พ่อแชร์ สาเหตุที่เกือบต้องสูญเสียลูก เพราะ RSV ที่กำลังระบาด
สาเหตุที่เกือบต้องสูญเสียลูก : คุณพ่อท่านหนึ่งจากเมืองเมมฟิส ได้ออกมาแชร์เรื่องราวผ่านทางโซเชียลมีเดีย ถึงประสบการณ์ที่เขาเกือบจะต้องสูญเสียลูกสาวไป เพราะติดเชื้อไวรัส RSV และย้ำถึงความสำคัญของการล้างมือ โดยเขากล่าวว่า “ถ้าลูกผมมาโรงพยาบาลช้ากว่านี้อีกสักหน่อย ผมคงต้องเสียงลูกไปแน่นอน”
ไวรัสอาร์เอสวีนั้น สามารถแพร่กระจายผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะเป็นต้น และไวรัสชนิดนี้ยังสามารถอยู่นอกร่างกายได้นานหลายชั่วโมง อีกทั้งเชื้อนี้ยังอาจฝังตัวอยู่ตามลูกบิดประตูหรือรถเข็นซื้อของตามห้างสรรพสินค้า ดังนั้นการล้างมือจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก่อนที่คุณจะนำเชื้อโรคไปสู่ลูกน้อยผ่านทางการสัมผัส
คุณพ่อจากเมมฟิสท่านนี้ยังกล่าวอีกว่า “โรคอาร์เอสวีเป็นโรคที่อันตรายมาก ผมแทบไม่รู้จักโรคนี้เลยจนกระทั่งอาทิตย์ที่แล้วที่ผมเกือบต้องสูญเสียลูกสาวไป ผมจึงอยากฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ให้ล้างมือก่อนจับหรืออุ้มลูกทุกครั้ง”
การล้างมือเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยป้องกันเชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรียต่างๆไม่ให้แพร่กระจายไปสู่คนรอบข้าง ถึงแม้ว่าในเคสของคุณพ่อท่านนี้จะไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดจึงทำให้เด็กติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี แต่การล้างมือก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยของคุณจากอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้นะครับ
ไวรัสอาร์เอสวี คืออะไร
ไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก มีการระบาดบ่อยในทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นหรือหนาว โดยเด็ก ๆ จะติดเชื้อได้จากการรับเชื้อทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม น้ำลาย เสมหะ จากการสัมผัส หรือละออกน้ำมูกของผู้ป่วยอื่น โดยมีระยะฟักตัวประมาณ 2-7 วัน
อันตรายจากไวรัสอาร์เอสวี
การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจจาก ไวรัส RSV จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหลอดลมฝอยอักเสบ (Acute bronchiolitis) โดยเฉพาะเด็กเล็ก อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อ (pneumonia) โรคปอดบวม และหอบหืดได้
ไวรัส RSV หรือแค่ไข้หวัดธรรมดา
เด็กที่ติดเชื้อ ไวรัส RSV มักจะมีอาการเริ่มแรกคล้ายกับอาการไข้หวัดธรรมดา คือมีไข้ ไอ จาม แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกอาจติดเชื้อ ไวรัส RSV เช่น
- หอบเหนื่อย
- หายใจเร็ว หายใจแรง
- ไอมากและมีเสมหะมาก
- ไม่กินอาหารและน้ำ
- มีอาการซึม หรือหงุดหงิด กระสับกระส่าย
- มีอาการขาดน้ำ เช่นร้องไห้ไม่มีน้ำตา ฉี่น้อย หรือไม่ฉี่เลยใน 6 ชั่วโมง
หากลูกของคุณมีอาการเหล่านี้คุณควรพาลูกน้อยไปพบคุณหมอเพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียดครับ
ที่มา sg.theasianparent, chrisjohnsonmd
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
พ่อแม่มือใหม่ต้องรู้… อย่าทำแบบนี้เวลาลูกนอน
เด็กหัวโต ฉลาดกว่า เก่งกว่าเด็กทั่วไปจริงหรือ?
ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!