คนท้องกินแก้วมังกรได้ไหม กินแล้วดีต่อร่างกายหรือไม่ แม่ท้องต้องรู้

แก้วมังกร นั้นมีหลากหลายพันธุ์ และมีคุณค่าทางโภชนาการหลายอย่าง แต่สำหรับบางคนก็ไม่รู้ว่า คนท้องกินแล้วดีอย่างไร และคำถามที่เรามักจะพบบ่อยนั่นก็คือ คนท้องกินแก้วมังกรได้ไหม ประโยชน์ของแก้วมังกร มีอะไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแม่ ๆ กันแล้ว

 

คนท้องกินแก้วมังกรได้ไหม

สำหรับผลไม้หน้าตาประหลาด แต่รสชาติหวานชื่นให้ชวนลอง จนแม่ ๆ ที่ท้องอยู่หลายคน ก็อดใจที่จะไม่กินก็ดูจะยาก แต่สิ่งที่ทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนต้องหยุดชะงักได้นั่นก็คือ คำถามที่เหล่าคนท้องมันจะมีอยู่เสมอคือ คนท้องอย่างฉัน จะกินได้หรือไม่นั่นเอง

สำหรับแก้วมังกร ผลไม้เมืองร้อน ที่ถูกจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับเหล่าต้นกระบองเพชรทั้งหลาย กลับมีรสชาติที่หวานกลมกล่อม แถมยังมีคุณประโยชน์มากมายหลายประการ ซึ่งเราจะสาธยายถึงประโยชน์ต่าง ๆ ในหัวข้อถัดไป เพราะต้องบอกคำเดียวว่า ประโยชน์นั้นมากมายจนเกินบรรยายเลยทีเดียว

แต่สำหรับคนท้องนั้น จะต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่า ในเวลานี้การกินของคุณ จะไม่ใช่เพื่อคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะคุณจะต้องกิน และคำนึงถึงลูกในท้องของคุณด้วย ซึ่งการกินอาหารต่าง ๆ รวมถึงผลไม้ จึงควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ แม้ว่าอาหารนั้น ๆ จะมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่ถ้าคุณกินมากจนเกินไป ประโยชน์ที่เราเห็นว่าดี ก็จะแปลงร่างกลายเป็นปีศาจร้าย ให้โทษกับคุณ และลูกของคุณ โดยไม่ทันตั้งตัว

นั่นเป็นเพราะผลไม้ต่าง ๆ แม้ว่าจะเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ต่าง ๆ แล้ว ต้องจำเอาไว้ว่า ในตัวผลไม้ มีสารให้ความหวานรวมอยู่ด้วยนั่นเอง และความหวานนี่แหละที่เป็นตัวสารความกังวลให้กับคุณได้ไม่ใช่น้อย เพราะหากคุณทานแก้วมังกรในปริมาณที่มากจนเกินไป ก็จะทำให้อัตราของน้ำตาลในเลือดของคุณแม่สูงขึ้น จนจำเป็นจะต้องควบคุมในที่สุด ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น คงไม่ใช่เรื่องสนุกเลย เพราะไหนจะผลกระทบหลักที่เกิดกับตัวคุณแล้ว ยังส่งผลกระทบถึงลูกน้อยของคุณในครรภ์อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 ประโยชน์ของแก้วมังกรที่แม่ท้องห้ามพลาด

 

คนท้องกินแก้วมังกรได้ไหม

 

แก้วมังกรมีถิ่นกำเนิดมาจากที่ไหน

แก้วมังกร ที่คนเอเชียส่วนใหญ่เรียกกันว่า (Dragon fruit) แต่สำหรับแถบยุโรปจะเรียกแก้วมังกรว่า Pitaya ส่วนชื่อในทางวิทยาศาสตร์ของแก้วมังกรก็คือ Hylocereus undatus (Haw) Britt. Rose. แก้วมังกรเป็นผลไม้แถบอเมริกากลาง แก้วมังกรจะอยู่ในตระกูลกระบองเพชร สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แหล่งเพาะปลูกที่ปลูกแก้วมังกรเยอะ ๆ ก็คือ จังหวัด จันทบุรี , ชลบุรี , กาญจนบุรี , สระบุรี และสมุทรสงคราม แก้วมังกรจะหากินได้ง่ายในช่วงเดือนมีนาคม – พฤศจิกายน

 

ลักษณะของแก้วมังกร

แก้วมังกร มีลักษณะกลมรี เปลือกสีแดง เมื่อผ่าแก้วมังกรจะเป็นเนื้อสีขาว หรือสีแดง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้น ๆ ซึ่งแก้วมังกรจะมีเมล็ดแมงลัก ฝังอยู่เต็มผล แก้วมังกรที่มีเนื้อสีขาวเปลือกสีแดงจะมีรสชาติหวานนิด ๆ อมเปรี้ยว ส่วนแก้วมังกรเนื้อขาวเปลือกเหลืองให้รสชาติออกหวาน  และแก้วมังกรพันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดงจะมีรสชาติที่หวานกว่าชนิดอื่น ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ผักผลไม้สีม่วงแสนอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ 16 ชนิด

 

คนท้องกินแก้วมังกรได้ไหม

 

แก้วมังกรมีประโยชน์กับคนท้องอย่างไร

  • ป้องกันลูกในท้องพิการแต่กำเนิด

แก้วมังกร มีโฟเลต ที่เป็นสารอาหารสำคัญที่จำเป็นในระหว่างตั้งครรภ์ ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงและป้องกันโรคสมองพิการของทารกที่อยู่ในครรภ์ นอกจากนี้แก้วมังกร ยังมีวิตามินชนิดอื่น ๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพ และพัฒนาการของทารกในครรภ์อีกด้วย

 

  • พัฒนากระดูก ของทารกในครรภ์

แคลเซียมที่อยู่ในแก้วมังกร จะช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ให้แข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีฟอสฟอรัสที่อยู่ในแก้วมังกร จะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการของกระดูกที่ดีอีกด้วย

 

  • เพิ่มระดับฮีโมโกลบิน

แก้วมังกรมีธาตุเหล็กและวิตามินอยู่จำนวนมาก ป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจาง ซึ่งเป็นโรคที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์

 

คนท้องกินแก้วมังกรได้ไหม

 

  • ลดอาการท้องผูก

ปริมาณของไฟเบอร์ ที่อยู่ในแก้วมังกร มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร กำจัดของเสียในร่างกาย คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ อาจจะเจอปัญหาเกี่ยวกับอาการท้องผูก ซึ่งแก้วมังกรสามารถป้องกันอาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ได้ แถมยังช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้อีกด้วย

 

  • เพิ่มพลังงาน

แก้วมังกรอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ที่เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม และแก้วมังกรก็ยังช่วยควบคุมน้ำหนักของคุณแม่ได้อีกด้วย

 

  • ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง

แก้วมังกรอุดมไปด้วยสารอนุมูลอิสระ และวิตามินซี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง รวมทั้งยังมีสารแคโรทีน ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก

 

  • ช่วยดูดซับสารพิษ

แก้วมังกรมีส่วนช่วยในการดูดซับสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น สารตกค้างจากตะกั่ว ที่มาจากควันท่อไอเสีย หรือสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงที่สูดดมเข้าไปในร่างกาย

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 เมนูแก้วมังกร อร่อย หวานฉ่ำ ช่วยเพิ่มความสดชื่น แถมมีประโยชน์เพียบ!

 

คนท้องกินแก้วมังกรได้ไหม

 

ประโยชน์และสรรพคุณของแก้วมังกร

  • ช่วยบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง
  • ใช้เป็นส่วนผสมของฟรุตสลัด หรือ น้ำผลไม้ปั่น
  • ส่วนใหญ่นิยมรับประทานแบบสด ๆ
  • ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย ขับถ่ายดี
  • ป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้
  • มีกากใยสูง ป้องกันอาการท้องผูก
  • บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • ช่วยดูดซับสารพิษออกจากร่างกาย
  • กระตุ้นน้ำนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
  • ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง
  • บรรเทาอาการของโรคโลหิตจาง
  • ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  • ป้องกันโรคหัวใจ
  • ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ
  • มีส่วนช่วยในการชะลอวัย ริ้วรอยต่าง ๆ
  • เป็นผลไม้ที่ช่วยดับร้อน แก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากมีแคลอรีต่ำ
  • ช่วยบำรุงผมที่ทำสี นำน้ำของแก้วมังกรมาผสมในครีมนวด แล้วหมัก จะช่วยกระชับรูขุมขนบนศีรษะ ทำให้สีผมหลุดลอกยาก
  • รักษาผิวที่โดนแดด หรือผิวไหม้แดด นำแก้วมังกรปั่นละเอียด มาพอกบริเวณที่ไหม้แดด จะช่วยลดอาการแสบร้อนได้
  • ลดสิว นำแก้วมังกรมาหั่นเป็นแว่น ๆ แล้วมาสก์หน้า วิตามินซีในแก้วมังกรจะช่วยป้องกันสิว ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น
  • บรรเทาอาการไอ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • บรรเทาอาการปวดข้อ ลดอาการปวดจากโรคข้ออักเสบ

 

ถึงแม้ว่าแก้วมังกรจะมีประโยชน์หลากหลาย แต่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม หรือวันละ ไม่เกิน 1 ลูก และไม่ควรทานผลไม้เดิม ๆ ซ้ำกัน หรือติดต่อกันหลายวัน เพราะจะทำให้คุณแม่ได้รับสารอาหารชนิดเดียว เป็นสาเหตุของการได้รับสารอาหารที่ไม่ควรถ้วน ไม่ว่าจะผลไม้ชนิดไหน หากรับประทานมากเกินไป หรือบ่อยเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องกินเงาะ ได้ไหม? มีประโยชน์แค่ไหนกับคุณแม่ตั้งครรภ์?

กินทุเรียนตอนท้องได้ไหม คนท้องกินทุเรียน ดีต่อทารกหรือเปล่า?

แม่ท้องกินน้ำมะพร้าว คนท้องกินน้ำมะพร้าวได้ไหม? กินแล้วดียังไง?

ที่มา : blockdit, medthai

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!