แม่ครับ
ผมตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อให้พ่อกับแม่รู้ว่า ผมขอบคุณสำหรับความเชื่อมั่นในตัวผม เพราะนับตั้งแต่วันที่ผมลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ แม่บอกว่า ในตอนนั้นผมตัวเล็กมากเหลือเกิน มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายกับเด็กน้อยคนนี้ ทุกวินาทีนั้นมีค่ามาก และผมก็สามารถไปได้ทุกเมื่อ แม้แต่การหายใจ ผมยังไม่สามารถทำเองได้ ต้องมีเครื่องต่างๆช่วยประคองลมหายใจให้ผม และก็มีหลายครั้งที่ชีพจรผมหยุดเต้น หมอก็จะเป็นคนช่วยต่อลมหายใจให้ผมทุกครั้ง ผมรู้ว่าแม่เหนื่อยที่ต้องเฝ้ารออย่างอดทน จนมาครบสัปดาห์ที่ 24 หมอก็บอกกับแม่ว่า ถ้าชีพจรผมหยุดเต้นคราวนี้ หมอจะไม่ยื้อชีวิตผมไว้อีกแล้ว แต่พ่อและแม่ ไม่เคยที่จะทอดทิ้งผม ขอบคุณนะครับที่ศรัทธาและเชื่อมั่นในลูกคนนี้
ภาพอเล็กซ์ที่ต้องต่อสู้เพื่อลมหายใจของตัวเอง โดยมีเครื่องช่วยหายใจเป็นตัวช่วย เขียนจดหมายถึงแม่
และเมื่อถึงเวลาที่ผมจะต้องเข้าเรียน ผมเป็นคนเดียวในโรงเรียนที่ไม่สามารถเดินเองได้ โดยต้องใช้รถเข็นเป็นพาหนะนำพาผมไปยังที่ต่างๆ และผมก็มีเพื่อนร่วมชั้นเพียงคนเดียว และเธอก็เป็นดาวน์ซินโดรม ทุกครั้งเวลาที่ผมยกมือขึ้นเพื่อจะถามคำถาม คุณครูไม่เคยที่จะสนใจผมเลย และนั่นทำให้ผมโกรธครูมาก และผมก็มุ่งมั่นว่าผมจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า ผมก็เหมือนกับคนอื่นๆ จวบจนวันที่ผมจะต้องเริ่มเข้าสู่วัยมัธยม ผมได้รับอีเมล์จากเพื่อนว่า ให้ผมกลับบ้านและไปหาขามาใส่ซะ มันทำให้ผมเจ็บจนน้ำตามันไหล แต่ก็มีแม่นี่แหละครับ ที่คอยบอกผมว่า “อย่าให้คนอื่นมาทำให้ชีวิตผมแย่” ผมยังจำคำนั้นได้ดี และผมก็ตั้งใจว่า ถ้ามีใครล้อเลียนผมอีก ผมจะใช้เจ้าเก้าอี้รถเข็นนี้แหละ ไล่ต้อนพวกเขาให้ติดกำแพงไปเลย แต่แล้วสุดท้ายเพื่อนคนนั้นเขาก็มาขอโทษผม และสัญญาว่าจะไม่เรียกผมแบบนั้นอีก
อเล็กซ์ตอนเป็นเด็ก
โรงเรียนมีส่วนช่วยเป็นแรงผลักดันให้ผมมาก การศึกษามีความสำคัญสำหรับทุกคน เช่นเดียวกันกับตัวผม นอกจากความรู้แล้ว ผมก็ยังต้องการโอกาสเหมือนคนอื่นๆบ้าง ผมอยากขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนผม ผมอยากขอบคุณพ่อ เพื่อน และทุกๆคน ที่คอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ผม ทำให้ผมสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ (ผมขอโทษที่ผมไม่ได้ติดต่อกลับมาหาที่บ้านเลยในช่วงหกสัปดาห์แรก) ตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว และทั้งเมืองนี้ ก็มีผมเพียงคนเดียวที่มีอาชีพเป็นนักข่าว
จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากที่จะขอบคุณการศึกษาที่มอบความรู้ให้แก่ผมเพียงอย่างเดียว ผมอยากขอบคุณที่ทำให้ผมได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับเพื่อนผู้หญิง และได้ไปปาร์ตี้ร็อคเหมือนอย่างคนอื่นๆเขา
มากไปกว่านั้นผมอยากขอบคุณและแม่ ที่คอยอยู่เคียงข้างผมทุกครั้งที่ผมจะต้องเข้ารับการผ่าตัดตอนอายุ 15 ปี และแม้ว่าจะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยปริปากบ่นให้ผมได้ยินเลยเพียงสักครั้งเดียว
เขียนจดหมายถึงแม่ แม่กับอเล็กซ์
และตลอด 25 ปีของผมที่ผ่านมา ผมได้พบเห็นทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี สังคมทุกวันนี้ก็อยู่กันอย่างลำบากมากขึ้น แต่พ่อกับแม่ไม่เคยว่าผมเลยว่า ทำไมผมเลือกเป็นนักข่าว ทั้งๆที่มันเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่มั่นคง และบางทีอาชีพนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นอาชีพสุดท้ายที่คนส่วนใหญ่เลือกกัน
สำหรับตัวผม ถึงแม้ว่าผมจะพิการ ไม่มีขาที่สามารถเดินได้เหมือนคนอื่นๆ แต่ความพิการไม่ใช่ตัวกำหนดชีวิตผม เพราะผมมีพ่อและแม่ที่อยู่คอยอยู่เคียงข้างและไม่เคยคิดที่จะทิ้งผมไปไหน
หากผมมีแผลเป็นที่เท้า นั่นไม่ได้หมายความผมจะต้องเอาแผลนั้นมาเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ผมเลือกที่จะทิ้งแผลนั้นไว้และก้าวต่อไปเพื่อจะได้เป็นตัวผมเหมือนอย่างวันนี้แทน
ลูกชายที่น่าภูมิใจของแม่
อเล็กซ์ เทย์เลอร์
นี่แหละค่ะ ความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อแม่ ทุกวินาทีมีความสำคัญ อุปสรรคไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ หากเราเชื่อมั่นในกันและกัน เราก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันได้ ที่สำคัญจงเป็นตัวของตัวเอง อย่าให้คนอื่น เป็นคนกำหนดชีวิตคุณ จงกำหนดชีวิตคุณด้วยตัวของคุณเอง
ที่มา: https://www.telegraph.co.uk
บทความอื่นๆที่สัมพันธ์กัน:
5 เรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรบังคับลูก
10 ความเสียสละที่คุณจะรู้ซึ้งเมื่อได้เป็นแม่
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!