หมอแล็บแพนด้าโพสต์สอน จะมีลูกต้องอ่าน
เรามาดูความรู้ที่ผสมแกวตลกของหมอเล็บแพนด้ากัน ที่โพสต์สอนเหล่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ว่า ถ้าหาก จะมีลูกต้องอ่าน สิ่งเหล่านี้!
ความพิการแต่กำเนิด เป็นภาวะที่พบได้บ่อย ข้อมูลจากทั่วโลกพบอัตราเด็กพิการแต่กำเนิดที่รุนแรงประมาณ 3-5 ใน 100 คน ในประเทศไทยเรามีสถิติเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 700,000 คน คิดคร่าวๆ แล้วเรามีเด็กพิการแต่กำเนิดมากกว่า 20,000 รายต่อปี ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ตัวเลขของเด็กกลุ่มนี้มีจำนวนสะสมมากขึ้นทุกปี
ความพิการแต่กำเนิด นอกจากจะสร้างความทุกข์ทรมานและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้พิการเป็นอย่างยิ่งแล้ว ยังนำพาความทุกข์ใจให้แก่ผู้เป็นบิดา มารดา ตลอดจนบุคคลในครอบครัว
ความพิการแต่กำเนิดเป็นปัญหาสำคัญตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงระดับชาติและเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก การมีลูกพิการเพียงหนึ่งคนก็ทำให้ทั้งครอบครัวพิการไปด้วย พ่อแม่ต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจดูแลบุตรพิการ สูญเสียโอกาสในการหารายได้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา และยังต้องทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ในระดับประเทศ สังคมต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากในการดูแลรักษาทารกกลุ่มนี้
อ่านวิธีลดโอกาสลูกพิการ ในหน้าถัดไป
โฟเลตสามารถพบได้ใน
-ผักใบเขียวทุกชนิด เช่น คะน้ำ ตำลึง ดอกกุ้ยช่าย ผักชี กะหล่ำปลี
-แครอท แคนตาลูป ฟักทอง ส้ม อะโวคาโด มะเขือเทศ มะขามเทศ
-ถั่ว เมล็ดทานตะวัน
-ไข่แดงและตับสัตว์
โฟเลตถูกทำลายได้ง่ายด้วยความร้อน ดังนั้นการประกอบอาหารด้วยความร้อนนานๆ อาจทำให้โฟเลตสูญหายไปในระหว่างประกอบอาหาร
ดังนั้น ในอนาคตหากมีแนวทางในการผสมโฟลิกในอาหารไทยเช่นข้าว ที่ต้องใช้ความร้อน สามารถใส่ในปริมาณที่สูงเผื่อไว้ก่อน เพื่อว่าหลังหุงต้มแล้วก็ยังได้ปริมาณโฟเลตเกิน 0.4 มิลลิกรัมต่อวัน จึงจะป้องกันความพิการได้
องค์การอนามัยโลกได้เสนอแนวทางปฏิบัติในการลดความพิการแต่กำเนิดโดย
1.ปรับปรุงลักษณะนิสัยการรับประทานอาหาร (folate-rich foods) โดยให้รับประทานอาหารที่มีโฟเลตมากขึ้นจนได้โฟเลตอย่างน้อย 0.4 มิลลิกรัมต่อวัน
2.รับประทานวิตามินโฟลิกทุกวัน (folic acid supplementation) ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ตั้งแต่เริ่มแพลนจะมีบุตรหรืออย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ก่อนตั้งครรภ์
3.ผสมวิตามินโฟลิกในอาหาร (folic acid-fortified foods) เช่นในสหรัฐอเมริกา US Food and Drug Administration บังคับ (mandate) ให้ผลิตภัณฑ์ธัญพืช (cereal grain products) ซึ่งเป็นอาหารหลักต้องเสริมวิตามินโฟลิก
อ่านหมอแล็บแพนด้าโพสต์สอน จะมีลูกต้องอ่าน ต่อในหน้าถัดไป
มีผลการศึกษาวิจัยมากมายที่พบว่าการทานวิตามินโฟลิกด้วยขนาด 0.4 มิลลิกรัม (400ไมโครกรัม) อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ก่อนตั้งครรภ์จนถึงตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน สามารถลดโอกาสเสี่ยงของ
-ความพิการแต่กำเนิดโดยรวมลงไปได้ 20-50 % (overall birth defect)
-ลดโอกาสการเกิดและการเกิดซ้ำความพิการแต่กำเนิดของหลอดประสาทได้ถึง 70 % (neural tube defect)
-ลดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดลงไปได้ 25-50 %
-ลดความผิดปกติของแขนขาลงไปได้ประมาณ 50%
-ลดความพิการของระบบทางเดินปัสสาวะและโรคไม่มีรูทวารหนัก (imperforate anus)
-ลดโอกาสการเกิดปากแหว่งลงไปได้ประมาณ 1 ใน 3 เป็นต้น
สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย และองค์กรภาคีเครือข่าย ได้แก่ สมาคมเพื่อเด็กพิการแต่กำเนิดประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นต้น เล็งเห็นความสำคัญในการป้องกันความพิการแต่กำเนิดด้วยโฟเลตอย่างจริงจัง ด้วยการลงมือปฏิบัติ เช่น
1.ขับเคลื่อนให้ออกเป็นกฎหมายบังคับผสมวิตามินโฟลิกในอาหาร
2.หาแนวทางเผยแพร่ความรู้โดยบุคลากรทางการแพทย์และสื่อมวลชนให้ประชาชนมีความรู้อย่างทั่วถึงในการป้องกันความพิการแต่กำเนิดด้วยโฟเลต รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารเห็นความสำคัญ เช่น ทาง social media, สื่อต่างๆ
3.กระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมเห็นความสำคัญ และอยากมีส่วนร่วมด้วยการผสมวิตามินโฟลิกในผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงเห็นช่องทางและความคุ้มค่าในการลงทุน ทั้งนี้ผลลัพธ์โดยรวมคือเพื่อให้ประชาชนที่มีความรู้แล้วเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น โดยอาจทำในบริบทให้เหมาะกับคนไทย เช่นใส่ในอาหารพวกข้าว หรือน้ำปลา ฯลฯ
โฟลิกในท้องตลาด มีในรูป
1.วิตามินโฟลิกเดี่ยวๆ
-หาได้ตามร้านขายยาทั่วไป
-folic acid (5mg) ราคาถูกมาก เม็ดละ 50-80 สตางค์
-Blackmore 0.5 mg
2.ผสมรวมอยู่กับวิตามินอื่น
-triferdine 150 (โฟลิก 0.4 มกใ, ธาตุเหล็ก 185 มก., ไอโอดีน 0.15 มก.)
-Obimin AZ (มีโฟลิกผสมอยู่ 1 มก.)
โดยสรุปคือ ทานแบบไหนก็ได้ เพราะทุกแบบมีโฟลิกเกิน 0.4 มก.หมด ให้ทาน 1 เม็ดต่อวัน
ที่มา : facebook.com/pg/MTlikesara
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทุกเรื่องกับกระเป๋าเตรียมคลอดของแม่ผ่าท้องคลอด
พ่อเตรียมรับมือ หลากอารมณ์ของแม่ท้อง 3 ไตรมาส
เคล็ดลับน่ารู้ ชวนสามีทำลูกสาว ท่าทำลูกสาว เคล็ดลับ อยากมีลูกสาวทำไง!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!