สาเหตุที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ของเด็ก
- โรคภูมิแพ้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดจากพันธุกรรม ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้จะทำให้ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 30-50% แต่ถ้าพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ทั้งคู่จะมีผลให้ลูกมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ถึง 50-70% ส่วนครอบครัวใดที่ไม่มีประวัติในการเป็นภูมิแพ้ ลูกจะมีโอกาสเป็นเพียง 10%
- การเกิดโรคภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม เช่น มลภาวะของอากาศ ฝุ่น ควัน หรือความไม่สะอาดภายในที่พักอาศัย และจากสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
- เด็กที่คลอดด้วยวิธีการผ่าท้องจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้มากกว่าเด็กที่คลอดโดยวิธีธรรมชาติ
- ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์หากสูบบุหรี่หรือเด็กได้สัมผัสควันบุหรี่จากคนรอบข้าง ก็เป็นความเสี่ยงทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจได้
โรคภูมิแพ้ มักเกิดจากการตอบสนองที่ไวเกินของภูมิคุ้มกันต่อสิ่งที่มาสัมผัสหรืออาหารที่กินเข้าไป หากพบว่าลูกมีอาการเหล่านี้ อาจแสดงว่าเป็นโรคภูมิแพ้ได้ เช่น
- มีผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ
- หายใจมีเสียงหวีด
- มีอาการหอบหืด
- แพ้อากาศ, มีน้ำมูกไหลเรื้อรัง
- คันตา น้ำตาไหลบ่อยๆ
แนวทางการลดความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ที่ดีที่สุด
- ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จนถึง 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
- หากจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษากุมารแพทย์ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ใช้นมสูตรสำหรับทารกที่มีโปรตีนผ่านการย่อยให้มีขนาดเล็กลง และมีผลวิจัยทางการแพทย์รับรอง การให้ลูกได้รับโปรตีนในช่วงวัยที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ได้
- การควบคุมสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก เช่น การงดสูบบุหรี่ตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ การดูแลทำความสะอาดสิ่งของเครื่องเรือนภายในบ้านให้สะอาด ฯลฯ
- การให้ลูกรับประทานอาหารที่เหมาะสมโดยเริ่มให้อาหารเสริมเมื่อลูกอายุ 6 เดือน และสังเกตว่ามีการแพ้อาหารชนิดนั้นหรือไม่
อาการภูมิแพ้หากไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาที่ดี ก็อาจจะทำให้สุขภาพของร่างกายหรือคุณภาพชีวิตของลูกแย่กว่าเด็กทั่วไป และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ เนื่องจากโรคภูมิแพ้ยังไม่สามารถแก้ไขสาเหตุการเกิดจากทางกรรมพันธุ์ การดูแลลูกน้อยในทุกด้านตั้งแต่วัยแรกเกิดจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อลดการเกิดอาการของโรคภูมิแพ้ สร้างความแข็งแรงเพื่อการเติบโตในระยะยาวสำหรับลูก
ลองเช็คความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ของลูกน้อยได้ที่ https://www.allergyrisktracker.com/th/
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!