ลูกเป็นเริม เพราะรอยจูบแม่
ลูกเป็นเริม จากข่าวจากเว็บไซต์ mirror รายงานว่า ทารกวัย 3 เดือน มีอาการป่วยและถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่คลินิกท้องถิ่น ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลประชาชนเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน
ตามรายงานข่าวระบุว่า ร่างกายของทารกน้อยรายนี้เต็มไปด้วยแผลบวมแดงทั่วตัว โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ อีกทั้งยังมีไข้สูงจากการติดเชื้อมาหลายวันโดยที่ไม่ได้รับการรักษา
หลังจากที่หนูน้อยวัย 3 เดือนถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาล คุณหมอได้ทำการตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่า เป็นอาการของโรคเริม ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพลกซ์ ชนิด HSV-1
ดอกเตอร์ซู แพทย์ผู้ทำการรักษา ให้ความเห็นว่า เด็กอาจติดเชื้อไวรัสมาจากแม่ซึ่งส่งผ่านทางการจูบ ซึ่งเชื้อไวรัสที่ว่านี้เป็นอันตรายร้ายแรงต่อเด็กทารกที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอ ซึ่งบางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ทารกน้อยรายนี้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ จนสามารถกลับบ้านได้แล้ว หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพียงไม่นาน
ที่มา mirror.co.uk
มาถึงตรงนี้ เรามาทำความรู้จักกับโรคเริมกันดีกว่าว่าโรคนี้เกิดจากอะไร อาการเป็นอย่างไร มีวิธีการรักษาและป้องกันได้อย่างไร โดย รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังสี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคเริมเอาไว้ดังนี้
โรคเริมเกิดจากอะไร?
โรคเริม เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เฮอร์ปีส์ซิมเพลกซ์ (Herpes simplex virus หรือ HSV) มี 2 ชนิด คือ ชนิด HSV-1 และ HSV-2 โดย HSV-1 มักก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากและริมฝีปาก HSV-2 มักก่อให้เกิดการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ ระบบประสาท และ โรคเริมชนิดแพร่กระจายทั่วร่างกายในทารกแรกเกิด แต่ทั้งนี้ HSV ทั้งสองชนิดอาจเป็นสาเหตุติดเชื้อกับเนื้อเยื่อส่วนไหนก็ได้เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำลง เช่น ที่เยื่อหุ้มสมอง สมอง ตา เป็นต้น
โรคเริมติดต่อได้อย่างไร?
โรคเริมในเด็กแรกเกิด อาจติดจากคุณแม่ได้ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ แต่มีรายงานการเกิดน้อยมาก ทารกจะมีอาการผื่นหรือแผลเริม ตาอักเสบ และขนาดหัวเล็กกว่าปกติ ส่วนมากโรคเริมในเด็กแรกเกิดมักเกิดจากการติดเชื้อในช่วงระหว่างการคลอดทางช่องคลอด ถ้าขณะคลอดมารดาติดเชื้อนี้ที่อวัยวะเพศ
โรคเริมในเด็กที่โตกว่าวัยทารกแรกเกิดและผู้ใหญ่ มักติดโรคเริมจากการสัมผัสกับแผลที่เป็นโรค, น้ำลาย, หรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วย จึงเกิดเมื่อสัมผัสใกล้ชิด ใช้ของใช้หรือทานอาหารด้วยภาชนะร่วมกัน การจูบ การกิน ทางเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อจะแทรกเข้าทางเยื่อบุหรือผิวหนังที่ถลอกเป็นแผล
อาการของโรคเริมมีอะไรบ้าง?
อาการของโรคเริมมีได้หลายแบบ ทั้งโรคเริมที่ริมฝีปากและเยื่อบุช่องปาก โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคเริมแบบแพร่กระจายทั่วตัว และโรคเริมในระบบประสาท เป็นต้น
เมื่อเป็นโรคเริมครั้งแรกจะมีอาการรุนแรง แตกต่างจากอาการที่เป็นซ้ำครั้งต่อ ๆ มา ที่มักเป็นเพียงรอยอักเสบหรือถลอกเล็กน้อย และหายเร็วกว่า โดยเมื่อเป็นครั้งแรกแล้วเชื้อไวรัสจะเข้าไปอยู่ในปมประสาท และเมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เชื้อจะออกมาตามเส้นประสาท และเกิดโรคซ้ำที่ผิวหนังหรือเยื่อบุผิว
สำหรับบทความนี้จะเน้นที่โรคเริมที่ริมฝีปากและเยื่อบุช่องปาก และโรคเริมแบบแพร่กระจายทั่วตัว ซึ่งพบในเด็กนะคะ
โรคเริมที่ริมฝีปากและเยื่อบุช่องปากในเด็กมีอาการอย่างไร?
โรคเริมที่ริมฝีปากและเยื่อบุช่องปากในเด็ก มักจะเป็นครั้งแรกจึงมีอาการมากคือ มีรอยบวมแดงบริเวณที่มีการติดเชื้อ ได้แก่ ริมฝีปากและเยื่อบุช่องปาก เกิดเป็นตุ่มน้ำใสเป็นกลุ่ม ๆ อย่างรวดเร็ว แตกเป็นแผล ปวด อาจมีต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้รอยโรคอักเสบและโตขึ้น บางคนอาจมีไข้ ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว นำมาก่อน
โรคเริมแบบแพร่กระจายทั่วตัวมีอาการอย่างไร?
โรคเริมแบบแพร่กระจายทั่วตัว จะมีการติดเชื้อโรคแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ตับ ปอด และสมอง ทำให้มีอาการตับโต ตาเหลืองตัวเหลือง ปอดอักเสบ ซึม ชัก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หรือไม่เสียชีวิตก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนของระบบประสาทและสมองอย่างรุนแรงได้ มักพบในทารกแรกเกิดที่ติดเชื้อโรคเริมซึ่งจะมีผื่นที่ผิวหนังและเยื่อบุตาอักเสบ และมีการติดเชื้อในระบบประสาท ร่วมด้วย
การติดเชื้อโรคเริมแบบแพร่กระจายนี้อาจเป็นได้ในเด็กวัยที่โตกว่าทารกแรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัวหรือมีภาวะที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้เช่นกัน
การรักษาโรคเริมในเด็กทำได้อย่างไร?
คุณหมอรักษาโรคเริมในเด็กได้ด้วยการให้ยาต้านไวรัสเริม ซึ่งมียาหลายตัว และหลายรูปแบบ โดยคุณหมอจะพิจารณาให้ตามข้อบ่งชี้ในการรักษาและความรุนแรงของอาการที่เป็นค่ะ
การป้องกันโรคเริมในเด็กทำได้อย่างไร มีวัคซีนหรือไม่?
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคเริม ดังนั้นการป้องกันโรคเริมจึงทำได้โดย การไม่ให้เด็กสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรค และคุณแม่ที่ตั้งครรภ์หากเคยเป็นโรคเริมมาก่อน หรือมีอาการของโรคอยู่ ควรแจ้งให้คุณหมอที่ดูแลทราบด้วยนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ล้างมือก่อนจับลูก คำเตือนจากพ่อผู้เกือบสูญเสียลูกสาว
ผมร่วง มือเน่า เล็บหลุด เพราะติดโรคมือเท้าปากจากลูก
แม่เล่าทั้งน้ำตา ลูกตายเพราะอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ ต้องให้ตายอีกกี่คนถึงจะคิดได้