ดูแลแผลผ่าคลอดไม่ให้นูน อยากให้แผลผ่าคลอดสวยต้องทำไง เพราะภายหลังการผ่าคลอด คุณแม่จะมีอาการเจ็บระหว่างการสมานของแผลที่ส่งผลต่อร่างกายทำให้รู้สึกเจ็บปวดบาดแผลไม่ว่าจะเป็นการลุก นั่ง เดิน เคลื่อนไหวร่างกาย ในระยะแรก ๆ หลังจากนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ อาการปวดอย่างรุนแรงก็จะหายไปและดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่คุณแม่อาจจะรู้สึกคันที่แผลหรือวันที่สภาพอากาศไม่ดีอาจจะรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ก็ได้
คุณแม่หลังคลอดสามารถ ดูแลแผลผ่าคลอดไม่ให้นูน ได้อย่างไร
ถ้าอยากให้แผลสมานเร็ว แผลติดกันสวยงาม ไม่มีร่องรอยการกรีดของมีดผ่าตัด หรือรอยเย็บ ที่ชัดเจน เรามีเคล็ดลับมาฝากดังนี้ค่ะ
รักษาความสะอาดของแผลไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
แผลที่เย็บไว้จะสมานเข้าด้วยกัน ซึ่งจะค่อย ๆ ใช้เวลาประมาณ 2 – 12 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับร่างกายของแม่แต่ละคนและลักษณะของการเย็บ สิ่งสำคัญคือควรดูแลความสะอาดของแผลเป็นอย่างดี เพื่อให้ร่างกายสมานแผลเข้าด้วยกันโดยไม่มีปัญหา ไม่ให้เกิดการติดเชื้อตามมา
ลุก นั่ง เดิน ประคับประคองแผลอย่างระมัดระวัง
ในช่วงหลังคลอดแม้จิตใจจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม แต่ร่างกายคุณแม่ยังอยู่ในระยะพักฟื้น จึงไม่ควรที่จะรีบทำอะไรกระฉับกระเฉงเร็วไปนะคะ รวมถึงอาการ ไอ จาม หรือแม้แต่การหัวเราะ เพราะจะกระทบกระเทือนต่อแผลได้ง่าย
หาตัวช่วยบรรเทาอาการปวดแผล
ในกรณีที่แม่ปวดแผลมาก แพทย์อาจแนะนำให้ใช้แผ่นประคบร้อน หรือ รับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น Ibuprofen, Acetaminophen ซึ่งตัวยาดังกล่าวนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยที่กินนมแม่
ดื่มน้ำให้มาก
การดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มจะช่วยทดแทนของเหลวที่สูญเสียไประหว่างการคลอด และในขณะให้นมลูกที่คุณแม่อาจเกิดการกระหายน้ำได้บ่อย ร่างกายจึงต้องดื่มน้ำมากเป็นพิเศษ เพื่อช่วยไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ รวมถึงช่วยป้องกันท้องผูกไม่ให้เกิดการเบ่งแรงจนทำให้เจ็บแผล
เลิกกังวล
คุณแม่บางคนห่วงว่าแผลจะกลายเป็นแผลเป็นหรือคีลอยด์ คือ มีลักษณะหนา นูนแดง กลัวว่าแผลไม่สวย หรือกังวลว่ากลัวแผลผ่าคลอดปริจนไม่กล้าทำอะไรเลย ซึ่งหลังช่วงระยะพักฟื้นร่างกายในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก คุณแม่สามารถอุ้มลูกน้อยเพื่อให้นม หรือสามารถขยับตัวเคลื่อนไหวได้ปกติตราบเท่าที่ไม่รู้สึกเจ็บ แต่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก และแบ่งเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนมากที่สุด
ทาครีมลดการเกิดแผลเป็น
การทาครีมซึ่งมีส่วนผสมของเสตียรอยด์อ่อน ๆ หรือครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี สามารถช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ และไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลต่อน้ำนมที่ให้ลูกกินนะคะ เพราะการทายาเป็นเพียงการใช้ยาภายนอกและเฉพาะที่
อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรสังเกตแผลผ่าคลอด หากพบว่ามีอาการเจ็บปวดบริเวณรอยผ่า มีอาการบวมแดง หรือมีของเหลวรั่วไหลออกมา มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจวินิจฉัยอาการนะคะ
อ้างอิงข้อมูล : www.nicemeditec.com
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
ประสบการณ์แม่ความดันสูงไม่รู้ตัว สู่การผ่าคลอดก่อนกำหนด
10 เมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง อะไรควรหลีกเลี่ยง
ของช่วยรักษาอาการผ่าคลอด แม่ผ่าคลอดควรดูแลตัวเองอย่างไร