อาหารสำหรับคนท้อง: อะไรควรกินอะไรควรเลี่ยง?
อาหารที่คนท้องกินมีผลต่อการพัฒนาของตัวอ่อนในครรภ์อย่างแน่นอน การกินอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในช่วงตั้งครรภ์เพราะนั่นเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอ ง่ายต่อการเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแบคทีเรียและปรสิตที่อยู่ในอาหาร
แม้ว่ารายการอาหารต้องห้ามสำหรับคนท้องจะยาวเป็นหางว่าว แต่ก็มีกฎหลัก ๆ ที่คุณควรยึดอยู่ไม่กี่ข้อ ถ้าคุณเผลอกินอาหารเหล่านี้เข้าไปก่อนหน้านี้ ก็ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจไป แค่พยายามหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ในอนาคต เพราะมันมีแบคทีเรียและสารพิษที่ไม่ดีต่อร่างกาย และอาจส่งผลข้างเคียงต่อทารกในครรภ์ของคุณได้
แบคทีเรียในอาหาร
ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น นมพร่องมันเนย ชีส นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่คนท้องควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งมักทำมาจากน้ำนมดิบ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออาจเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อลิสทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการป่วยมากมายในแต่ละปี และทำให้มีคนเสียชีวิตมากกว่า 500 คนทุกปี อีกทั้งยังอาจเป็นสาเหตุของการแท้งบุตร ทารกเสียชีวิต หรือโรคร้ายแรงในเด็กแรกเกิด
แบคทีเรียลิสทีเรียพบมากในอาหารจำพวก:
ชีสอ่อนที่มีราสีเขียว ๆ ฟ้า ๆ เช่น กามองแบร์ บรี เฟต้า และสติลตัน
สลัดมันฝรั่งหรือโคลสลอว์
ปาเตต่าง ๆ (รวมถึงปาเตผัก)
น้ำผลไม้ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ
เนื้อสัตว์แช่เย็น
อ่านต่อเรื่องอาหารสำหรับคนท้อง >>>
แบคทีเรียอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นอันตรายต่อทารกก็คือซามอนเนลลา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ มักพบในนมที่ไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ ไข่ดิบ เนื้อสด แม้ว่าโรคอาหารเป็นพิษที่เกิดจากซามอนเนลลาอาจไม่เป็นอันตรายต่อเด็กโดยตรง แต่คุณก็ควรระมัดระวังในการเลือกอาหารดังต่อไปนี้:
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไข่ดิบหรือไข่สุก ๆ ดิบ ๆ กินเฉพาะไข่ที่ปรุงสุกจนไข่าวเป็นสีขาวขุ่นและไข่แดงแข็ง
เลือกกินเฉพาะเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกทั่วถึง ไม่มีส่วนที่เป็นสีแดง
ระวังเนื้อสัตว์ตามร้านอาหารปุฟเฟ่ต์และร้านปิ้งย่าง เพราะแบคทีเรียสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในที่เปิดที่มี อุณหภูมิอุ่น
หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์สำเร็จรูป เช่น เบอร์เกอร์ ฮอทดอก และเนื้อแช่เย็น (นอกจากจะมั่นใจว่าปรุงสุก)
ล้างมือให้สะอาดหลังจากจับเนื้อดิบ และเก็บรักษาให้ห่างจากอาหารพร้อมกินอื่น ๆ
อาหารทะเล
อาหารทะเลอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก โปรตีน และกรดไขมันโอเมกา-3 อีกทั้งยังช่วยในการเสริมสร้างสมองของทารก งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าหากคุณแม่กินอาหารทะเลไม่เพียงพอในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เด็กมีปัญหาด้านพัฒนาการและทักษะด้านการพูด แม้ว่าอาหารทะเลจะมีประโยชน์ต่อคุณแม่ แต่เราก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคปลาและหอยบางประเภทซึ่งอาจมีสารปรอทสูง สารปรอทจะทำลายระบบประสาทของทารก ยิ่งปลามีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสารปรอทสูงเท่านั้น
องค์การอาหารและยาของสหรัฐแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงอาหารทะเลดังต่อไปนี้:
ปลาฉนาก (ปลาดาบ)
ปลาอินทรี
ปลาฉลาม
ปลา Tile fish
ปลากระโทงแทง
หากคุณกังวลเกี่ยวกับการบริโภคอาหารทะเล องค์การอาหารและยาระบุว่าคุณสามารถกินอาหารทะเลดังรายการต่อไปนี้ได้สัปดาห์ละ 12 ออนซ์ (ประมาณอาหารมื้อปกติ 2 มื้อ):
ปลาดุก
ปลาพอลล็อค
ปลาแซมมอน
กุ้ง
ทูน่ากระป๋อง
หลีกเลี่ยงการกินปลาและหอยดิบ หรืออาหารทะเลรมควันแช่เย็น ซึ่งแปลว่าคนท้องควรงดซูชิตลอดช่วงตั้งครรภ์ พยายามปรุงอาหารทะเลด้วยอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส เนื้อปลาสุกจะล่อนเป็นชิ้นและมีสีขุ่น สำหรับกุ้ง ล็อบสเตอร์ และหอยเชลล์ ปรุงจนกลายเป็นสีขาวขุ่น หอยชนิดต่าง ๆ ควรปรุงจนฝาเปิด
อ่านต่อเรื่องอาหารสำหรับคนท้อง >>>
คำเตือนเรื่องวิตามิน
“วิตามินเอจำเป็นสำหรับร่างกาย แต่คุณแม่ควรระวังไม่ให้ร่างกายได้รับวิตามินเอมากเกินไปในช่วงตั้งครรภ์ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็กในท้องได้” ดร. เจมส์ ลี ที่ปรึกษาจากโรงพยาบาล National University ประเทศสิงคโปร์กล่าว
วิตามินเอที่มากเกินไปจะทำลายพัฒนาการของตัวอ่อนในครรภ์ อาหารที่มีส่วนประกอบของตับ (รวมทั้งน้ำมันตับปลา) มีวิตามินเอสูง คุณแม่ทั้งหลายควรหลีกเลี่ยง ลองปรึกษาแพทย์ว่าวิตามินรวมที่คุณกินนั้นมีวิตามินเอในประมาณที่พอเหมาะหรือไม่
คาเฟอีน
ถ้าคุณเป็นมนุษย์ติดคาเฟอีน อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะคุณยังสามารถดื่มกาแฟได้ระหว่างตั้งครรภ์ แต่ไม่ควรเกินวันละ 300 มิลลิกรัม เพราะหากได้รับคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เด็กน้ำหนักตัวน้อยหรืออาจถึงขั้นทำให้แท้งได้ คาเฟอีนส่งผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับพัฒนาการของเด็ก คาเฟอีน 300 มิลลิกรัมเท่ากับ:
กาแฟชงสำเร็จรูป 3 แก้ว
กาแฟสด 3 แก้ว
ชา 6 แก้ว
โค้ก 8 กระป๋อง หรือ
ช็อกโกแลตขนาดปกติ 8 แท่ง
คนท้องกินสับปะรด ทุเรียน และมะละกอได้หรือไม่?
คุณอาจเคยได้ยินคนบอกว่าคนท้องห้ามกินผลไม้นั่นนี่ ถึงจะไม่มีผลการศึกษาออกมายืนยันแน่ชัด แต่คุณหมอหลายคนก็แนะนำให้คุณแม่ทั้งหลายลดการบริโภคสับปะรดและมะละกอลง เพราะเชื่อกันว่าผลไม้เหล่านี้อาจทำให้มีโอกาสแท้งบุตรมากขึ้น ส่วนทุเรียนนั้นเชื่อกันว่าจะทำให้ทารกมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน บางครั้งแพทย์อาจแนะนำให้คุณแม่ทานทุเรียนหากเด็กตัวเล็กกว่าปกติ
แต่ไม่ว่าเสียงลือเสียงเล่าอ้างจะว่าอย่างไร ทางที่ดีคุณก็ควรกินอาหารทุกอย่างแต่พอดี และปรึกษาแพทย์หากไม่แน่ใจ สุดท้ายแล้วร่างกายของแต่ละคนก็แตกต่างกันและอาจตอบสนองต่ออาหารต่างกันไป
จำไว้ว่าคุณควรกินอาหารที่มีประโยชน์และกินให้ครบห้าหมู่ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย