เสียงพูดอ้อแอของทารกนั้น เป็นความพยายามที่จะพูดกับพ่อแม่ แม้ดูเหมือนว่าจะไม่มีความหมายใด ๆ แต่การที่พ่อแม่พยายาม สื่อสารกับลูก ด้วยการรับฟังและตอบสนองต่อเสียง กู กู กา กา ของเจ้าตัวน้อยจะเป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งการเรียนรู้และเพิ่มพัฒนาการของลูกได้ดี
สื่อสารกับลูก วิธีไหน? ตอบสนองยังไง? ทำให้ทารกฉลาดขึ้น
ข้อมูลจากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Iowa และมหาวิทยาลัย Indiana ได้แสดงให้เห็นว่าพ่อแม่ที่แสดงท่าทางสนใจมีการรับฟังและตอบสนองในสิ่งที่ทารกกำลังพูด ทำให้ลูกเรียนรู้ว่าพวกเขาสามารถสื่อสารได้สิ่งนี่แหละที่จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ภาษาได้เร็วขึ้น
การตอบสนองของแม่นั้นสำคัญอย่างไร
นักวิจัยได้ทำการศึกษากลุ่มของคุณแม่และทารกน้อยที่อายุ 8 เดือนนานกว่า 24 สัปดาห์ พบว่าบรรดาคุณแม่ทั้งหลายมีการตอบสนองต่อลูกน้อยของใน 2 รูปแบบ
- การตอบสนองแบบเบี่ยงเบน คือการที่คุณแม่จะหันเหความสนใจของลูกน้อยด้วยสิ่งของอื่น ๆ อย่างเช่น ของเล่น หรือสิ่งของอื่น ๆ ในห้อง
- การตอบสนองแบบให้ความสำคัญ คือคุณแม่จะมีการพูดโต้ตอบ หรือล้อเลียนคำพูดตามลูกน้อย
ผลการศึกษาได้พบว่า ทารกที่มีคุณแม่แสดงการตอบสนองแบบ “ให้ความสำคัญ” พยายามที่จะ “พูด” กับพ่อแม่มากกว่าจะเป็นแค่เพียงการเปล่งเสียงแบบอ้อแอ้ ซึ่งพัฒนาการพูดของทารกเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่ออายุ 15 เดือน พวกเขาสามารถสร้างคำพูดและท่าทางได้มากขึ้น
ดังนั้น การที่พ่อแม่สนใจและพยายามสื่อสารกับลูกตั้งแต่ตอนที่ลูกน้อยยังเปล่งแค่เสียงอ้อแอ้ จะเป็นการกระตุ้นพัฒนาการเรียนรู้ของลูกได้อย่างดี ทำให้ลูกเข้าใจในภาษา จดจำคำที่พ่อแม่ และช่วยเสริมทักษะด้านการพูดได้เร็วขึ้น และต่อยอดสู่ความฉลาดให้ลูกน้อยได้มากขึ้นด้วย.
วิธีสื่อสารกับลูกในท้อง แม่จ๋ามีอะไรจะบอกหนูไหม
ช่วงที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หลายท่านคงอาจจะรู้สึกประหลายใจ ตืนเต้น และดีใจ ที่มีอีกหนึ่งชีวิตเติบโตในท้องของคุณ ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์นั้น แม่ท้องอาจจะไม่รู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นในท้อง แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า ลูกสามารถได้ยินคุณจากในท้องและสามารถรับรู้เมื่อคุณเคลื่อนไหวได้อีกด้วย! รู้อย่างนี้แล้ว เรามีวิธีการสร้างปฏิสัมพันธ์สุดสนุกกับลูกน้อยในท้อง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ อีกทั้งการสื่อสารกับลูกในท้อง นั้นยังจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้เร็ว โตขึ้นมาฉลาดได้ตั้งแต่อยู่ในท้องครับ 5 วิธีสื่อสารกับลูกในท้อง จะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย
1. คุยกับลูกในท้อง
ทราบหรือไม่ครับว่า ลูกในท้องนั้น สามารถได้ยินเสียงของคุณได้ เพราะฉะนั้นการคุยกับลูกคือวิธีการที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูก พูดกับลูกว่าคุณกำลังทำอะไร อยากจะโชว์อะไรให้ลูกดู ก็พูดได้เลย คุณอาจทำเสียงประหลาด เดินไปรอบ ๆ แล้วคุยกับตัวเอง เพราะลูกได้ยินเสียงคุณตั้งแต่อยู่ในท้อง และเมื่อลูกเกิดมา ลูกจะจำเสียงคุณได้ และรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นจากการพูดคุยของคุณ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองได้อีกด้วยครับ
2. อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
การอ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกน้อยที่จะเกิดมาเช่นเดียวกับการพูดกับลูกในท้อง คุณสามารถอ่านนิทาน บทกลอน เพลงกล่อมเด็กให้ลูกฟัง และคุณสามารถอ่านออกเสียงทุกอย่างที่คุณต้องการอ่านได้ เพราะนั่นจะทำให้ลูกได้ยินเสียงคุณ และเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน!
3. เปิดเพลงให้ลูกฟัง
คุณอาจจะนั่งพร้อมใส่หูฟังที่ท้อง และเปิดเพลงทุกชนิดให้ลูกฟัง ไม่ใช่แค่เพียงเพลงกล่อมเด็กหรือเพลงคลาสสิกเท่านั้น แต่คุณสามารถเปิดเพลงปกติที่คุณฟังเพื่อให้ลูกฟังได้ และเมื่อคุณรู้สึกว่าลูกดิ้น คุณจะสังเกตได้ว่าลูกดิ้นตามเพลงที่เต้นอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ คุณยังสามารถร้องเพลงให้ลูกฟัง เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับเสียงคุณได้เช่นกันครับ!
4. นวดลูก
แม่ใกล้คลอดมักชอบลูบคลำท้องเป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งคุณสามารถนวดให้ลูกด้วยเช่นกัน การนวดเบา ๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย และลูกยังรู้สึกสัมผัสของแม่ได้ เมื่อคุณรู้สึกว่าลูกดิ้น คุณจะสังเกตได้ว่าลูกดิ้นตามสัมผัสของคุณ บางครั้งลูกจะดิ้นหากลูกไม่ต้องการให้รบกวน แต่ส่วนใหญ่ลูกจะขยับเข้ามาใกล้สัมผัสการนวดของคุณเสียมากกว่า
5. เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกโดยใช้ไฟฉาย
นี่คือเกมที่สนุกที่สุดที่คุณสามารถเล่นกับลูกในท้องได้! คุณอาจจะใช้ไฟฉายฉายไฟลงบนท้อง เพื่อกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็น การเล่นแบบนี้ได้ผลดีเมื่อลูกเริ่มดิ้นในท้อง อีกทั้งคุณยังสามารถเห็นลูกเคลื่อนไหวผ่านผิวหนังคุณได้อีกด้วย เด็กจะเห็นแสงไฟฉายเหมือนที่เราเห็นแสงอาทิตย์ระหว่างที่ปิดตา หลายครั้งเด็กจะเคลื่อนไหวตามแสงไป และการเห็นลูกเคลื่อนไหวตามไฟก็สนุกเช่นกัน และจะสนุกว่านั้นถ้าให้พี่ของเด็กเล่นเกมนี้กับน้องที่อยู่ในท้องด้วย!
การสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกในท้องนั้น นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวแล้ว ยังช่วยในเรื่องพัฒนาการต่าง ๆ ของลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย โดยวิธีการต่าง ๆ ดังที่กล่าวมานั้น คุณแม่สามารถทำตามได้อย่างไม่ยากเลย อีกทั้งยังสนุก และช่วยลดความเครียดของแม่ท้องอีกด้วยนะครับ
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ที่มาจาก : sg.theasianparent.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
5 วิธีสุดเก๋ สื่อสารกับลูกในท้อง เสริมสร้างสมองตั้งแต่ยังไม่คลอด
ถอดรหัส เสียงร้องไห้ทารก รู้มั้ย? หนูร้องไห้แบบนี้เพราะอะไร