เด็ก ๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้ที่จะควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง ระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน การเรียนในโรงเรียนอนุบาล จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอน และ กระบวนการเหล่านี้ เพื่อเป็นการทำซ้ำ ตอกย้ำ และ สนับสนุนพัฒนาทักษะการคิดไตร่ตรอง การหาเหตุผล (Critical ) ซึ่งจะพัฒนาเป็น ทักษะในวัยเรียน ที่ซับซ้อนต่อไปในอนาคต อย่างเช่น การกำกับตนเอง ( Self-Regulation )
ไม่พัฒนาทักษะ ประสบความสำเร็จยาก
ผลวิจัยจาก Michigan State University แสดงให้เห็นถึงผลเปรียบเทียบที่มีความแตกต่างกันมาก ว่าทักษะการกำกับตนเองในเด็กช่วงอายุระหว่าง 3 – 7 ขวบ เป็นทักษะที่สำคัญมาก ขณะที่เด็กส่วนใหญ่เมื่อเข้าเตรียมอนุบาลหรืออนุบาล 1 – 3 ทักษะที่พัฒนาไปจะเป็นเพื่อควบคุมพฤติกรรม และ เตรียมความพร้อมเพื่อเรียนสิ่งต่าง ๆ ไม่มีโอกาสพัฒนาทักษะการคิด และ การกำกับตนเอง ที่ต่อเนื่อง จึงทำให้เด็กๆ ขาดทักษะเหล่านี้ค่ะ และ ตามความจริงแล้วเด็กในรุ้นนี้มักจะหาประสบการณ์ต่าง ๆ จากการเล่นของพวกเขา อาทิเช่น การเล่นปีนป่าย หรือ แม้แต่การละเล่นต่าง ๆ ที่เขาเล่น บางคนเล่นจนได้มีแผล หรือ เลือดออก นั้นก็เป็นประสบการณ์ของเขาอีกอยางนึงคะ ถ้ายิ่งผู้ใหญ่เอาแต่ ห้าม ว่าอย่าทำนู้นนี้นั้น เด็ก ๆ ก็มักจะอยากทำ หรือ อยากลอง นั้นเอง เราควรปล่อยเขาหากเขาอยากทำอะไร เราก็แค่เฝ้าดูเขาอยู่ห่าง ๆ อยางห่วง ๆคะ เพื่อประสบการณ์ และ การพัฒนา ของตัวเขาเองคะ และจะช่วยให้เขาดูแลตัวเองได้ใน อนาคต ข้างหน้านั้นเองคะ
Back to basic
โรงเรียนเตรียมอนุบาลและโรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เปลี่ยนจากการสอนเพื่อพัฒนา ทักษะในวัยเรียน การคิดและการกำกับตนเอง มาทักษะการแข่งขันทำคะแนนและเรียนให้ได้เกรดดีๆ ทีมวิจัยแนะนำว่า การเปลี่ยนการสอนกลับไปเป็นแบบเก่าจะสามารถสร้างทักษะที่จำเป็น เพื่อให้เด็กๆ ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ในอนาคตค่ะ
หัวใจหลักคือความเข้าใจของผู้ใหญ่
งานวิจัยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ทักษะการคิดและกำกับตัวเอง และแนวโน้มในการประสบความสำเร็จ หากเด็กๆ มีทักษะเหล่านี้สูง แนวโน้มที่โตขึ้นแล้วจะประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้นค่ะ
ในเด็กเล็ก เวลาที่สั่งให้ทำอะไร เด็กๆ จะทำสิ่งที่ตรงกันข้าม คำว่าห้ามหรืออย่านั้นหมายถึง ทำไปเลย ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือธรรมชาติของเด็ก ๆ นั่นแหละค่ะ เราจึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทักษะที่จำเป็น และ ทักษะเหล่านี้ต้องใช้เวลาเพื่อเรียนรู้ และ ขั้นตอนที่ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อฝึกให้ชำนาญยิ่งขึ้น
ความต่างที่น่าหวั่นใจ
เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันโดนสิ้นเชิง แม้ว่าจะเป็นฝาแฝดกันก็ตาม ดังนั้นพัฒนาการของเด็กๆ ไม่จะเท่ากันทุกคน แม้ว่าอายุจะเท่ากัน เด็กที่มีพัฒนาการเร็ว เด็กที่มีพัฒนาการปกติ เด็กที่มีพัฒนาการช้า
มีเด็กเพียง 1 ใน 5 ของจำนวนเด็กทั้งหมด 1,386 คนเท่านั้น ที่มีทักษะการคิดและการกำกับตนเองในชั้นอนุบาล และเด็กผู้ชายจะมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเมื่อเทียบกับเด็กผู้หญิง และ อีกอยางเด็กทุนคนมีความคิดที่แตกต่างกันอยู่แล้วคะ ไม่ว่าจเป็นเรื่อง อาชีพที่ไฝ่ฝัน หรือ วิชาที่ชอบเรียน หรือแม้แต่ ขนมที่ชอบทานค่ะ เด็กทุกคนก็มีที่ความคิดที่แตกต่างกันไป หรืออาจจะมีน้อยมากที่จะคิดเหมือน หนึ่ง ใน ล้าน ก็เป็นได้คะ
พัฒนาทักษะสำคัญกว่า
หากเด็ก ๆ มีทักษะการกำกับตนเอง จะทำให้เรียนรู้แทบทุกวิชาได้เร็วขึ้นทั้งในโรงเรียน และ ทักษะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้เด็กที่มีพัฒนาการช้ากว่า อาจจะถึงขั้นเรียนไม่รู้เรื่อง และ ถูกทิ้งห่างออกไปเรื่อย ๆ
ซึ่งหากการเรียนในโรงเรียนยังเป็นแบบที่เด็กต้องจำเยอะ ถึงจะได้คะแนนเยอะ เด็กๆ จะขาดทักษะเหล่านี้ได้นั่นเองค่ะ
theAsianparent Thailand เชื่อว่าการศึกษาที่ดีจะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่ดีให้กับเด็ก เป็นการเริ่มต้นสร้างสภาะแวดล้อมในการเรียนรู้ได้อย่างสมวัย และเป็นไปตามที่พ่อแม่ต้องการการเลือกโรงเรียนให้กับลูกคือหัวใจหนึ่งของการศึกษา เพราะการเลือกโรงเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่ การเลือกโรงเรียนอนุบาล เป็นด่านแรกที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกได้ เช่น มีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรวิชาการที่พอดีกับการเรียนรู้ การใช้ Play Base Learning เพื่อเสริทสร้างพหุปัญญษทั้ง 8 ด้าน หรือ EF ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill อย่างสมดุลย์ เพราะการเรียนรู้ที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ต่อเนื่องไม่จำกัด และทำให้เด็กค้นพบตัวตน และมีความสุขกับการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเ
ที่มา sciencedaily
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พ่อแม่สร้างได้!! พัฒนาทักษะ EF พัฒนาพื้นฐานชีวิตลูก
ช่วยลูกวัยเตาะแตะเสริมทักษะรอบด้าน