เมื่อลูกน้อยป่วย มีอาการไอ เสมหะ หรือหายใจครืดคราด ปัญหาที่มักตามมาคือเด็กเล็กยังไม่สามารถขับเสมหะออกมาเองได้ ทำให้มีเสมหะคั่งค้างสะสมอยู่ในปอด ทำให้หายใจลำบาก และอาจเสี่ยงติดเชื้อ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยได้ด้วยการเคาะปอดอย่างถูกวิธี โดยหากทำร่วมกับการจัดท่าเพื่อระบายเสมหะ และการกระตุ้นให้ไออย่างถูกต้อง ก็จะยิ่งช่วยให้เสมหะหลุดออกจากหลอดลมได้ง่ายขึ้นค่ะ
วิธีเคาะปอด ระบายเสมหะ คืออะไร
การเคาะปอด คือ การใช้แรงสั่นจากลมที่กระทบผนังทรวงอกขณะเคาะ ไปทำให้เสมหะหลุดจากหลอดลม โดยใช้ผ้าบาง ๆ วางบนตำแหน่งที่จะเคาะ โดยทำมือเป็นกระเปาะ ปลายนิ้วชิดกัน ข้อมือ ข้อศอก และไหล่เคลื่อนไหวสบาย ๆ เพื่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนลงไปที่ปอด ไม่ใช่แรงตบที่ทำให้เจ็บ เคาะปอดด้วยความถี่ 3 ครั้งต่อวินาที ให้ทั่ว ๆ บริเวณทรวงอกส่วนที่เคาะอยู่ โดยวนเป็นวงกลม หรือเลื่อนไปทางซ้าย และขวา
การเคาะปอด ร่วมกับการจัดท่าระบายเสมหะที่เหมาะสมใช้หลักแรงโน้มถ่วง ช่วยให้เสมหะที่ถูกเคาะจนหลวม ไหลจากปอดส่วนเล็กๆ มารวมกันที่หลอดลมใหญ่ เพื่อรอให้ไอออกมา โดยให้ทำการเคาะในแต่ละท่า ท่าละ 3 – 5 นาที รวมทุกท่าไม่ควรนานเกิน 30 นาที และจึงลุกนั่งหรือยืน เพื่อให้ไออย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อใดที่ควรเคาะปอด
- ไอ เสมหะมาก หายใจเสียงดังครืดคราด
- มีเสมหะคั่งค้างในหลอดลมจำนวนมาก เช่น ปอดอักเสบ
- พบภาพรังสีทรวงอก แสดงภาวะปอดแฟบ เนื่องจากการอุดตันของเสมหะ
- ผู้ป่วยเด็กโรคเรื้อรัง ที่มีภาวะเสมหะคั่งค้าง
- ผู้ป่วยเด็กหลังผ่าตัด ที่มีปัญหาของเสมหะคั่งค้างในปอด และหลอดลม
- ผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่มีปัญหาของเสมหะคั่งค้างในหลอดลม ไม่สามารถระบายเสมหะได้ด้วยตนเอง
วิธีการเคาะปอด ระบายเสมหะให้ลูก
สถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชินี ได้ให้คำแนะนำในการเคาะปอดไว้ ดังนี้
วิธีเคาะปอด และจัดท่าระบายเสมหะ ท่าที่ 1
- อุ้มลูกให้หันหน้าเข้าหาอกพ่อแม่ ศีรษะลูกพาดบนไหล่พ่อแม่ แล้วเคาะบริเวณด้านหลังส่วนบน เหนือกระดูกสะบักขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงการเคาะบริเวณกระดูกสะบัก
ทารกมีเสมหะในคอ วิธีละลายเสมหะ ท่าระบายเสมหะที่ใช้ร่วมกับการเคาะปอด ท่าที่ 1
วิธีเคาะปอด และจัดท่าระบายเสมหะ ท่าที่ 2
- จัดท่านอนหงาย ให้ศีรษะหนุนหมอน ใช้ผ้าบางรองบริเวณหน้าอก เคาะบริเวณระดับไหปลาร้าถึงใต้ราวนม
- หลีกเลี่ยงการเคาะบริเวณกระดูกหน้าอก
ทารกมีเสมหะในคอ วิธีละลายเสมหะ ท่าระบายเสมหะที่ใช้ร่วมกับการเคาะปอด ท่าที่ 2
วิธีเคาะปอด และจัดท่าระบายเสมหะ ท่าที่ 3
- จัดท่าให้ลูกนอนตะแคง ยกแขนลูกขึ้นไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วเคาะบริเวณเหนือชายโครงด้านข้าง ต่ำจากรักแร้ลงมาเล็กน้อย
- และเคาะบริเวณด้านหลังต่ำจากกระดูกสะบักจนถึงชายโครงซี่สุดท้าย โดยเคาะทั้งท่านอนตะแคงซ้ายและขวา
ทารกมีเสมหะในคอ วิธีเคาะปอด ท่าระบายเสมหะ ท่าที่ 3
ข้อควรระวังใน และควรหยุดทันทีขณะเคาะปอด
- ลูกบ่นหรือเจ็บ ปวดบริเวณที่เคาะ หรือมีประวัติได้รับการกระแทกที่หน้าอก
- มีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น ริมฝีปากซีดคล้ำ หายใจจมูกบาน หน้าเขียว
- ร้องไห้งอแงมากกว่าปกติ
ข้อห้ามในการเคาะปอด
- ลูกมีไข้สูง
- เพิ่งกินนมอิ่มๆ
- มีอาการอาเจียน หรือท้องเสียรุนแรง
- เด็กมีโรคประจำตัวบางชนิด (เช่น โรคหัวใจรุนแรง) ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- มีภาวะกระดูกหัก บริเวณทรวงอก
- มีประวัติป่วยด้วยโรคมะเร็ง วัณโรคปอด
- มีอาการหอบเหนื่อย ตัวเขียว
- มีแผลเปิด หรือหลังผ่าตัดที่แผลยังไม่ติดดี
- มีภาวะกระดูกผุ
- มีภาวะเสี่ยงต่อการเลือดออกง่าย โดยสังเกตได้จากสีผิว สีปากคล้ำ หน้าซีด สัญญาณชีพผิดปกติ เช่น มีไข้สูง หายใจเร็ว และความดันโลหิตสูง
บทความที่เกี่ยวข้อง วิธีสังเกตการหายใจของทารก ลูกหายใจเร็ว หรือแรง อันตรายไหม ?
เคาะปอดทำได้บ่อยแค่ไหน
การเคาะปอด ควรทำเมื่อตื่นเช้า และก่อนเข้านอน เพื่อให้หลับสบาย และอาจทำเพิ่มก่อนอาหารกลางวัน ช่วงบ่าย รวมทั้งกลางคืน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ถ้านอนหลับไปสักพักแล้วไอมาก จะช่วยให้เด็กหลับต่อได้ดีขึ้น
การไอที่ถูกวิธี และมีประสิทธิภาพ
หลังจากเคาะและจัดท่าครบแล้ว เสมหะจะมารวมที่คอ ให้อุ้มลูกนั่งตัวตรง หรือพาดบ่า การไอให้มีประสิทธิภาพ ต้องหายใจเข้าเต็มที่ แล้วกลั้นหายใจ 1 – 2 วินาที เพื่อให้ลมกระจายไปทั่วทุกส่วนของปอด และมีแรงขับดันเอาเสมหะออกมาได้เต็มที่ จากนั้นไอติดต่อกัน 2 – 3 ครั้ง การให้เด็กเล็กสูดหายใจเข้าเต็มที่ อาจใช้ของเล่นที่ต้องสูดหายใจแรง ๆ มาช่วย เช่น เป่าลูกโป่ง เป่าฟองสบู่ หรือเป่ากังหัน เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง ทำอย่างไรดี เมื่อลูกไอมาก
ทราบได้อย่างไรว่า ลูกดีขึ้นแล้ว
ลูกจะไอลดลง ลดอาการหายใจเสียงดัง ลดเสียงครืดคราด ขณะหายใจ สามารถดื่มนม และหลับได้นานขึ้น แต่หากลูกอาการไม่ดีขึ้น เสมหะเขียวข้น หรือมีไข้ ต้องไปพบแพทย์
ชมคลิปสาธิตการเคาะปอดระบายเสมหะลูกอย่างถูกวิธี
วิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยเอาเสมหะออกให้ลูก
1. การจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ
เพราะน้ำจะช่วยลดความหนืดเหนียวของเสมหะที่อยู่ในลำคอให้ระบายออกได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำอุ่นจะช่วยละลายเสมหะได้ดีกว่าน้ำธรรมดา
2. การกลั้วคอ
ช่วยละลายเสมหะ วิธีนี้อาจจะต้องใช้กับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย ซึ่งสามารถที่จะกลั้วคอได้โดยไม่เสี่ยงต่อการสำลัก การกลั้วคอด้วยน้ำผสมเกลือเล็กน้อย ก็จะช่วยละลายเสมหะอ่อนตัวลงได้
3. สมุนไพรที่มีความเผ็ดร้อน และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวช่วยละลายเสมหะ
ผลไม้ เช่น มะนาว มะขาม สมอไทย สมุนไพร เช่น พริก พริกไทย ดีปลี เป็นต้น โดยนำสมุนไพร หรือผลไม้เหล่านี้มาปรุงอาหาร หรือต้มน้ำเพื่อดื่ม ไม่เพียงแต่ช่วยในการละลายเสมหะเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในลำคออีกด้วย
4. การสูดหายใจเข้า – ออกลึก ๆ
การหายใจเข้าออกจนเต็มปอดติดต่อกัน 3 – 5 ครั้ง พัก 5 – 10 นาที สัก 2 – 3 รอบ ทำให้ถุงลมในปอดขยาย และเมื่อหายใจออก ลมจะช่วยขับดันเสมหะให้หลุดออกมาอยู่ที่ลำคอ และสามารถกำจัดออกไปได้ง่าย
5. การไอเพื่อเอาเสมหะออก
โดยธรรมชาติ การไอเป็นการขับเสมหะอยู่แล้ว โดยการไอที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถขับเสมหะออกได้มากกว่า วิธีการคือ หายใจเข้าลึก ๆ จนเต็มปอด โดยไม่ยกไหล่ ก้มคอลงเล็กน้อย และกลั้นหายใจไว้ 1 – 2 วินาที จึงค่อยไอออก หากเสมหะมีความเหนียวมาก ควรจะดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดความเหนียวของเสมหะก่อน ไม่ควรไอแรง ๆ ติดต่อกัน เพราะอาจจะทำให้เจ็บคอได้
เมื่อไหร่ที่ควรช่วยลูกขับเสมหะ
โดยส่วนมากเสมหะมักจะคั่งค้างในเวลากลางคืน ลูกจึงมักจะตื่นขึ้นมาไอในตอนเช้า และมีอาการนอนไม่หลับในเวลากลางคืน การขับเสมหะจึงควรทำก่อนเข้านอน และหลังจากตื่น หรือหากลูกตื่นมาไอกลางดึก ก็สามารถช่วยลูกขับเสมหะออกด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาได้
บทความที่เกี่ยวข้อง เสมหะลงปอด ทารก ปอดอักเสบ ปอดบวม วิธีช่วยให้ลูกหายใจโล่ง
ข้อควรระวังในการขับเสมหะออก
- ผู้ที่มีอาการหืดหอบ ควรจะให้อาการหืดหอบดีขึ้นก่อนทำการขับเสมหะ ด้วยการพ่นยา หรือสูดยาขยายหลอดลม เพื่อเปิดทางหลอดลมให้โล่ง
- การไอจะทำให้เหนื่อย ไม่ควรไอถี่เกินไป อีกทั้งการไอต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง และกะบังลมมาก บางรายอาจจะไอจนเจ็บท้องได้ ซึ่งสามารถบรรเทาอาการได้โดยการวางมือไว้บนหน้าท้อง ออกแรงกดเล็กน้อย ระหว่างไอ
- เสมหะ เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี ซึ่งหากคั่งค้างมาก จะทำให้ลูกไม่สบาย มีไข้ และยิ่งไอมากขึ้นได้ หากเสมหะอุดตัน อาจทำให้เป็นปอดบวม ปอดแฟบ หรือถุงลมโป่งพอง
ได้รับการตรวจสอบข้อมูลโดย นพ. ชัยวัฒน์ เชื้อพันธุ์ แพทย์ หู คอ จมูก ภูมิแพ้
อ้างอิงข้อมูลจาก
เอกสารเผยแพร่ ช่วยเด็กเพื่อไอเอาเสมหะออกเองได้อย่างไร โรงพยาบาลวิภาวดี , YouTube Thirathat Thongkaew สถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชินี , thaihealthlife.com , healthserv.net
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีป้องกันเด็กติดเชื้อ วิธีป้องกันเชื้อโรค หากจำเป็นต้องเดินทางช่วงที่มีโรคระบาด
5 วิธีป้องกันเพื่อความปลอดภัยเด็กเมื่อเด็กเล่นน้ำ เล่นยังไงให้เซฟ
วิธีป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มากับฝน ถ้าไม่อยากให้ลูกป่วย ต้องทำแบบนี้!