วันนี้ theAsiankparent Thailand ขอนำเสนอ เมนูคู่ครัวของคนไทยอย่างต้มข่า แต่วันนี้เราจะทำ ต้มข่าหัวปลี เพื่อเป็นการเอาใจคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก ต้มข่าหัวปลี จึงอีกเมนู ที่คุณแม่ ที่กำลังอยู่กำลังสร้างน้ำนม ต้องลอง
ด้วยความที่ หัวปลี มีสรรพคุณอันยอดเยี่ยมต่อคุณแม่ ทุกท่าน แต่เนื่องจากเป็น พืชที่มียางเยอะและติดรสฝาด จึงอาจจะทำให้ทานยาก วันนี้จึงขอเสนอเมนูต้มข่าหัวปลี ลองมาดูกันดีกว่า ว่าเราจะลดฝาดแล้ว เอายางของหัวปลีออกได้หรือไม่
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
- หัวปลีขนาดกลาง 2 หัว
- หัวกะทิ ½ ถ้วย
- หางกะทิ 3 ถ้วย
- พริกขี้หนูบุบ 5 เม็ด
- น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดหั่นเป็นท่อน 1 ถ้วย
- ผักชีฝรั่งซอย ¼ ถ้วย
- เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
- นำหัวปลีมาล้างทำความสะอาด แล้วลอกกลีบที่มีสีม่วงออก ให้เหลือแต่ด้านใน ที่มีสีขาวนวล หลังจากนั้นหั่นเป็นท่อน หนาประมาณครึ่งนิ้ว แช่ไว้ในน้ำที่บีบมะนาวไว้เล็กน้อย น้ำมะนาวจะช่วยป้องกันไม่ให้หัวปลี เปลี่ยนเป็นดำ หลังจากนั้นล้างอีกครั้งด้วยน้ำผสมเกลือ เล็กน้อย
- นำหางกะทิขึ้นตั้งไฟพอเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เมื่อเดือด อีกครั้ง จึงใส่หัวปลี ตั้งไฟทิ้งไว้จะเมื่อหัวปลีนิ่มได้ที่แล้ว จึงปรุงรสด้วย เกลือ และน้ำมะขาม
- ชิมรส ตามชอบ ปิดไฟ ยกลงจากเตา จากนั้นใส่หัวกะทิ คนให้เข้ากัน ตักใส่ชาม ปรุงรสด้วยพริกขี้หนู น้ำมะนาว โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง
จะทานเป็นซุป หรือจะเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย ก็ได้
เมนูนี้ทำให้หัวปลี ที่มีรสฝาดทานยาก ทานได้ง่ายขึ้น ด้วยเทคนิคง่ายๆ ก็คือ แค่ใช้เครื่องเทศช่วย บวกกับเทคนิคเล็ก ๆ ในการล้าง และแช่หัวปลีในน้ำเกลือนั้น สามารถทานง่ายขึ้นด้วยการใช้กลิ่นและรสชาติ จากเครื่องเทศ และผักชนิดต่าง ๆ เป็นตัวช่วยนั่นเอง
คุณค่าทางโภชนาการของหัวปลี
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แสดงคุณค่าทางโภชนาการของหัวปลี ในปริมาณ 100 กรัม ดังนี้
- พลังงาน 28 กิโลแคลอรี
- น้ำ 92.3 กรัม
- โปรตีน 1.4 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 5.2 กรัม
- กากใยอาหาร 0.8 กรัม
- เถ้า 0.9 กรัม
- แคลเซียม 28 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.7 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 26 ไมโครกรัม
- ไทอะมีน 0.01 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม
- ไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 25 มิลลิกรัม
สรรพคุณ หัวปลีมีสรรพคุณที่ดีอย่างยอดเยี่ยมต่อ คุณแม่ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงระยะเริ่มตั้งครรภ์ ไปจนถึงช่วงให้นมลูก
- บำรุงเลือด หัวปลีมีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่หลังคลอดบุตร
- ขับน้ำนม ด้วยสรรพคุณหัวปลีที่ช่วยบำรุงเลือด ทำให้หัวปลีมีประโยขน์ในการช่วยขับน้ำนมของหญิงหลังคลอดบุตร โดยให้รับประทานเมนูหัวปลีหลังคลอดใหม่ ๆ จะช่วยขับน้ำนมได้ดีมาก
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด การศึกษาในวารสาร Phytoterapy Research เมื่อปี 2000 เผยผลการวิจัยฤทธิ์ของหัวปลีกับการลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยทดลองให้หนูกินหัวปลี 0.15-0.25 กรัมต่อน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ตลอดระยะเวลา 30 วัน ซึ่งพบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูลดลง และมีระดับฮีโมโกลบินเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ยังอยู่ในขอบเขตของสัตว์ทดลองเท่านั้น ส่วนการทดลองในคนยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
- ลดการอักเสบในร่างกาย ในหัวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า มีทานอล ซึ่งงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Science and Biotechnology เมื่อปี 2010 พบว่า สารสกัดจากหัวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ค่อนข้างมาก และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ป้องกันการอักเสบในร่างกายได้
- ประจำเดือนมามาก หัวปลีช่วยได้ แมัห้วปลีจะมีสรรพคุณบำรุงเลือด แต่สำหรับสาว ๆ ที่ประจำเดือนมามากเกินไป (ต้องใช้ผ้าอนามัยเกิน 5 ชิ้นต่อวัน) หัวปลีจะช่วยลดปริมาณเลือดประจำเดือนให้ได้ค่ะ โดยหัวปลีมีสรรพคุณกระตุ้นร่างกายให้สร้างฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ช่วยให้ปริมาณเลือดประจำเดือนที่มามาก มาเกินความจำเป็นลดน้อยลงไปได้
- ช่วยต้านเศร้า หัวปลีมีแมกนีเซียม ธาตุอาหารสำคัญที่มีผลรักษาอาการซึมเศร้า ดังนั้นใครรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนซึม ๆ เศร้า ๆ ลองรับประทานหัวปลีสักเมนูสิคะ
- รักษาโรคกระเพาะยางจากหัวปลีมีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยวิธีใช้ให้นำหัวปลีมาเผาแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาดื่มให้ได้ประมาณครึ่งแก้ว ใช้เป็นยาเคลือบกระเพาะก่อนรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง สูตรนี้เป็นยาโบราณเลย
ข้อควรระวังในการกินหัวปลี
หัวปลีเป็นพืชสมุนไพร ที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบ คอนข้่างสูง ซึ่งหากทานเยอะเกินไป ร่างกายของคนเราจะเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาล นั่นหมายความว่า อาจเกิดพภาวะโรคเบาหวสานในแม่ท้องได้นั่นเอง และอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
สูตรอาหารของ theAsianparent มีมากมายหลายสูตรให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองรังสรรค์เป็นเมนูเด็ดให้สมาชิกในบ้านได้รับประทาน เช่น เมนูไข่ เมนูพาสต้า เมนูข้าวผัด เมนูแซนวิซ หรือเมนูแพนเค้กที่เตรียมวัตถุดิบไม่กี่อย่าง ก็กลายเป็นเมนูแสนอร่อยของคุณลูกได้ในพริบตา ที่สำคัญคือแต่ละสูตรเราใส่ใจเรื่องคุณค่าทางโภชนาการที่เด็กควรได้รับในแต่ละมื้อ และการปรุงแต่งให้น้อย และเน้นรสชาติที่อร่อยมากด้วยเทคนิคการทำอาหารที่นำมาแชร์อย่างหมดเปลือก ใน Kidschen VDO หนึ่งในรายการเพื่อคุณแม่ที่เราตั้งใจทำเมนูที่เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีมาให้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
สูตรอาหาร “เมนูกุ้ง” อาหารเพื่อสุขภาพ เมนูกุ้ง ถูกใจคนทั้งบ้าน!
อาหารบำรุงน้ำนมก่อนคลอด แม่ท้อง
วิจัยเผย การให้นมลูก ช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งรังไข่ ข้อดีการให้นมลูก!