วิธีการตรวจสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง คือ การทดสอบหาฮอร์โมนHCG (Human chorionic gonadotropin) ตรวจตั้งครรภ์ ในปัสสาวะ ซึ่งหากตั้งครรภ์ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากรกจะเริ่มผลิตหลังจากที่มีการปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน และจะขึ้นสูงสุดในช่วง 8 – 12 สัปดาห์ เรียกว่า มีความแม่นยำมากถึง 90 % ทีเดียว และสามารถตรวจได้ในผู้ที่ประจำเดือนขาดตั้งแต่วันที่ 10 – 14 ขึ้นไป
วิธีใช้ชุดตรวจครรภ์แบบไหนบ้าง หรือ ตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วัน เรามีวิธีมาเเนะนำ
-
ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
- แบบที่ 1 แบบแถบจุ่ม ( Test Strip)
- แบบที่ 2 แบบตลับหรือแบบหยด
-
สามารถใช้ชุดตรวจครรภ์ด้วยตนเองได้เมื่อไหร่
-
วิธีการอ่านผลชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
-
คำแนะนำในการใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
วิธีตรวจตั้งครรภ์ทำแบบไหนบ้าง หรือมีวิธีตรวจอย่างไรเพิ่มเติม อ่านได้ที่นี้เลยเลื่อนลงเลย
ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
แบ่งออกเป็น 3 ชุด ได้แก่
แบบที่ 1 แบบแถบจุ่ม ( Test Strip) จะประกอบไปด้วย แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ (แผ่นตรวจครรภ์) และถ้วยตวงปัสสาวะ (อาจจะถ้วยตวงปัสสาวะมาให้หรือไม่มีก็ได้)
วิธีการทดสอบ
1. ให้เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง
2. นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ด้านที่มีลูกศรชี้ลง จุ่มลงในถ้วยปัสสาวะที่เตรียมไว้ จุ่มกระดาษลงในถ้วยปัสสาวะเพียง 3 วินาทีเท่านั้น
3. ระวังอย่าให้น้ำปัสสาวะเลยขีดที่กำหนดในแผ่นทดสอบเพราะจะทำให้แผ่นทดสอบหมดประสิทธิภาพการทำงาน
4. นำแผ่นทดสอบออกจากถ้วยปัสสาวะ ถือไว้สักพักหรือวางไว้ในแนวนอน และต้องวางในพื้นที่แห้งสนิทเท่านั้น
5. รออ่านผลการทดสอบการตั้งครรภ์ภายในเวลา 1 – 5 นาที แต่ทางที่ดีควรรอจนกว่าจะครบ 5 นาที เพื่อให้ผลแสดงออกมาอย่างถูกต้อง
6. ข้อดีของชุดตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม คือ มีราคาถูก ใช้งานง่าย ราคาประมาณ 100 – 140 บาท
แบบที่ 2 แบบตลับหรือแบบหยด (Pregnancy Test Cassette) จะประกอบไปด้วย ตลับทดสอบการตั้งครรภ์ ถ้วยตวงปัสสาวะ และหลอดหยดสำหรับดูดน้ำปัสสาวะ
วิธีการทดสอบ
1. เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง แล้วนำหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะที่ได้ในปริมาณที่พอเหมาะ
2. หยดน้ำปัสสาวะลงบนตลับทดลองที่วางไว้บนพื้นประมาณ 3 – 4 หยด ไม่ควรหยดมากกว่านี้
3. วางชุดทดสอบนี้ไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อดูผลการทดสอบ
4. ข้อดีของแถบตรวจแบบนี้ คือ ลดโอกาสของแผ่นทดสอบที่จะเสื่อมสภาพได้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 140 -180 บาท
แบบที่ 3 แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) ที่ตรวจครรภ์จะมีแค่แท่งทดสอบการตั้งครรภ์เท่านั้น
วิธีการทดสอบ
1. ถอดฝาครอบออกพร้อมกับถือแท่งทดสอบ โดยให้หัวลูกศรชี้ลงค่ะ
2. ปัสสาวะโดยให้น้ำปัสสาวะผ่านบริเวณที่ดูดซับน้ำปัสสาวะ ซึ่งจะอยู่ต่ำกว่าลูกศรต้องให้เปียกชุ่มนะคะ
3. ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที โดยถือแท่งไว้หรือวางในบริเวณที่แห้งสนิทในแนวราบ
4. รออ่านผลการทดสอบได้ตั้งแต่ประมาณ 30 วินาทีเป็นต้นไป แต่ทางที่ดีควรรอประมาณ 5 นาที เช่นเดียวกับที่ทดสอบชุดอื่น ๆ เพื่อความแน่นอนของผลการทดสอบ
5. ข้อดีของชุดทดสอบชุดนี้ คือ ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเก็บน้ำปัสสาวะในถ้วย เป็นการลดขั้นตอนในการทดสอบ แต่มีราคาค่อนข้างสูงกว่า สองแบบแรก คือ ราคาประมาณ 180 – 200 บาท
สามารถใช้ชุดตรวจครรภ์ด้วยตนเองได้เมื่อไหร่
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่สามารถตรวจวัดระดับฮอร์โมน hCG หลังจากประจำเดือนไม่มาเพียงวันเดียวได้ค่อนข้างแม่นยำ อีกทั้งการทดสอบด้วยตัวอย่างน้ำปัสสาวะแรกหลังจากตื่นนอนนั้นจะให้ค่าระดับฮอร์โมน hCG สูงที่สุด
แต่การจะตรวจให้ผลการใช้ที่มีประสิทธิภาพ คือ ทำการทดสอบเมื่อรอบเดือนขาดหายไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ แม้ว่าชุดทดสอบส่วนใหญ่จะบอกว่าได้ผลแม่นยำถึง 99 % ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ เพราะโอกาสที่ตังอ่อนจะฝังตัวในผนังมดลูกจากประจำเดือนไม่มาในวันแรกมีสูงถึงร้อยละ 10 และที่สำคัญระดับฮอร์โมน hCG อาจจะยังไม่สูงพอที่จะวัดได้
วิธีการอ่านผลชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
Credit ภาพ : www.conceiveeasy.com
ตามปกติชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่ซื้อมาทั่วไปจะบอกวิธีการใช้และวิธีการอ่านผลการทดสอบระบไว้พร้อมรูปตัวอย่าง แนะนำว่าการอ่านผลที่เหมาะสมควรรอประมาณ 5 นาที เพราะถ้าทิ้งไว้อาจมีอีกขีดปรากฎขึ้นมา ซึ่งผลจะไม่แน่นอนแล้วหากเป็นเช่นนั้น โดยขีด C คือ Control Line ส่วนขีด T คือ Test Line
1. ตรวจแล้วขึ้น 1 ขีด ขึ้นที่ขีด C อย่างเดียว คือ ได้ผลลบ แปลว่า “ไม่น่าจะตั้งครรภ์” หมายความว่า คุณอาจจะไม่ตั้งครรภ์ หรือ อาจจะตั้งครรภ์แล้วแต่ยังตรวจไม่พบก็ได้ อาจต้องทำการตรวจซ้ำในอีก 2 – 3 วันค่ะ
2. ตรวจแล้วขึ้น 2 ขีด หรือ ขึ้น 2 ขีด จาง ๆ ขึ้นที่ขีด C และ T คือ ได้ผลบวก แปลว่า “น่าจะมีการตั้งครรภ์” แต่ถ้าตรวจแล้วขีด T ขึ้นจาง ๆ ขอแนะนำว่าให้รออีก 2-3 วันแล้วค่อยตรวจใหม่ค่ะ
3. ตรวจแล้วไม่ขึ้นแถบสีหรือไม่ขึ้นสักขีด หรือ ขึ้น 1 ขีดบนตัว T คือ อ่านค่าไม่ได้ แปลว่า “ชุดทดสอบการตั้งครรภ์เสีย” เช่น การเก็บไม่ถูกวิธี การใช้ปัสสาวะเก่า เป็นต้น แบบนี้คุณจะต้องทำการตรวจใหม่อีกครั้ง
คำแนะนำในการใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
1. อ่านคำแนะนำและวิธีใช้ให้ถูกต้อง และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2. การตรวจด้วยตนเองเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น ควรยืนยันผลการตรวจจากคุณหมออีกครั้ง
3. การตรวจปัสสาวะ ควรใช้ปัสสาวะหลังจากตื่นนอนตอนเช้าซึ่งจะให้ผลดีที่สุด แต่เวลาอื่นก็ได้ผลเหมือนกัน แต่สำคัญว่าต้องใช้ปัสสาวะใหม่เท่านั้น
4. ชุดทดสอบเมื่อซื้อมาแล้วสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องตามปกติได้ (ไม่เกิน 30 องศา) หลีกเลี่ยงแสงแดด และความชื้น
5. เมื่อฉีกซองออกแล้ว ต้องตรวจทันทีจึงจะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจถูกความชื้นได้จะทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจลดลงหรือไม่แม่นยำ
6. ในการทดสอบซ้ำ ให้เว้นระยะห่างจากการทดสอบครั้งแรกอย่างน้อย 2-3 วัน
เมื่อทดสอบแล้วได้ผลว่าอาจจะตั้งครรภ์ แนะนำว่าควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจให้แน่ใจอีกครั้งนะคะ
ถ้าคุณแม่ท่านไหนไม่แน่ใจหรือตรวจเเล้วไม่ขึ้นเราเเนะนำไปคลีนิกเพื่อ เจาะเลือดตรวจครรภ์ คลีนิค
วิธีนี้เป็นการตรวจที่ได้ผลแม่นยำที่สุด ตรวจเลือดตั้งครรภ์ ตรวจอะไรบ้าง หรือ การตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วัน เราสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังจากมีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ในขณะที่บางครั้งการตรวจจากปัสสาวะยังไม่ขึ้นผล แต่ตรวจเลือดก็ได้ผลว่า พบฮอร์โมนการตั้งครรภ์แล้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจให้รู้แน่ชัดโดยไว เช่น ผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก หรือมีประวัติแท้งบุตร ต้องการข้อมูลเพื่อวางแผนการดูแล ให้ฮอร์โมนเสริมต่างๆ เพื่อป้องกันการแท้งบุตร การตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วัน
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ ตรวจครรภ์ 2 ขีด ไม่ท้อง คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กินยาคุมกำเนิดมานานจะท้องได้หรือไม่