วันนี้ theAsianparent Thailand ขอนำ นิทานธรรมะ เล่าให้ลูกฟังก่อนนอนเรื่อง ความขี้เกียจ สอนลูกให้เป็นคนขยันมาฝากเหล่าคุณพ่อคุณแม่และคุณผู้ปกครองทั้งหลาย เพื่อนำไปเล่าให้เด็ก ๆ ฟังก่อนนอนกันค่ะ
ชายขี้เกียจ
นิทานธรรมะ ความขี้เกียจ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งมีนิสัยเป็นคนเกียจคร้านมาก แม้ว่าจะมีสิ่งดี ๆ ที่มาอยู่ตรงหน้าของเขา ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ เขาก็ขี้เกียจแม้จะกระทั่งเอื้อมมือไปหยิบมันขั้นมา อยู่มาวันหนึ่งเทพเจ้าอยากทดสอบดูว่าชายคนนี้จะเกียจคร้านมากถึงเพียงใด ท่านจึงนำ “ความโชคดี” ใส่ไว้ในกะละมังใบหนึ่งแล้ววางไว้ตรงหน้าเขา เพื่อทดสอบว่าเขาจะหยิบมันขึ้นมาหรือไม่
ปรากฏว่าเขาไม่มีแม้แต่ความสนใจแก่ความโชคดีนั้นเลยแม้แต่น้อย แถมยังเหยียบลงไปในกะละมังจนความโชคดีกระเด็นหายไปอีก เทพเจ้าเห็นความขี้เกียจของชายคนนี้จึงได้แต่พูดว่า “ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็เป็นคนโชคร้ายตลอดไปแล้วกัน”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ความขี้เกียจไม่เคยนำพาสิ่งที่ดีมาให้
กบผู้เกียจคร้าน
นิทาน ธรรมะ ความขี้เกียจ
ไก่กับกบเป็นเพื่อนกัน วันหนึ่งไก่ชวนให้กบมาช่วยกันสร้างบ้านเพราะหน้าฝนใกล้จะมาถึงแล้ว แต่เจ้ากบก็พูดว่า “บ้านข้าอยู่ในรูใต้ดิน ไม่เห็นจะต้องสร้างเลย ” เมื่อเจ้าไก่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ว่าอะไร มันก้มหน้าก้มตาเอาฟาง หญ้าและเศษไม้มาทำเป็นบ้าน เมื่อบ้านเสร็จ ไก่ก็บอกกับกบว่า “ไปช่วยกันหาอาหารมาเก็บไว้กินดีกว่า” เจ้ากบก็ตอบว่า “อาหารของข้าคือแมลง มีอยู่ในรูใต้ดินแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปหาอาหารที่อื่นเลย ” กบปฏิเสธทุกอย่างที่ไก่ชวนทำด้วยความเกียจคร้าน ไม่นานฝนก็เริ่มโปรยลงมาจนหนักขึ้นทุกที น้ำเกิดท่วมรูจนกบอยู่ไม่ได้ แมลงก็บินหนีไปหมด กบก็กระโดดไปหาไก่ซึ่งกำลังนอนอยู่ในบ้านฟางและจิกข้าวโพดกินอย่างมีความสุข กบขอเข้าไปอยู่ในบ้านและขออาหารกินด้วย แต่ไก่ต้องการดัดนิสัยกบจอมขี้เกียจ มันจึงบอกว่า “ก็บ้านท่านอยู่ในรูใต้ดินไม่ใช่หรือ และนี่ก็อาหารของไก่ไม่ใช่ของกบ ท่านไปหาอาหารกินเอาเองข้างหน้าก็แล้วกัน” กบผู้เกียจคร้านจึงได้แต่เดินคอตกจากไปอย่างเงียบ ๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ความขี้เกียจนำพาแต่หายนะมาให้
มดงานกับจั๊กจั่น
นิทาน ธรรมะ ความ ขี้เกียจ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีจั๊กจั่นเจ้าสำราญตัวหนึ่งมีนิสัยเกียจคร้าน ชอบความสะดวกสบาย ตลอดช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มดพากันหาอาหารไปเก็บสะสมไว้ในรัง แต่เจ้าจั๊กจั่นมัวแต่ร้องรำทำเพลง สนุกสนานไปวัน ๆ
ครั้นถึงฤดูหนาวหิมะตกหนัก มดเก็บตัวอยู่กับเมล็ดพืชที่มันได้หาเก็บเตรียมพร้อมไว้ ส่วนจั๊กจั่นนั้นไม่สามารถหาอาหารกินได้ อดอาหารอยู่หลายวัน จนในที่สุด ต้องซมซานด้วยความหิวโหยมาเคาะประตูรังของมดที่เคยรู้จักกัน “ได้โปรดเถิด ข้าขาดอาหารมาตั้งหลายวัน ขออาหารให้ข้ากินประทังความหิวหน่อยได้หรือไม่ ข้าสัญญาว่าเมื่อพ้นฤดูฝนนี้ไปแล้ว ข้าสัญญาว่าจะหามาใช้คืนให้เป็นเท่าตัว” เจ้าจั๊กจั่นพยายามวิงวอน
มดถึงถามขึ้นมาว่า “แล้วในฤดูร้อนมีอาหารอุดมสมบูรณ์ ใคร ๆ เขาพากันทำมาหากินตัวเป็นเกลียว เจ้าไปทำอะไรมาจึงไม่หาอาหารมาเก็บไว้เล่า” จั๊กจั่นตอบว่า “เพราะว่าข้าไม่มีเวลา ข้ายุ่งอยู่กับการร้องเพลงตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เมื่อตอนที่เจ้าและเพื่อน ๆ ขนอาหารผ่านมา ก็ได้ยินมิใช่หรือ ครั้นพอถึงฤดูฝน ก็ไม่มีอาหารเหลือให้เก็บไว้เลย”
ฝ่ายมดได้ยินดังนั้นก็หัวเราะกับตอบของจั๊กจั่น พลางเก็บเม็ดข้าวกองพูนของตนไว้ในห้องใต้ดิน แล้วเอ่ยเย้ยจั๊กจั่นว่า “ในเมื่อฤดูร้อนเจ้าเอาแต่ร้องเพลงไปวัน ๆ เมื่อถึงฤดูฝนทำไมเจ้าไม่เอาเวลาไปเต้นรำเหมือนเช่นเคย” กล่าวจบมดก็ปิดประตูทันที
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ผู้ขยันย่อมไม่ประมาท…เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต…ย่อมไม่อดอยาก คนเกียจคร้านและประมาทมักปล่อยเวลาไปกับความต้องการที่โง่เขลาของตน
ควายกับไก่
นิทาน ธรรมะ ความขี้เกียจ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าควายอยู่ตัวหนึ่ง มันถูกมนุษย์ใช้งานไถนาอย่างหนักหน่วง ทุก ๆ วันมันมักจะเหน็ดเหนื่อยอ่อนแรงอยู่เสมอ ในขณะที่เจ้าไก่ตัวหนึ่งวัน ๆ ไม่ทำอะไรนอกจากกินและนอนไปวัน ๆ ทุก ๆ ครั้งที่เจ้าควายเดินผ่าน ไก่ตัวนี้จะพูดเยาะเย้ยและสมน้ำหน้าเจ้าควายที่เกิดมาเป็นสัตว์ที่ต้องถูกใช้งานอยู่เสมอ
เจ้าควายรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมาก ๆ เพราะตัวเองจะต้องทำงานไถนาทุกวันตั้งแต่เช้าจนค่ำ อาหารก็ได้กินแต่หญ้าแห้ง ๆ ที่ต้องเดินหากินเอง ตัดไปที่เจ้าไก่ มีมนุษย์โยนข้าวเปลือกให้กินทุกวันจนตัวอ้วนสมบูรณ์ ในขณะที่เจ้าควายนั้นผอมลงไปทุก ๆ วัน
อยู่มาวันหนึ่งมนุษย์เห็นว่าเจ้าไก่ตัวอ้วนสมบูรณ์พอดี ก็ได้บอกกับเจ้าไก่ว่า ไม่เสียแรงที่ข้าเลี้ยงเจ้าอย่างดี ถึงเวลาที่ข้าต้องเอาไปขายเสียแล้ว เจ้าไก่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะถูกนำไปขายและฆ่าทิ้งเป็นอาหารในที่สุด
เจ้าควายได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็เกิดความสงสัยว่าทำไมกันมนุษย์ถึงนำเจ้าไก่ไปขาย มนุษย์ได้ให้เหตุผลว่า เจ้าไก่ตัวนี้ขี้เกียจนัก วัน ๆ ไม่ได้ทำอะไร นอกจากกินกับนอน ไข่ก็ไม่ยอมออกให้ข้ากิน ไก่ตัวอื่น ๆ นั้นยังออกไข่ได้เยอะกว่าอีก ข้าจะเลี้ยงไว้ทำไมให้เปลืองข้าวเปลือก ผิดกับเจ้าที่ทำงานทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เจ้ามีค่าสำหรับข้ามาก ขอให้เจ้าอยู่กับข้าไปนาน ๆ ละ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ความขี้เกียจไม่เคยส่งผลดีแก่ใคร
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!