วิธีดูแลทารกหน้าร้อน การคลายร้อนให้ลูกน้อย ทำได้อย่างไร อากาศร้อนต้องห่มผ้าให้ลูกไหม เปิดแอร์ เปิดพัดลม ให้ลูกได้หรือเปล่า
การดูแลลูกในช่วงหน้าร้อน ทำได้อย่างไรบ้าง
หน้าร้อน แดดแรง ถึงไม่มีแดดก็อากาศอบอ้าวจริง ๆ ไม่ใช่แค่ทารกหรือเด็กเล็กหรอกค่ะที่ไม่สบายตัว ขนาดคนเป็นพ่อเป็นแม่ยังรู้สึกร้อนจนหงุดหงิดไปหมด ลองคิดดูสิคะว่า ทารกพูดออกมาไม่ได้ ถึงลูกร้อนแค่ไหน ทำได้ก็แค่ร้องงอแงเท่านั้น คนเป็นพ่อเป็นแม่จึงต้องดูแลใส่ใจ คอยดูว่าลูกเป็นอย่างไร ร้อนอยู่หรือเปล่า โดยมีวิธีดูแลทารกหน้าร้อนง่าย ๆ ดังนี้
- เลือกเสื้อผ้าหน้าร้อนที่ใส่สบายไม่รัด ไม่อึดอัด เนื้อผ้าต้องระบายอากาศได้ดี และอ่อนโยนต่อผิวทารก เพราะอากาศร้อน เหงื่อออกจะทำให้ทารกระคายเคืองได้ง่าย พ่อแม่ควรให้ลูกใส่ผ้าฝ้าย คอตตอนเนื้อบางที่ระบายอากาศได้ดี
- ควรให้ลูกอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เปิดหน้าต่าง หรือประตูบ้าง ถ้าไม่ได้เปิดแอร์ เพื่อกระจายความร้อนออกนอกบ้าน ถ้าเป็นช่วงเช้ามืดหรือหัวค่ำ ต้องดูแลปิดมุ้งลวดป้องกันยุงหรือแมลงเข้ามาในบ้านด้วยนะคะ สำหรับครอบครัวที่ต้องเผชิญกับมลภาวะ มีฝุ่น เปิดบ้านไม่ได้ ให้ปิดบ้านแล้วเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม หรือถ้ามีเครื่องกรองอากาศ ฟอกอากาศ ก็ให้เปิดด้วยค่ะ
- ระหว่างวันให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำที่เย็นไม่มาก บิดหมาด ๆ ซับตัว เช็ดตัวให้ลูกรู้สึกสบายตัวระว่างวัน ลดอุณหภูมิร่างกายทารก
- สำหรับคำถามที่ว่าอากาศร้อนต้องห่มผ้าให้ลูกไหม ก็ต้องดูลูกด้วยว่า ลูกร้อนหรือไม่ ทางที่ดีให้เลือกผ้าห่มผืนบาง ๆ ห่มให้ลูก ถ้าลูกร้องไห้ ปัดออก ก็ต้องดูว่าบนเตียงนอนลูกนั้นเต็มไปด้วยหมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตาหรือไม่ ต้องหยิบออกเพื่อให้เตียงโล่งขึ้น ลูกจะได้นอนหลับสบาย ๆ
- การอาบน้ำให้ทารกก็ต้องใช้น้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรืออุ่นเกินไป
- อย่าเปิด ๆ ปิด ๆ แอร์บ่อย ๆ ถ้าอากาศเปลี่ยนจากร้อนไปหนาว จากหนาวไปร้อน อาจทำให้ลูกไม่สบายได้ และต้องระวังลูกเป็นผดร้อน เพราะช่วงหน้าร้อนเหงื่อจะออกได้ง่าย ทำให้เกิดผื่น ผดมีหัวหนองเล็ก ๆ ส่วนอาการป่วยอื่น ๆ ที่มักเกิดขึ้นได้ในหน้าร้อน เช่น ท้องเสีย พ่อแม่ต้องทำความสะอาดภาชนะให้ดี ดูแลของเล่นลูกให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีลูกชอบคว้าของเล่นเข้าปาก
การดูแลลูกในช่วงหน้าร้อน จะเปิดพัดลม เปิดแอร์ ได้ไหม
หากอากาศข้างนอกร้อนมาก อบอ้าว ฝนไม่ตก จนลูกร้องงอแง พ่อแม่ก็อยากเปิดพัดลม เปิดแอร์ให้กับลูกใช่ไหมคะ แต่ก็กังวล กลัวลูกจะป่วยเป็นโรคปอด มาอ่านคำแนะนำจาก รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน กันค่ะ
อุณหภูมิห้องที่เหมาะสมกับทารกคือประมาณเท่าใด?
จากข้อมูลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันพบว่า หากทารกอยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงจนเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) แต่ก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ชัดเจนว่าอุณหภูมิห้องเท่าใดที่เหมาะสมต่อการนอนของทารก
วิธีดูแลทารกหน้าร้อนต้องทำอย่างไร
วิธีสังเกตลูกนอนหลับสบาย
หลักการที่ถูกต้องคือ ควรให้ทารกอยู่ในอุณหภูมิห้องที่อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป อันจะทำให้นอนหลับไม่สนิทและเกิดผดร้อนได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรหนาวจนเกินไปเพราะอาจทำให้ทารกไม่สบายได้ง่าย ซึ่งอุณหภูมิที่พอเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยแบบสบาย ๆ ไม่หนาวและไม่ร้อนจนเกินไปคือประมาณ 25 องศาเซลเซียส ดังที่มีคำแนะนำให้ปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ระดับนี้ ทั้งนี้ หากคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าลูกจะหนาวจนเกินไป อาจตั้งไว้ที่อุณหภูมิ 26-27 องศาเซลเซียสก็ได้ค่ะ
- วิธีสังเกตอุณหภูมิที่เหมาะสมอย่างง่ายที่สุดก็คือ ผู้ใหญ่ เช่น คุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกว่าไม่ได้ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ซึ่งทารกก็อาจรู้สึกเช่นเดียวกัน
- หากไม่แน่ใจว่าทารกตัวร้อนหรือเย็นเกินไปหรือไม่ ก็สามารถใช้ปรอทวัดไข้มาวัดอุณหภูมิของทารกได้ หรืออาจใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือสัมผัสบริเวณท้องและหลังของทารกว่าร้อนหรือเย็นเกินไปหรือไม่ มีเหงื่อออกเยอะมากกว่าปกติหรือเปล่า หากพบว่าทารกตัวอุ่นดีก็ไม่ต้องกังวลค่ะ
ข้อควรระวังคือควรเฝ้าสังเกตว่าทารกร้อนเกินไปหรือไม่
- โดยดูจากการที่มีเหงื่อออกเยอะ
- แก้มแดงผิดปกติ
- มีผดร้อนเกิดขึ้นบริเวณหน้าอก หลัง และคอ
- นอนหลับไม่สบายดูกระสับกระส่าย
พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการทารกด้วยว่า งอแง มีเหงื่อ แก้มแดง จนผิดสังเกตหรือไม่ ถ้าทารกดูจะร้อน ก็อย่าลืมนำวิธีดูแลทารกหน้าร้อนไปใช้ เพื่อคลายความร้อนให้ลูกน้อยกันนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีคลายร้อนของคนท้อง ทําไมคนท้องขี้ร้อน แม่ท้องเหงื่อออกเยอะ บรรเทาอาการขี้ร้อนของคนท้องอย่างไร
ลูกมีไข้สูง ตัวร้อน จะชักหรือไม่ ทำอย่างไรดี
เทคนิคดูแลเด็กขี้ร้อน วิธีคลายร้อน สำหรับลูกรัก ฉบับแม่มือโปร
ทารกจามบ่อยอันตรายไหม ทำไมลูกถึงจามบ่อย พ่อแม่ควรทำอย่างไรดี
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!