“เอาแมวออกไปไว้นอกบ้านนะ เพราะลูกจะติดโรคจากมัน”
“ห้ามย้อมสีผมนะ เพราะสารเคมีมันอันตรายต่อเด็ก”
“ห้ามแต่งหน้านะ เพราะลูกจะหน้าตาแปลกประหลาด”
“ห้ามแช่อ่างอาบน้ำจนกว่าจะคลอดลูกแล้ว”
ดูเหมือนว่าข้อห้ามสุดท้ายนี้จะพูดเกินจริงไปสักหน่อย แต่นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นเวลาคุณเจอกับคำแนะนำหรือเคล็ดต่าง ๆ ที่คุณเองก็คาดไม่ถึง เวลาที่ผู้หวังดีอยากให้ลูกคุณออกมาแข็งแรงแนะนำแนวทางปฏิบัติตัวขณะท้อง จนคุณเองก็เริ่มกังวลใจจนไม่อยากทำอะไร เอาเป็นว่าเราจะไขปริศนาเหล่านี้ให้คุณเอง
คนท้องทำอะไรได้บ้าง
การฝังเข็มและการนวด
การฝังเข็มขณะตั้งครรภ์ช่วยลดอาการปวดหลัง ปวดข้อ แพ้ท้อง อาการเหนื่อยล้า และรักษาสมดุลของร่างกาย แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฝังเข็ม
เมื่อท้องแก่ขึ้นคุณเองก็ทำอะไรช้าลง คุณอยากจะมีใครสักคนมานวดให้คุณผ่อนคลายบ้าง ดังนั้นเวลาเลือกร้านควรสอบถามให้แน่ชัดว่าที่ร้านมีเตียงสำหรับคนท้องหรือไม่ เวลาคุณนอนคว่ำจะได้ไม่กดทับลูกในท้อง การนวดเป็นการกระตุ้นให้มดลูกบีบตัว ดังนั้นหากคุณรู้สึกว่ามดลูกบีบตัวแรงก็ควรหยุดนวดทันที
การเปลี่ยนสีผม
การเปลี่ยนสีผมขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่หลายคนกังวลว่าสารเคมีในน้ำยาเปลี่ยนสีผมจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จริง ๆ แล้วเราจะสังเกตได้ว่ามีบริเวณหนังศีรษะเท่านั้นที่สัมผัสกับสารเคมี และเแทบจะไม่มีสารเคมีถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเลย ดังนั้นการเปลี่ยนสีผมจึงไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง หากคุณไม่มั่นใจว่าควรเปลี่ยนสีผมดีไหม ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางค์และเวชภัณฑ์ความงามแนะนำให้ทำสีผมหลังไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
การกำจัดขน
อย่าให้เรื่องการตั้งครรภ์เป็นข้ออ้างที่ทำให้คุณปล่อยตัวทิ้งให้ขนหน้าแข้งยาวเต็มขา ฉันเคยคุยกับคนท้องในไตรมาสที่ 2 คนหนึ่ง แต่ตลอดระยะเวลาที่เราคุยกัน ฉันก็อดไม่ได้ที่จะมองขนหน้าแข้งเขา และอยากไปถอนทิ้งให้มันรู้แล้วรูรอดไป
การกำจัดขนหน้าแข้งขณะตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เพียงแค่ใช้เครื่องมือในการกำจัดขนไม่ว่าจะเป็นมีดโกน ครีม หรือเครื่องกำจัดขน แล้วค่อย ๆ ทำตามขั้นตอน อาจจะมีปัญหาตรงที่คุณก้มไม่ได้มากเหมือนเดิม เพราะติดท้องที่ขยายออกมา คุณลองให้สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทช่วยคุณก็ได้ เท่านี้คุณก็มีขาที่เรียบชวนมอง แล้วถ้าคนที่คุณรู้จักเจอปัญหาเดียวกัน ทีนี้คุณก็รู้แล้วว่าจะแนะนำเขาได้อย่างไร
บอกลาสัตว์เลี้ยงแสนรัก?
คงไม่ถึงขั้นที่คุณจะหาเจ้าของใหม่ให้สุนัขแสนรักที่คุณเลี้ยงเองกับมือตั้งแต่ตอนที่มันยังเป็นลูกหมา เพียงเพราะว่าคุณกำลังจะมีลูกใช่ไหมคะ จริง ๆ แล้วสุนัขไม่ได่มีอันตรายต่อเด็กในท้องเลย แต่หากคุณเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่ก็ต้องระวังว่าเขาจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจมาโดนท้องคุณ ถ้าคุณยังกังวลใจอยู่ก็ลองฝากเพื่อนให้ช่วยเลี้ยงจนกระทั่งคุณคลอดลูก แล้วค่อยดูสถานการณ์อีกทีก็ได้ แต่ก็มีหลายครั้งที่สุนัขช่วยชีวิตคนในครอบครัวเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
ถ้าหากคุณมีแมวเป็นสัตว์เลี้ยงแม่คุณคงรีบบอกให้เอามันไปปล่อยวัดทันทีที่รู้ว่าคุณกำลังจะมีหลานให้ท่าน นี่ก็เนื่องมาจากว่า คุณแม่ของคุณเป็นห่วงว่าคุณจะเสี่ยงที่จะติดโรคท็อกโซพลาสโมซิสจากแมว เชื้อท็อกโซพลาสโมซิสเกิดจากการติดเชื้อฝุ่นที่ฟุ้งในอากาศจากการทำความสะอาดทรายขับถ่ายของแมว โรคนี้ทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด คุณอาจลองถามเพื่อนให้ช่วยดูแลแมวจนกว่าคุณจะคลอดลูกเช่นเดียวกับกรณีของสุนัข
เราเชื่อว่าหลายต่อหลายคนก็ยังคงสงสัยว่ามีอะไรอีกบ้างที่ไม่ควรทำขณะท้อง บางคนที่มีเวลาว่างมากสักหน่อยก็อาจจะเขียนออกมาเป็นรายการ (อาจเคลือบพลาสติกใส) แปะไว้เพื่อทำตามอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญอย่าลืมเช็คกับคุณหมอเพื่อความแน่ใจ เพราะบางทีคุณอาจจะกังวลเกินกว่าเหตุก็ได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!