราก็อาจรอดูก่อน พยายามยืดเวลาการนอนให้ได้ประมาณ 3 ชั่วโมง อาจจะลองเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือดูเรื่องอื่น ๆ ก่อน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ค่อยให้นม คือค่อย ๆ พยายามฝึกลูกให้อยู่ในตารางเวลา เช่น อาจจะกินครั้งสุดท้ายเที่ยงคืน เดือนหลัง ๆ เราอาจจะยื้อจาก 3 ชั่วโมงเป็น 5 ชั่วโมงได้ แม่ก็จะได้นอนยาวหน่อย แต่แม่ต้องไม่เครียดนะ ต้องทำใจให้สบาย

เคล็ดลับทำให้ลูกนอนง่าย2

  1. ให้ลูกเล่นเต็มที่ในตอนกลางวัน

กลางวันที่ยาวนานจะทำให้ลูก นั้นสามารถหลับลึกได้ตอนกลางคืน เพราะฉะนั้นให้ลูกได้เล่นเต็มที่ในตอนกลางวัน ให้พวกเขาได้วิ่งเล่น ออกกำลังกาย หรือ เต้น ก็จะทำให้พวกเขาสนุกกับเวลากลางวัน

 

2. สร้างบรรยากาศให้น่านอน

เริ่มจากการตกแต่งห้องนอน ให้น่านอน ห้องนอนของลูกน้อยควรจะมีบรรยากาศที่น่านอน ควรหรี่ไฟสลัว ๆ หรี่เสียง หรือปิดทีวี หรือเสียงอื่น ๆ ลง หลีกเลี่ยงกิจกรรมใช้เเรงในช่วงที่ใกล้เวลานอน เปลี่ยนเป็นการอ่านนิทาน การอาบน้ำอุ่น ๆ การร้องเพลงกล่อมเเทน บรรยากาศต่างๆ อย่างเเสงไฟจะช่วยให้นาฬิกาของร่างกายทำงานเเละบ่งบอกว่า ได้เวลาที่ลูกจะนอนลงเเล้วนะจ๊ะ การฝึกนอนด้วยวิธีนี้ควรทำติดต่อกันทุกวันอย่างน้อย 6-7 สัปดาห์

 

3. จัดม่านที่ทึบแสง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การจัดม่านที่ทึบแสงนั้นจะสร้างบรรยากาศการนอนให้ลูกน้อย และจะทำให้พวกเขาหลับได้นานขึ้นรวมถึงป้องกันแสงแดดในยามเช้าให้ลูกอีกด้วย

 

4. สร้างกิจวัตรประจำวันในการนอน

หลังจากที่พ่อแม่รู้เวลานอนที่เหมาะสมของลูกแล้ว สิ่งที่จะสามารถทำให้ลูกนอนเร็ว และ การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้นคือตั้งเวลาปลุกที่ชัดเจน โดยการคำนวนจากเวลานอนที่เหมาะสม ควรปลุกตรงเวลาทุกวันเป็นกิจวัตร เพื่อความเคยชินของลูก และ เพื่อประสิทธิภาพในการหลับนอนที่เหมาะสม และในวัดหยุดสุดสัปดาห์ค่อยผ่อนปรนให้เขานอนเกินเวลาได้

 

5. งดใช้โทรศัพท์ก่อนนอน

จากการวิจัยพบว่า แสงจากหน้าจอโทรทัศน์ หรือ โทรศัพท์ สามารถรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินได้ ซึ่งเมลาโทนินเป็นสารที่สำคัญสำหรับการอน หาก เมลาโทนินอยู่ในระดับสูง ส่วนใหญ่คนจะง่วงและพร้อมเข้านอน ซึ่ง ก่อนนอนนั้นควรจะให้ลูกห่างจากหน้าจอโทรศัพท์ หรือ โทรทัศน์ อย่างน้อยที่สุดสามสิบนาที

 

6. ไม่ควรให้ลูกนอนดึก

เเม้ว่าในเเต่ละฤดู จะทำให้เวลากลางคืนมืดช้าไปบ้าง เเต่ในเด็กๆ ควรยึดตามนาฬิกาเป็นหลักค่ะ เช่น ปกติเเล้วลูกจะเข้านอนประมาณ 19.00 เเต่ในหน้าร้อน เวลา 19.00 ท้องฟ้ายังสลัวๆ ไม่มืดเสียทีเดียว คุณพ่อคุณเเม่เลยคิดว่า อาจจะยังไม่ต้องเอาลูกนอนก็ได้ ซึ่งนั่นเป็นการกระทำที่ทำให้นาฬิกาชีวิตของลูกรวนได้นะคะ เเต่การกลับไปฝึกนอนอีกครั้งก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น เเละอาจทำให้ลูกนอนยาวๆ ไม่ได้ ตื่นบ่อยขึ้นระหว่างกลางดึ

เคล็ดลับทำให้ลูกนอนง่าย3

7. มีอุณหภูมิ ที่เหมาะสม 

การอนนหลับของลูกนั้นจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ดีต่อสุขภาพมากขึ้นโดยอุณหภูมิที่เหมาะสมคือไม่ควรเกิน 27 องศาเซีลเซียส เพราะจะทำให้ลูกนอนหลับแบบสุขภาพดี

 

8. ลดน้ำตาล

การกินอาหารที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลนั้นจะทำให้ลูกนอนหลับยาก เพราะฉะนั้นควรงดอาหารที่มัน้ำตาลเยอะเพื่อที่จะทำให้พวกเขานอนหลับง่ายนะคะ

 

9. ลดความเครียดของลูก

ฮอร์โมนที่มีบทบาทในการนอนหลับคือ คอร์ติซอล หรือ ที่เรียกว่า ฮอร์โมนความเครียด เมื่อระดับคอร์ติซอลสูง ร่างกายของลูกจะไม่สามารถเข้านอนได้ เพราะฉะนั้นกิจกรรมก่อนนอนนั้นควรจะเป็นกิจกรรมที่ปราศจากความตึงเครียด เพื่อให้ลูกสามารถเข้านอนได้อย่างมีความสุข

 

10. ควรให้ลูกนอนตอนกลางวันบ้าง 

หลายคนอาจคิดว่าหากไม่นอนกลางวัน เพื่อเวลาที่นอนตอนกลางคืน ลูกจะได้เหนื่อยเเละนอนง่ายขึ้น เเต่นั่นเป็นการทำให้ร่างกายของลูกผลิตฮอร์โมนความเครียดเยอะขึ้น เเละก็อาจจะส่งผลทำให้นอนกลับยากขึ้นได้ในตอนกลางคืน หากลูกส่งสัญญาณว่าหนูง่วงเเล้ว คุณพ่อคุณเเม่ก็อย่าลังเล ควรที่จะให้ลูกนอนกลางวันบ้าง แต่พยายามอย่าทำจนติดเป็นนิสัย

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

แม่ท้อง นอนไม่หลับ ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างไร

ภาวะนอนไม่หลับในเด็ก ลูกไม่ยอมนอน ทำอย่างไรดี

6 เคล็ดลับพา ลูกเข้านอน ลูกนอนหลับยาก แก้ปัญหายังไง?

บทความโดย

@GIM