ความเชื่ออีกหนึ่งเรื่องที่โบราณว่า คนท้องห้ามกินกล้วยหอม ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นคำอธิบายที่ชัดเจนมากเท่าไหร่ ข้อห้ามนี้บางทีอาจจะเป็นเพราะเรื่องของกลิ่นกล้วยหอมที่มีกลิ่นแรงจนเกินไป ทำให้แสลงต่ออาการแพ้ท้องของแม่ในช่วงไตรมาสแรกก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม หากไล่เรียงกันดูถึงสรรพคุณของ “กล้วย” ก็นับว่ามีข้อดีที่ดูจะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ได้ไม่น้อย คนท้องกินกล้วยหอมได้ไหม เรามาหาคำตอบกัน
เรื่อง “กล้วยกล้วย” สารพัดประโยชน์
– กล้วยช่วยบรรเทา อาการคลื่นไส้ และอาเจียน การแพ้ท้อง และอาเจียนเป็นเรื่องปกติในช่วง ไตรมาสแรก ของการตั้งครรภ์ กล้วยเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วย วิตามินบี 6 หรือ ไพริดอกซิน (Pyridoxine) และ สารเหล่านี้ สามารถ แก้อาการคลื่นไส้ และ แพ้ท้องได้ ดังนั้น การกินกล้วย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ของการตั้งครรภ์ จึงเป็นเรื่องที่แนะนำสำหรับแม่ท้องมากเลยค่ะ
– กล้วยช่วยเพิ่มพลังงาน กล้วยมีคาร์โบไฮเดรตสูง และ มีน้ำตาล เช่น กลูโคส (Glucose), ฟรุกโตส (Fructose), ซูโครส (Sucrose) ที่ ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้เพื่อเพิ่ม พลังงาน ทันที ในช่วง ไตรมาสที่สาม ของการตั้งครรภ์ กล้วยจะช่วยเพิ่มพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นนี้เป็นเหตุผลที่ทำไมคนท้องต้องกินกล้วย
– กล้วยช่วยพัฒนาระบบประสาทของทารก กล้วยเป็นแหล่งอุดมไปด้วย วิตามินบี 6 ที่ละลายในน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น ในการพัฒนาระบบประสาท ส่วนกลางของทารก การบริโภคกล้วยในช่วง ไตรมาสแรก ของการตั้งครรภ์ จึงมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมอง และ เส้นประสาท ของลูกน้อยในครรภ์
– กล้วยช่วยเรื่องความดันโลหิต แม่ท้องส่วนใหญ่เจอกับปัญหา ภาวะผันผวน ของความดันโลหิต ในระหว่างการตั้งครรภ์ แต่แม่ท้องสามารถ รักษาความดันโลหิต ได้ตามธรรมชาติ ผ่านการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และ กล้วย เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมที่ดี ซึ่งสามารถ ช่วยในการรักษาความดันโลหิตของแม่ท้อง นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และ ปวดขา ได้ ในระหว่างการตั้งครรภ์
– กล้วยช่วยบรรเทาอาการท้องผูก อาการท้องผูก เป็น ปัญหาที่พบได้บ่อยมากในระหว่างการตั้งครรภ์ และการรับประทานผลไม้ก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้ และ กล้วยก็เป็นผลไม้ที่มีใยอาหารในปริมาณสูง ซึ่งช่วยในการกระตุ้นการเคลื่อนไหว ของลำไส้ และ ลดอาการท้องอืดในกระเพาะอาหารที่เกิดจากก๊าซในกระเพราะอาหารที่มากเกินไป การกินกล้วย ก็จะสามารถปรับปรุงเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้บรรเทาอาการท้องผูก
– กล้วยเป็นแหล่งของกรดโฟลิก กล้วยมีความจำเป็น ต่อการพัฒนาสมอง และไขสันหลังของทารก เพราะกล้วยช่วยป้องกันการขาดกรดโฟลิก ซึ่งทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด และ การเกิดข้อพร่อง ปัญหาสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์
– กล้วยช่วยลดความเครียด กล้วยช่วยให้แม่ท้องอารมณ์ดี เพราะมีโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนความสุข เซโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง และความเครียดนั้น บางครั้งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงด้านการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งมาจากโพแทสเซียมต่ำ ซึ่งในกล้วยนั้นมีโพแทสเซียมจำนวนมาก ซึ่งโพแทสเซียมในปริมาณที่เพียงพอ จะทำให้ อัตราการเต้นของหัวใจปกติได้
ประโยชน์ของกล้วยหอม
ทราบประโยชน์กล้วย ๆ ของผลไม้สีเหลืองชนิดนี้กันแล้ว มาต่อกันที่ประโยชน์ของกล้วยหอม กันค่ะ
- กล้วยหอมมีน้ำตาลดี คือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคสซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที ช่วยแก้อาการอ่อนเพลียของแม่ท้องได้
- กล้วยหอมมีธาตุเหล็กสูง ดีต่อร่างกายที่กำลังต้องการธาตุเหล็กมากกว่าปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายของแม่ตั้งครรภ์มักมีโอกาสเกิดอาการโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กได้ง่าย จึงควรจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างธาตุเหล็กมากกว่าปกติ
- กล้วยหอมมีกากใย ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายและแก้ปัญหาท้องผูกที่มักเกิดในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากขนาดที่ขยายขึ้นของมดลูก ไปกดทับการทำงานของลำไส้ใหญ่ไว้
- กล้วยหอมมีกรดอะมิโนที่ชื่อTryptophan ที่สามารถช่วยแก้ไขภาวะซึมเศร้า สำหรับแม่ท้องที่ต้องเจอกับภาวะอารมณ์แปรปรวนเนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น และเกิดอาการโรคซึมเศร้าได้
- กล้วยหอมมีเกลือโปรแตสเซียมอยู่มาก สามารถช่วยในเรื่องการปรับความดันเลือดให้อยู่ในภาวะสมดุล ซึ่งคนท้องมักมีความเสี่ยงในการเกิดอาการความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ได้
- กล้วยหอมยังช่วยลดอาการปั่นป่วนในช่องท้อง คลื่นไส้อาเจียน หรืออาการแพ้ท้อง (Morning Sickness)ได้เป็นอย่างดี
เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าคนท้องสามารถกินกล้วยหอมได้ไหม จากข้อดีที่มีประโยชน์ของกล้วยหอมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นมีมากกว่าข้อเสีย กล้วยหอม จึงถือว่าเป็นผลไม้ที่สามารถกินได้ในช่วงตั้งครรภ์ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปหรืออย่างน้อยวันละ 1 ผลนะคะ
_________________________________________________________________________________________
ลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ กับ theAsianparent Thailand ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก มาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ว่าลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2 มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และ ลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแล ทั้งอาหารการกิน โดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้าง ที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้ หรือทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคล ทั้งเด็กหญิง และเด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ
ข้อมูลจาก : www.healthline.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เหตุผลที่ว่าทำไม คนท้องต้องกินกล้วย ประโยชน์ของกล้วยกับคนท้อง
อาหารคนท้อง ไตรมาส 2 ท้องไตรมาสสอง สารอาหารอะไรที่ให้ร่างกายแข็งแรง
7 อาหารคนท้องไตรมาส 2 สูตรเมนูยำแซ่บสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์