คนท้อง สูบบุหรี่, ตั้งครรภ์ สูบบุหรี่
บุหรี่อันตรายใกล้ตัว
บุหรี่จัดเป็นสารเสพติด นิโคติดเป็นสารเคมีที่พบในใบยาสูบและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง alpha 4 beta 2 subunit nAChR ในระบบประสาทส่วนกลางโดยเฉพาะที่ brain reward system ได้ บุหรี่มีผลทำให้ผู้สูบเสพติดบุหรี่ได้มากกว่าเฮโรอีน ยาบ้า กัญชา เพราะนิโคตินในบุหรี่สามารถเข้าสู่สมองได้อย่างรวดเร็วและทำให้สมองถูกทำลายได้เร็วเช่นกัน ทำให้ระบบการทำงานของสมองและระบบทางเดินหายใจเสื่อมลงมีทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง อีกทั้งบุหรี่ยังเป็นสิ่งเสพติดที่เข้าถึงง่าย คือ หาซื้อได้ง่าย และยังไม่จัดเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย แม้แต่ควันบุหรี่มือสองก็ล้วนมีผลกระทบทั้งสิ้น ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง ถือเป็นวิธีการที่ดีและปลอดภัยที่สุดเพื่อป้องกันโรคที่จะเกิดกับระบบประสาทและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงในแม่ท้องที่จะกระทบต่อทารกในครรภ์อีกด้วย
แม่ท้องสูบบุหรี่
คงไม่ใช่เรื่องดีนักที่แม่ท้องสูบบุหรี่ เพราะแม่ท้องเพียงแค่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ฝุ่น ควัน กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำลายสุขภาพแม่และทารกในครรภ์ทั้งสิ้น ปัจจุบันพบว่า มีแม่ท้องจำนวนไม่น้อยที่ยังสูบบุหรี่ซึ่งผลร้ายจากการสูบบุหรี่นั้น จากรายงานการศึกษาพบว่า แม่ท้องที่สูบบุหรี่ ทารกที่เกิดมาจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติและยังทำให้ทารกแรกคลอดมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย สมาคมเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์แห่งอเมริกา (American Society for Reproductive Medicine – ASRM) มีผลการวิจัยพบว่า ร้อยละ 13 ของภาวะมีบุตรยากในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ระหว่างที่ตั้งครรภ์อาจเป็นสาเหตุทำให้แท้งบุตร ภาวะรกเกาะต่ำ ทารกน้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐาน ฯลฯ นอกจากนี้ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะมีแน้วโน้มที่จะหมดประจำเดือนเร็วกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 4 ปี
นอกจากนี้ ควันบุหรี่ที่สูดดมเข้าไป หรือที่เรียกว่า “บุหรี่มือสอง” ก็เป็นตัวอันตราย นพ.วิชิตพล ฟูสิริพงษ์ แพทย์ประจำศูนย์ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลปิยะเวท ได้อธิบายอันตรายที่มาจากควันบุหรี่ไว้ดังนี้
“ทุกวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก หรือ World No Tobacco Day สำหรับโทษของบุหรี่นั้นทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วเพราะมีหลาย ๆ องค์กรที่รณรงค์เรื่องพิษภัยจากบุหรี่ แต่จะมีใครรู้บ้างว่าผลเสียนอกจากจะเกิดกับตัวผู้สูบเอง และสำหรับคนรอบข้างที่สูดดมควันบุหรี่เข้าไปก็เปรียบได้กับคนที่สูบบุหรี่เช่นกัน หรือที่เรียกว่า “ควันบุหรี่มือสอง ซึ่งในควันบุหรี่สีขาว ๆ นั้นมีสารเคมีอยู่มากกว่า 60 ชนิดที่วงการแพทย์ระบุว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งผู้ได้รับควันบุหรี่มือสองนั้นเท่ากับได้รับผลกระทบโดยตรงหรืออาจจะมากกว่าผู้สูบเอง 5 – 10 เท่าเลยทีเดียว เพราะมีความเข้มข้นของสารพิษมากกว่า ”
อ่าน บุหรี่มหันตภัยร้ายต่อลูกในครรภ์ คลิก
บุหรี่มหันตภัยร้ายต่อลูกในครรภ์
บุหรี่และควันบุหรี่เป็นอันตรายร้ายแรงทั้งต่อแม่ท้องและทารกในครรภ์ มีรายงานวิจัยพบว่า ถ้าแม่ท้องสูบบุหรี่หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีควันบุหรี่จะมีผลต่อทารกในครรภ์ กล่าวคือ สารเคมีในบุหรี่จะทำลายโครโมโซมของทารก ทำให้ทารกตายแรกคลอดหรือทำให้ทารกเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ มีน้ำหนัก ส่วนสูง รอบอกและรอบศีรษะต่ำกว่าเกณฑ์ ระบบประสาท ระบบการหายใจและหลอดเลือด ซึ่งประเมินภายหลังแรกคลอด พบว่า มีปัญหาในระบบทางเดินหายใจ ภายหลังคลอดทันทีและมีแนวโน้มจะเป็นโรคหอบหืดเมื่อโตขึ้น มีอาการปวดท้อง โคลิก (colic) อาเจียน ท้องเสีย ลำไส้อักเสบ กระสับกระส่าย นอนหลับพักผ่อนน้อย มีอาการเหมือนคนขาดยา มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะแต่กำเนิดและเมื่อโตขึ้นเด็กอาจเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งในระบบต่าง ๆ ภายหลังคลอดทารกยังได้รับสารเคมีผ่านทางน้ำนมแม่อีกถ้าหากแม่ยังไม่เลิกสูบบุหรี่
มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wisconsin – Milwaukee ได้ทำการศึกษาพบว่า 13 % ของแม่ที่สูบบุหรี่ตอนท้องมีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ลูกเป็นโรคออทิสติกได้ โดยให้เหตุผลว่า เพราะทารกในครรภ์ต้องการออกซิเจน การที่แม่สูบบุหรี่ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่จะส่งผ่านไปยังลูกน้อยทางสายสะดือนั้นลดลง มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กตลอดจนพัฒนาการต่าง ๆ ที่ถดถอย อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดและการแท้งด้วย
นอกจากนั้นการสูดดมควันบุหรี่จากคนในบ้าน โดยที่ทารกไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยตนเอง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำให้ทารกมีระดับสติปัญญาต่ำ เมื่อโตขึ้นจะมีบุคลิกไม่อยู่นิ่ง (Hyperactive) เป็นเด็กสมาธิสั้นมีพัฒนาการทางอารมณ์และพฤติกรรมการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับวัย สำหรับทารกที่เป็นเพศหญิงนั้นเมื่อโตขึ้นอาจเกิดภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากท่อนำไข่ถูกสารเคมีจากบุหรี่ทำลาย ดังนั้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์และไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ควรแจ้งแพทย์เพื่อหาวิธีเลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพของตนเองและทารกในครรภ์
การอดบุหรี่ในแม่ท้องสามารถทำได้
ตามปกติแล้วผู้หญิงที่สูบบุหรี่ก่อนตั้งครรภ์ หากวางแผนจะตั้งครรภ์ควรเลิกบุหรี่อย่างน้อย 4 – 5 เดือน ก่อนที่จะตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้ปัญหาจากการสูบบุหรี่ที่มีต่อทารกในครรภ์ลดน้อยลงนอกจากนี้จากการศึกษาพบว่า การอดบุหรี่เพียง 1 เดือนก่อนคลอด ก็สามารถช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างคลอดทารกได้ การอดบุหรี่บางคนเรียกว่า “การหักดิบ” สำหรับแม่ท้องคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะจะมีผลกระทบข้างเคียงตามมา คือ มีอาการนอนไม่หลับ หงุดหงิด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นต้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะเลิกบุหรี่ก่อนที่จะวางแผนตั้งครรภ์ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช ในการปฏิบัติตัวก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยในการอดบุหรี่ และลดอาการพิษจากนิโคตินในบุหรี่ คุณแม่ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 – 10 แก้ว หรือดื่มน้ำผลไม้คั้นสด เช่น น้ำส้ม น้ำแครอท น้ำองุ่น เป็นต้น เลือกรับประทานผักผลไม้สด งดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือออกกำลังกาย เช่น ว่ายน้ำ เล่นโยคะ เพื่อการมีสมาธิที่ดี กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่ลืมนึกถึงการสูบบุหรี่ได้
อ้างอิงข้อมูลจาก
luckanas.wordpress.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าเกี่ยวข้อง
คุณสูบ ลูกสูบ…มหันตภัยจากบุหรี่ ร้ายกว่าที่คิด
วีดีโอจากสสส.ที่คนสูบบุหรี่ทุกคนควรได้ดู