สุดสงสาร พ่อทิ้งแม่ถูกจับ ปล่อยลูก 3 คนอยู่ตามลำพัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สุดสงสาร พ่อทิ้งแม่ถูกจับ ปล่อยลูก 3 คนอยู่ตามลำพัง พบสามพี่น้องอายุระหว่าง 2 – 10 ปี ที่จังหวัดกำแพงเพชร ซึงสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างอนาถา บ้านชำรุดผุพัง ห้องน้ำก็ต้องใช้ผ้าห่มกางขึงล้อมเอาไว้ ไร้ผู้ใหญ่คอยดูแล
สุดสงสาร พ่อทิ้งแม่ถูกจับ ปล่อยลูก 3 คนอยู่ตามลำพัง
โดยคนโตชื่อว่า น้องแอม อายุ 10 ขวบ อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ คนที่สองคือน้องต้นหอม อายุ 4 ขวบอยู่ชั้นอนุบาล 1 และคนสุดท้อง เป็นเด็กชายที่มีอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น ทั้งสามคนต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าไปโดยปริยาย เมื่อพ่อมาทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนแม่ก็มาติดคุกในข้อหายาเสพติด จากการสอบถามพบว่า ที่บ้านของหนูน้อยทั้งสามคน ถูกไฟตัดมานานกว่า 4 ปีแล้ว เพราะไม่มีเงินไปชำระค่าไฟ และที่น่าเป็นห่วงก็คือ น้องแอม พี่คนโต เป็นเด็กที่ค่อนข้างหน้าตาดี และในละแวกนั้นก็เป็นจุดที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดกันอย่างหนัก
ผู้อำนวยการของโรงเรียนได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านของเด็กทั้งสาม ก็เกิดความกังวลใจกลัวจะไม่ปลอดภัย จึงพาเด็ก ๆ ไปอยู่กับคุณครูประจำชั้นที่บ้านพักครูแทน ท่านผู้ใดที่ประสงค์จะให้การช่วยเหลือ ก็สามารถโอนเงินช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั้งสามคนได้ที่
ธนาคารกรุงไทย สาขาพรานกระต่าย
ประเภทออมทรัพย์
ชื่อบัญชี กองทุนเพื่อการศึกษา ของ ด.ญ.ปนัดดา ทรัพย์กลิ่น
หมายเลขบัญชี 985-4-61132-9
รู้กันดีว่า เราไม่ควรปล่อยเด็กให้อยู่ตามลำพัง แต่ในความเป็นจริง หลายครอบครัวก็ไม่ได้มีสิทธิเลือกมากนัก แล้วเรื่องนี้มีทางออกไหม?
แม้จะรู้กันดีว่า เราไม่ควรปล่อยเด็กให้อยู่ตามลำพัง แต่ในความเป็นจริง หลายครอบครัวก็ไม่ได้มีสิทธิเลือกมากนัก ทั้งเงื่อนไขเรื่องฐานะ หรือ ต่อให้มีเงินจ้างคนเลี้ยง แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่า เด็กจะปลอดภัยที่เนอร์สเซอรี่โดยเฉพาะทราบหรือไม่ว่า ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546 หมวด 2 มาตรา 25 กำหนดว่า ผู้ปกครองต้องไม่กระทำการละทิ้งเด็กไว้ ณ สถานที่ใด ๆ โดยไม่จัดให้มีการป้องกันดูแลสวัสดิภาพหรือให้การเลี้ยงดูที่เหมาะสม โดยผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับทางออกจากเรื่องนี้คืออะไร?
แต่เด็กต้องได้รับการฝึกฝน ได้รับการสอน จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย และได้รับการประเมินแล้วว่า สามารถอยู่ได้ตามลำพัง โดยผู้ปกครองต้องฝึกเด็กตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป มีการฝึกการทดสอบการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงกรณีฉุกเฉินด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเด็กอยู่คนเดียว (Home Alone)
แต่กรณีเด็ก 4 คนที่เป็นข่าวไม่ใช่ลักษณะเด็กอยู่คนเดียว แต่เด็กที่เป็นพี่คนโตวัย 11 ปีต้องดูแลน้องอีก 3 คน คุณตาเล่าว่า เหตุน่าจะเกิดจากพี่คนโตช่วยแม่ล้างจานอาจทำจานตกลงไปก่อน และจะเก็บจานอาหารที่ทำตกลงไป ทำให้พลัดตก และน้องอีก 3 คน ก็พยายามที่จะช่วยเหลือพี่ทำให้ตาข่ายรับน้ำหนักไม่ได้
หากพี่ไม่เก็บจานหรือน้องใช้วิธีการเรียกเพื่อนบ้านมาช่วย เหตุการณ์ทั้งหมดอาจะไม่เกิดเช่นนี้ จึงแสดงให้เห็นว่าเด็กอยู่คนเดียวหรือเด็กที่ต้องดูแลน้องโดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ ต้องมีทั้งวุฒิภาวะ และต้องได้รับการฝึกฝน
ทั้งนี้ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็ก และ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก ได้จัดทำ “โครงการทักษะความปลอดภัย” ที่แบ่งตามอายุของเด็ก 10 ทักษะความปลอดภัยที่เด็กต้องเรียนรู้ในโรงเรียน
โดยพฤติกรรม Home Alone จะเริ่มสอนตอนอายุ 10 ปี ให้เด็กเรียนรู้เรื่องการตัดสินใจ การแก้ปัญหาฉุกเฉิน การถูกล่อลวง เป็นต้น ฉะนั้น เหตุฉุกเฉินมีอีกหลายกรณีไม่ใช่เรื่องเด็กตกตึกเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันสร้างแนวคิดให้สังคมหันมาสนใจ โดยต้องยกระดับความรู้สึกร่วมรับผิดชอบให้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ปัจจุบัน ยังมีหน่วยงานที่มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ คือ บ้านพักเด็ก ซึ่งมีครบทุกจังหวัด แต่ไม่เพียงพอรองรับได้ไม่หมด
สิ่งที่พยายามเรียกร้องคือ การคุ้มครองเด็กระดับท้องถิ่น ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อให้ท้องถิ่น ชุมชน ไม่ต้องส่งเด็กมาที่บ้านพักเด็กซึ่งมีเพียง 1 แห่งต่อ 1 จังหวัด โดยจะต้องมีการผลิตนักพัฒนาเด็กและครอบครัวชุมชนให้เกิดขึ้น เพื่อเป็นศูนย์ในการดูแลเด็กกลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในช่วงวันหยุด ช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นแนวคิดในการพัฒนาเพื่อขยายงานในการคุ้มครองเด็กของบ้านพักเด็กให้ลงถึงชุมชนได้
“กรณีเด็ก 4 คน ควรจะถูกค้นพบปัญหาได้ตั้งแต่เพื่อนบ้าน ไม่ใช่เห็นว่าพี่เป็นเด็กดีสามารถดูแลน้องได้ ซึ่งในความเป็นจริงเด็กอายุ 11 ปี ไม่ควรดูแลน้องถึง 3 คน ตามลำพัง เพื่อนบ้านต้องโทรแจ้ง 1300 เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือ โรงเรียนที่มีกระบวนการเยี่ยมบ้านเด็ก เมื่อครูพบว่าเด็กนักเรียนของตนเองอายุ11 ปี ต้องอยู่บ้านตามลำพังข้ามคืน โดยต้องดูแลน้องถึง 3 คนและยังดูแลน้องที่มีเด็กอายุต่ำสุด 5 ขวบอีก ครูต้องไปเยี่ยมบ้านและต้องตัดสินใจให้การช่วยเหลือเด็ก
ดังนั้น การลงสำรวจพื้นที่โดยเจ้าหน้าที่ของบ้านพักเด็ก และรวมถึงโรงเรียนที่มีกระบวนการให้ครูเยี่ยมบ้านเด็ก มีความจำเป็นมากเมื่อพบเด็กอยู่คนเดียวตามลำพัง ต้องดูแลน้องตามลำพังกลางคืน หรือเพื่อนบ้านต้องโทรแจ้ง 1300 เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ต้องจัดการวิเคราะห์ปัญหาจะให้การช่วยเหลืออย่างไร เพราะขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กเท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้ซึ่งไม่เพียงพอ ฉะนั้น ต้องสร้างให้มีเจ้าหน้าที่พัฒนาเด็กและครอบครัวท้องถิ่น หรือ อาจจะใช้ระบบเพื่อนบ้านเข้ามาช่วย แต่อย่างไรจะต้องไม่ให้เด็กอยู่ตามลำพังต้องมีการจัดการเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ” รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าว
เช่นกันกับกรณีพบเห็นหรือสงสัยว่า เด็กถูกทำร้าย สามารถโทรแจ้งที่เบอร์ 1300 ได้ทันที
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/458
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
พัฒนาการลูกดี ต้องมีวินัยเชิงบวก
ระวัง! อย่าปล่อยให้เจ้าตูบเลียหน้าลูกน้อย
ทิ้งลูกป่วยหนีเที่ยว Corona พ่อแม่ทิ้งลูกป่วยไว้ที่สนามบิน ส่วนตัวเองไปเที่ยว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!