04ลูกในท้องกินอย่างไร
ลูกในท้องกินอย่างไร จะรู้ได้ไงว่าทารกในครรภ์กินอิ่ม : ในช่วงที่อยู่ในครรภ์มารดานั้น ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารผ่านทางสายสะดือที่เชื่อมระหว่างแม่กับลูก โดยมีรกเป็นตัวลำเลียงอาหารและออกซิเจนไปยังลูกในท้อง และในทางกลับกัน เมื่อลูกในท้องได้รับสารอาหารแล้ว ก็จะเกิดของเสียตามมา ซึ่งของเสียนั้นก็จะผ่านจากเด็ก กลับออกมาทางรกนั่นเองครับ
ผลกระทบจากการขาดสารอาหาร
สำหรับคุณแม่ที่ก่อนตั้งครรภ์เป็นคนกินน้อย และไม่ค่อยกินบ่อย เมื่อตั้งครรภ์แล้ว ควรบำรุงให้มากกว่าเดิมนะครับ เพราะหากคุณแม่ขาดสารอาหาร ลูกในท้องก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น
- มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด หรือเสี่ยงต่อการแท้งได้
- ทารกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
- รกมีขนาดเล็กและเติบโตได้ไม่ดีพอ เมื่อรกทำหน้าที่ได้ไม่ดี ก็มีโอกาสที่ทารกอาจเสียชีวิตในครรภ์ได้
อาหารบำรุงครรภ์
เพราะอาหารที่คุณแม่ทานตอนท้อง ส่งผลโดยตรงกับลูกในครรภ์ เรามาดูกันว่า อาหารบำรุงครรภ์ ที่คุณแม่ควรกิน มีอะไรบ้าง
1. กินโปรตีนเสริมสร้างอวัยวะและการเจริญเติบโตของทารก
อาหารที่ควรกิน ได้แก่เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อปลา เป็ด ไก่ ไข่ นม ถั่ว เต้าหู้ โดยควบคุมให้อยู่ประมาณ 71 กรัมต่อวัน
2. กินวิตามินและโฟเลต
- โฟเลต สร้างระบบประสาทส่วนกลางของทารก ควรรับประทานโฟเลตก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน และทานต่อเนื่องระหว่างตั้งครรภ์ สำหรับอาหารที่มีโฟเลตสูง ได้แก่ ผักใบเขียว ไข่ เนื้อสัตว์ ผักโขม ถั่วเขียว ถั่วลิสง ส้ม
- ธาตุเหล็ก ในช่วงไตรมาสสองและสาม ทารกจะดึงเอาธาตุเหล็กในเลือดของแม่ไปสร้างเม็ดเลือดแดงของตัวเอง ส่วนตัวแม่ท้องเองก็ต้องเตรียมไว้สำหรับการคลอดและระยะหลังคลอด สำหรับธาตุเหล็กพบได้ใน เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ผักใบเขียว ผักโขม สัตว์ปีก
- แคลเซียม จำเป็นในการสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อย ต้องการมากถึงวันละ 1,000 มิลลิกรัม มีอยู่ในนม เนย โยเกิร์ต ซีเรียล ชีส แซลมอน ผักโขม น้ำผลไม้ งาดำ เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่ว ปลาตัวเล็กที่ทานได้ทั้งตัว และผักใบเขียว เพื่อให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี ต้องมีวิตามินดีเพิ่ม ซึ่งจะได้จาก แสงแดด ตับ ไข่แดง ปลาทะเล นม น้ำผลไม้
- ไอโอดีน จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของทารก พบมากในอาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย สาหร่าย
3. ดื่มน้ำมาก ๆ
แม่ท้องควรดื่มน้ำประมาณ 8-12 แก้วต่อวัน เพราะจะช่วยป้องกันอาการต่าง ๆ ขณะตั้งครรภ์ รวมทั้งความไม่สบายตัวที่มักเกิดขึ้นกับแม่ท้องได้
จะรู้ได้อย่างไรว่าทารกในครรภ์สมบูรณ์ดีหรือไม่
นอกจากข้อสังเกตเบื้องต้นอย่างเช่น ความสอดคล้องระหว่างขนาดท้องกับอายุครรภ์, น้ำหนักที่ขึ้นในช่วงตั้งครรภ์แล้ว การที่จะรู้ว่าทารกในครรภ์สมบูรณ์ดีหรือไม่ สามารถตรวจได้ตั้งแต่เริ่มรู้ว่าตั้งครรภ์ เมื่อไปฝากครรภ์ คุณหมอก็จะตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อดูความพร้อมและสุขภาพของแม่ท้องและนัดติดตามดูการเจริญเติมโตของทารกในครรภ์เป็นระยะ ๆ ซึ่งการตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์นั้น สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
- การตรวจอัลตราซาวด์
- ตรวจจากการดิ้นของทารก
- การวัดความสูงยอดมดลูก
- การนำเซลล์ของทารกในครรภ์มาตรวจหาโครโมโซม หรือดีเอ็นเอ
- การตรวจอัตราการเต้นของหัวใจทารก
อย่างไรก็ตาม แม่ท้องควรใส่ใจสุขภาพ หมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ นับลูกดิ้น กินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน จะได้ช่วยลดปัญหาและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งช่วยให้คุณแม่และลูกในท้องมีสุขภาพที่ดี คลอดออกมาปลอดภัย สมบูรณ์ แข็งแรงครับ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ตารางน้ำหนักและขนาดของทารกในครรภ์ ที่จะบอกว่าลูกในท้องแข็งแรงดีแค่ไหน
6 อาการใกล้คลอด เตรียมสตาร์ทรถไปโรงพยาบาลด่วน
ชีวิตในตู้อบ กว่าจะโตมาจนถึงวันนี้ รู้ไหม…หนูต้องเจออะไรบ้าง