การ ปล่อยให้ลูกทานอาหารเอง เป็นทางลัดในการเพิ่มทักษะและเสริมสร้างพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกายและสมองให้กับลูกรัก เพราะการตักอาหารเข้าปากหนึ่งครั้ง ต้องอาศัยการทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อและระบบประสาทหลายส่วน ดังนั้น คุณแม่จึงควรเปิดโอกาสให้ลูกรักได้ลองพยายามทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองนะคะ
ปล่อยให้ลูกทานอาหารเอง พัฒนาทักษะส่วนไหนบ้าง?
- พัฒนาสมอง การตักอาหารเข้าปากหนึ่งคำ เริ่มจากการสั่งงานของสมอง เด็กๆ จะค่อยๆ คิดคำนวณว่าจะต้องตักข้าวคำใหญ่แค่ไหน แล้วควบคุมมือให้ขยับมาในทิศทางที่ต้องการ จากนั้นสมองยังต้องสั่งการให้อ้าปากตอนที่อาหารเคลื่อนมาอยู่ใกล้ๆ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้การสังเกต ฝึกฝน ทดลอง และจดจำ ลองสังเกตดูว่าครั้งแรกๆ ที่ลูกทานข้าวเองอาจจะเลอะเทอะไปทั่ว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็สามารถตักอาหารทานเองได้อย่างง่ายดาย
- พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก การหยิบจับอาหาร ต้องอาศัยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็ก หรือกล้ามเนื้อมือ ในการหยิบอาหาร ช้อน หรือสิ่งของต่างๆ โดยเด็กวัย 6 เดือนขึ้นไปจะควบคุมกล้ามเนื้อมือได้คล่องแคล่วขึ้น ขยับนิ้วมือได้อิสระมากขึ้น ซึ่งทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กนี้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเขียนหนังสือ และพัฒนาไปสู่การช่วยเหลือตัวเองในกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น
- พัฒนาสายตา การตักอาหารทานเอง สายตามีหน้าที่กะระยะระหว่างมือและปาก เพื่อส่งต่อให้สมองคำนวณต่อไปได้อย่างแม่นยำ ลูกรักวัย 6 เดือนขึ้นไป จะมีสายตาสมบูรณ์ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ สามารถมองเห็นได้ไกล แยกแยะรูปร่าง ขนาด และสีสันต่างๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้การทำงานประสานกันระหว่างสายตาและสมอง ยังกระตุ้นเซลล์สมองส่วนการมองเห็นให้แตกแขนงและเชื่อมโยงเข้าหากันอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากประโยชน์ด้านการพัฒนาทักษะของร่างกายและสมองแล้ว การ ปล่อยให้ลูกทานอาหารเอง ยังเปิดโอกาสให้ลูกน้อยได้ทานข้าวร่วมกับสมาชิกในครอบครัว เรียนรู้มารยาททางสังคม ฝึกฝนทักษะการตัดสินใจ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และรับทราบความต้องการของตัวเองอีกด้วย
ฝึกให้ลูกทานอาหารเอง เริ่มต้นอย่างไรดี?
การฝึกให้ลูกน้อยทานเองอาหารเอง ควรเริ่มจากปล่อยให้เด็กๆ ทำความคุ้นเคยกับการใช้มืออย่างเต็มที่ ไม่ดุเวลาลูกเผลอทำเลอะเทอะ ไม่เร่งเร้าให้ลูกหยิบอาหารเข้าปากในทันทีทันใด และชื่นชมเมื่อลูกทานอาหารเองสำเร็จ เพื่อสร้างความมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเอง ในส่วนของอาหารนั้น ควรเริ่มจากอาหารที่มีเนื้อสัมผัสข้นเหลว เป็นชิ้นนิ่มๆ และเป็นชิ้นที่มีเนื้อสัมผัสหยาบเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยมีหัวใจสำคัญ คือ ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ปลอดภัย และไม่ปรุงแต่งมากจนสูญเสียความเป็นธรรมชาติ
นอกจากการเตรียมอาหารแต่ละมื้อให้ลูกรักทานด้วยตัวเองแล้ว คุณแม่ยังสามารถเลือกให้เด็กๆ ฝึกฝนทักษะทั้ง 3 ด้าน พร้อมเอร็ดอร่อยกับรสชาติและเนื้อสัมผัสนุ่มลื่นทานงายของผักผลไม้จากธรรมชาติ ของ ไฮนซ์ ออร์แกนิค (Heinz Organic) ทั้ง 4 รสชาติ คือ
- ออร์แกนิค สวีท เบบี้ เว็จเทเบิล (Sweet baby Vegetables)
- ออร์แกนิค แอปเปล ราสพ์เบอร์รี และแบล็คเบอร์รี (Apple Raspberry & Blackberry)
- ออร์แกนิค ครีมมี วานิลลาผสมข้าว และแอปเปิล (Creamy Vanilla Rice with Apple)
- ออร์แกนิค แอปเปิล เบอร์รี บลัช (Apple Berry Blush)
ไฮนซ์ ออร์แกนิค (Heinz Organic) เหมาะสำหรับทารกและเด็กเล็กวัย 6 เดือนขึ้นไป บรรจุในแพ็คเกจพร้อมทาน ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและเพิ่มทักษะการทำงานร่วมกันของสมอง สองมือ และสายตา เพียงคุณแม่เปิดฝา แล้วปล่อยให้เจ้าตัวเล็กออกแรงบีบถุงเบาๆ ก็อิ่มหนำกับรสอร่อยและเต็มอิ่มกับสารอาหารจากธรรมชาติ ไม่มีการเติมสี ไม่แต่งรสด้วยน้ำตาล ปราศจากสารกันเสีย สามารถหาซื้อได้แล้วที่ Max Value, Tops, Tesco Lotus และ แผนกซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า The Mall ทุกสาขา
อัพเดตมื้ออร่อยพร้อมหม่ำของเจ้าตัวเล็กเพิ่มเติม คลิกเลย HeinzForBabyThailand
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!