ผ่าคลอด ตัดไส้ติ่ง เลยดีไหม ทำพร้อมกันไป แม่จะได้เจ็บแค่ครั้งเดียว

การผ่าคลอดและการผ่าตัดไส้ติ่งเป็นการผ่าตัดคนละประเภทที่มีจุดประสงค์และวิธีการดำเนินการที่แตกต่างกัน โดยการผ่าคลอด เป็นการผ่าตัดเพื่อนำทารกออกจากมดลูกของผู้หญิง มักทำเมื่อการคลอดแบบธรรมชาติเป็นอันตรายต่อแม่หรือทารก หรือเมื่อการคลอดแบบธรรมชาติไม่สามารถเกิดขึ้นได้เอง ส่วนการผ่าตัดไส้ติ่ง เป็นการผ่าตัดเพื่อเอาไส้ติ่งออก ไส้ติ่งเป็นอวัยวะเล็ก ๆ รูปร่างคล้ายนิ้วมือที่ยื่นออกมาจากลำไส้ใหญ่ การผ่าตัดมักจำเป็นเมื่อไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรง คุณแม่หลายท่านอาจสงสัยว่า ผ่าคลอด ตัดไส้ติ่ง เลยดีไหม ทำพร้อมกันไป แม่จะได้เจ็บแค่ครั้งเดียว วันนี้เรามาหาคำตอบที่แท้จริง

ไส้ติ่งเป็นอวัยวะรูปร่างคล้ายนิ้วมือขนาดประมาณ 3 – 4 นิ้ว หน้าที่ของไส้ติ่งยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยสะสมแบคทีเรียที่ใช้ในระบบย่อยอาหาร โดยไส้ติ่งอยู่บริเวณท้องน้อยด้านขวา ทั้งนี้ตำแหน่งที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับกายวิภาคของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปจะอยู่บริเวณจุดที่ลากเส้นตรงจากสะดือลงมาประมาณ 1/3 ของระยะทางระหว่างสะดือกับกระดูกเชิงกรานด้านขวา

ความแตกต่างของการผ่าคลอดและการผ่าตัดไส้ติ่ง

การผ่าคลอด การผ่าตัดไส้ติ่ง
วัตถุประสงค์ เพื่อนำทารกออกจากมดลูก
เพื่อเอาไส้ติ่งที่อักเสบออก
สาเหตุ – การคลอดแบบธรรมชาติเป็นไปไม่ได้หรือไม่ปลอดภัย

– ทารกอยู่ในท่าขวาง

– ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น โรค preeklampsia หรือรกเกาะต่ำ

– การคลอดก่อนกำหนด

– การตัดสินใจของมารดา – ไส้ติ่งอักเสบ วิธีการ – ยาชาหรือบล็อกหลัง (บล็อกประสาทไขสันหลัง)

– ผ่าตัดหน้าท้อง (C-section) ผ่านหน้าท้องหรือช่องคลอด (C-section ผ่าตัดแบบลับ)

– ยาชาทั่วไป
– ผ่าตัดหน้าท้อง (laparotomy) หรือผ่าตัดส่องกล้อง (laparoscopy)
ระยะเวลาการผ่าตัด – 30-90 นาที – 30-60 นาที ระยะเวลาพักฟื้น – 3-6 สัปดาห์ – 1-2 สัปดาห์ ความเสี่ยง – เลือดออกติดเชื้อ ภาวะแทรกซ้อนของยาสลบ การบาดเจ็บที่ทารก

– ภาวะแทรกซ้อนระยะยาว เช่น โรค preeklampsia ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

– การติดเชื้อ ภาวะแทรกซ้อนของยาสลบ ลำไส้แผลเป็น
– ภาวะแทรกซ้อนระยะยาว เช่น โรคลำไส้แปรปรวน
การให้นมบุตร – เป็นไปได้ แต่ทารกอาจดูดนมได้ยากในช่วงแรก – เป็นไปได้ รอยแผลเป็น – รอยแผลเป็นที่หน้าท้องหรือช่องคลอด
– รอยแผลเป็นที่หน้าท้อง

บทความที่น่าสนใจ: 15 คำถามที่พบบ่อยเรื่องผ่าคลอด เรื่องน่ารู้ก่อนเป็นคุณแม่

 

 

ผ่าคลอด-ตัดไส้ติ่ง ทำพร้อมกันเลยได้ไหม

ไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคทางศัลยกรรมที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดในช่องท้องที่พบบ่อย ไส้ติ่งเองไม่มีหน้าที่สำคัญใดใดในการทำงานของร่างกาย การที่ตัดไส้ติ่งออกไปจึงมิได้ส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหารแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องพิจารณาว่าการตัดไส้ติ่งส่งผลเสียอื่นใดอีกหรือไม่ โดยการผ่าคลอดพร้อมตัดไส้ติ่งนั้น เป็นไปได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

  • สภาพความรุนแรงของไส้ติ่งอักเสบ

    • กรณีไส้ติ่งอักเสบแบบเฉียบพลัน (Acute appendicitis) แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดไส้ติ่งก่อนเป็นอันดับแรก
    • กรณีไส้ติ่งอักเสบแบบเรื้อรัง (Chronic appendicitis) อาจจะพิจารณาผ่าตัดพร้อมคลอดได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
  • ระยะเวลาการตั้งครรภ์

    • โดยทั่วไป การผ่าคลอดพร้อมตัดไส้ติ่งจะพิจารณาทำได้หลังตั้งครรภ์ 20 อาทิตย์ขึ้นไป
    • แพทย์จะประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการผ่าตัดทั้งต่อแม่และทารกอย่างละเอียด
  • สุขภาพโดยรวมของแม่

    • สุขภาพโดยรวมของแม่ที่ตั้งครรภ์
    • โรคประจำตัวอื่นๆ
    • ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์
  • เทคนิคการผ่าตัด

    • การผ่าคลอดแบบผ่าหน้าท้อง (Open C-section)
    • การผ่าคลอดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic C-section)

บทความที่น่าสนใจ: ผ่าคลอดครั้งที่ 3 อันตรายไหม ผ่าคลอดได้ไม่เกินกี่ครั้ง

 

 

ผ่าคลอดแล้วจำเป็นต้องผ่าตัดไส้ติ่งหรือไม่

สตรีตั้งครรภ์ที่มีความจำเป็นต้องผ่าคลอด อาจจะมีคำถามในใจว่าจะให้สูติแพทย์ตัดไส้ติ่งเพิ่มเติมได้หรือไม่ ในทางเทคนิคนั้นสามารถทำได้ เนื่องจากการผ่าคลอดเป็นการผ่าตัดที่เข้าช่องท้องอยู่แล้ว และไส้ติ่งเองก็อยู่ในตำแหน่งช่องท้องด้านขวาล่างชิดกับบริเวณปีกมดลูกขวา ซึ่งแผลผ่าคลอดเป็นแผลยาวที่ใหญ่เพียงพอที่จะเห็นไส้ติ่งได้ จึงสามารถทำผ่าตัดไส้ติ่งได้โดยง่าย และสูติแพทย์เองก็มีความสามารถที่จะผ่าตัดไส้ติ่งได้อยู่แล้ว

 

ข้อดีผ่าคลอดและตัดไส้ติ่งไปพร้อมกัน

การผ่าไส้ติ่งไปพร้อมกันมีข้อดี คือ ผ่าตัดครั้งเดียว เจ็บตัวครั้งเดียว ไม่ต้องกังวลใจว่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบในอนาคต ได้ทราบผลชิ้นเนื้อของไส้ติ่ง ซึ่งบางรายอาจมีพยาธิสภาพซ่อนอยู่ได้ ไม่ต้องมีรอยแผลผ่าตัดไส้ติ่งเพิ่ม ลดจำนวนแผลเป็นบนผนังหน้าท้องเป็นแผลเดียว คือแผลผ่าตัดคลอดบุตร หากมีอาการปวดท้องเฉียบพลันก็ให้วินิจฉัยแยกโรคอื่นตามความเหมาะสมต่อไป

 

 

ข้อเสียหากผ่าคลอดพร้อมตัดไส้ติ่ง

  • เพิ่มภาวะแทรกซ้อนมากกว่าการผ่าตัดคลอดบุตรอย่างเดียว เช่น มีโอกาสแผลติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่มาจากลำไส้ การฟื้นตัวช้ากว่าปกติจำเป็นต้องเริ่มรับประทานอาหารได้ช้าเพื่อรอให้ลำไส้เริ่มบีบตัวหลังผ่าตัดไส้ติ่ง
  • เพิ่มโอกาสเกิดพังผืดในช่องท้องจากการผ่าตัดไส้ติ่งได้ อาจส่งผลให้มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง หรือ ลำไส้อุดตันได้ในอนาคต
  • เพิ่มค่าใช้จ่าย เนื่องจากการผ่าตัดนี้ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม ใช้เวลาผ่าตัดเพิ่มอีกประมาณ 10-15 นาที จึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ป่วยเองอาจจะไม่ได้มีโอกาสเป็นไส้ติ่งอักเสบเลย

 

ในทางปฏิบัติสูติแพทย์จะให้ข้อมูลแก่สตรีตั้งครรภ์ และให้รับทราบเรื่องความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดไส้ติ่งโดยไม่มีข้อบ่งชี้หรือไม่จำเป็นนี้ และให้ลงชื่อในหนังสือยินยอมการผ่าตัด ซึ่งทั้งนี้แล้วแต่ความเห็นและความชอบส่วนตัวของสูติแพทย์แต่ละท่าน บางท่านนิยมผ่าตัดไส้ติ่งให้เมื่อจะทำหมันถาวรไปด้วยพร้อมกันเป็นต้น

 

การผ่าตัดไส้ติ่งขณะผ่าตัดคลอดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสูติแพทย์และปรึกษาหารือว่าจะทำผ่าตัดไส้ติ่งด้วยหรือไม่ได้ตามข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายลงความเห็นร่วมกันครับ

 

ที่มา: phyathai.com, paolohospital.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ฤกษ์คลอด นับเวลาไหน วินาทีจรดมีดหรือเมื่อทารกออกจากท้อง

แผลผ่าคลอดเน่าจนต้องผ่าตัด 2 รอบ ประสบการณ์จริงที่แม่อยากแชร์!

ผ่าคลอดกี่เดือนถึงจะมีเพศสัมพันธ์ได้ เมื่อไหร่ควรมีเพศสัมพันธ์ได้