TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

วิธีสังเกตอาการ ลูกสำลักนม ก่อนอันตรายถึงตาย พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ลูกสำลักนม

บทความ 3 นาที
วิธีสังเกตอาการ ลูกสำลักนม ก่อนอันตรายถึงตาย พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ลูกสำลักนม

วิธีสังเกตอาการลูกสำลักนม อะไรทำให้ลูกสำลักนม ถ้าลูกสำลักนมทำอย่างไร และจะมีวิธีป้องกันไม่ให้ลูกสำลักนมได้อย่างไร

ลูกสำลักนม อันตราย

ลูกสำลักนม เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้ โดยที่คุณแม่ไม่ทันระวัง ซึ่งการที่ลูกสำลักนมนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงต้องคอยระวังเป็นพิเศษ

วิธีสังเกตอาการ ลูกสำลักนม

วิธีสังเกตอาการลูกสำลักนม มีดังนี้

  1. ในระหว่างที่ลูกดูดนมจากขวดนั้น แรก ๆ ลูกจะมีอาการไอ เหมือนกับจะขย้อนนมออกมา หากสำลักไม่มาก อาจจะไอเพียงเล็กน้อย 2 – 3 ครั้งก็จะหายเอง คุณแม่ควรลูกนั่งเอามือประคองหน้าลูกไว้ ค่อย ๆ ลูบหลังเบา ๆ อีกครั้งเพื่อให้ลูกรู้สึกสบายตัวขึ้น
  2. กรณีที่ลูกมีอาการสำลักนมมาก เด็กจะมีอาการไอแรง จนหน้าแดง หรือมีเสียงหายใจที่ผิดปกติ มีเสียงครืดคราดขณะหายใจ หากมีอาการเช่นนี้ คุณแม่ควรรีบพาลูกไปโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย
  3. กรณีที่ลูกกินอาหาร เช่น ขนม หรือผลไม้ ไปก่อนที่จะกินนม เมื่อเกิดอาการสำลัก จะมีอาการตัวเขียว หรือมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา เช่น ไอไม่หยุด หายใจผิดปกติ มีเสียงหายใจครืดคราด หากลูกมีอาการเช่นนี้ ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

สาเหตุที่ทำให้ลูกสำลักนม

สาเหตุที่ทำให้ลูกสำลักนมนั้น เกิดจากทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ดังนี้

ปัจจัยภายใน ที่ทำให้ลูกสำลักนม ได้แก่

  • เด็กแรกเกิดมีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการดูดกลืน เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ซึ่งจะทำให้ช่องต่อระหว่างทางเดินอาหาร กับระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หรือ ภาวะหูรูดทางเดินอาหารยังปิดไม่สมบูรณ์
  • ทารกที่มีปัญหา เรื่องปอดและหัวใจ ทำให้เด็กหายใจเร็วขึ้นในขณะที่ดูดนม จึงมีโอกาสที่จะสำลักนมมากกว่าปกติ
  • เด็กที่มีปัญหาพัฒนาการที่ล่าช้า หรือเคยมีประวัติว่าเคยชัก ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะสำลักนมได้ง่าย

ปัจจัยภายนอก ที่ทำให้ลูกสำลักนม ได้แก่

  • วิธีการให้นม หากทารกดูดนมแม่ ลูกก็จะไม่ค่อยสำลักนม หรือมีโอกาสสำลักนมน้อย เพราะน้ำนมแม่จะไหลก็ต่อเมื่อลูกดูดเท่านั้น  แต่ถ้าเป็นนมชงจากขวด  ไม่ว่าลูกจะดูดนมหรือไม่ดูด นมก็จะไหลออกมาได้ตลอด
  • คุณแม่อุ้มลูกให้นมไม่ถูกท่า ไม่ถูกวิธี เช่น ป้อนนมลูกในขณะที่ลูกกำลังนอน ป้อนนมในขณะที่ลูกกำลังร้องไห้หรือการให้ลูกนอนกินนม ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกสำลักนมได้
  • เกิดจากความเข้าใจผิดของคุณแม่เช่น เวลาที่ลูกร้อง ก็จะป้อนนมทุกครั้ง ซึ่งคุณแม่อาจจะเข้าใจผิด คิดว่าลูกหิว ซึ่งอาจทำให้ปริมาณนมในกระเพาะอาหารเกินความต้องการ ส่งผลให้ลูกสำลักนมออกมา ซึ่งจริง ๆ แล้วหากว่าลูกร้องไห้ คุณแม่ควรหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ลูกร้องไห้เสียก่อน เช่น ร้องไห้เพราะอยากให้อุ้ม ร้องไห้เพราะไม่สบายตัว หรือร้องไห้เพราะอึ หรือฉี่  เป็นต้น
  • ใช้จุกนมขวดที่ผิดขนาดและไม่เหมาะสมกับช่วงวัย ทำให้น้ำนมไหลออกมามากกว่าปกติ จนเด็กสำลักนมได้
ลูกสำลักนม

ลูกสำลักนม

บทความจากพันธมิตร
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่

ป้องกันอย่างไรไม่ให้ลูกสำลักนม

  1. ในช่วง 6 เดือนแรก ควรให้นมแม่อย่างเดียว หลังจากนั้นจึงเริ่มต้นให้อาหารเสริมตามวัยที่เหมาะสม คือ 6 เดือนเป็นต้นไป เพราะในช่วงนี้อวัยวะการดูดกลืนจะทำงานได้ดีกว่าในช่วงแรกเกิด และสามารถชันคอตั้งตรงได้ทำให้โอกาสในการสำลักมีน้อยลง
  2. จับลูกเรอทุกครั้งหลังจากดูดนมเสร็จ สำหรับเด็กวัยแรกเกิด ถึง 2 เดือน ที่คอยังไม่แข็ง ควรใช้วิธีอุ้มลูกเรอโดยอุ้มลูกนั่งตัก ใช้มือประคองช่วงขากรรไกรเพื่อประคองศีรษะ แล้วใช้มืออีกข้างลูบหลังโดยการลูบขึ้นเบา ๆ
  3. สำหรับเด็กทารกที่คอแข็งดีแล้ว ให้จับลูกเรอโดยสามารถใช้วิธีอุ้มพาดบ่าได้ แล้วใช้มือประคอง และลูบหลังขึ้นเบา ๆ

ทำอย่างไร ถ้าลูกสำลักนม

  • หากลูกสำลักนม ไม่ควรอุ้มเด็กขึ้นทันทีที่เกิดการสำลัก
  • จับเด็กนอนตะแคง โดยให้ศีรษะเด็กต่ำลง เพื่อป้องกันไม่ให้นม หรืออาหารที่ติดค้างในปาก ไหลย้อนกลับไปที่ปอด

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไวท์ดอท เรื่องที่ทำแม่ให้นมต้องนอนร้องไห้ เช็คหัวนมด่วน มีจุดขาวไหม

Overfeeding อันตราย!!! จับตา 5 อาการ เมื่อลูกกินนมเยอะเกินไป

ช็อค! ทารกวัยเพียง 4 วัน ดับคาอกแม่ หลังแม่กินยาแล้วให้นม

parenttown

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

P.Veerasedtakul

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • วิธีสังเกตอาการ ลูกสำลักนม ก่อนอันตรายถึงตาย พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ลูกสำลักนม
แชร์ :
  • 7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

    7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

  • แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

    แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

  • ทายเพศลูกตามความเชื่อโบราณ สีปัสสาวะบอกเพศลูก ผิวแม่ท้องบอกเพศลูก จริงไหม?

    ทายเพศลูกตามความเชื่อโบราณ สีปัสสาวะบอกเพศลูก ผิวแม่ท้องบอกเพศลูก จริงไหม?

powered by
  • 7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

    7 อันดับ เสียงที่ลูกในท้องชอบฟังที่สุด กระตุ้นพัฒนาการ และความผูกพัน

  • แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

    แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ "เนื้องอกมดลูก" ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!

  • ทายเพศลูกตามความเชื่อโบราณ สีปัสสาวะบอกเพศลูก ผิวแม่ท้องบอกเพศลูก จริงไหม?

    ทายเพศลูกตามความเชื่อโบราณ สีปัสสาวะบอกเพศลูก ผิวแม่ท้องบอกเพศลูก จริงไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว