เยื่อพรหมจรรย์อยู่ตรงไหน มีเพื่ออะไร และมีลักษณะอย่างไร และจะฉีกขาดเพราะเหตุใด ? นี่อาจเป็นคำถามยอดฮิตที่สาว ๆ หลายคนนั้นสงสัย บทความนี้เราจึงมีคำตอบ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเยื่อพรหมจรรย์มาตอบสาว ๆ กัน
เยื่อพรหมจรรย์อยู่ตรงไหน ? มีแบบไหนบ้าง ?
เยื่อพรหมจรรย์ คืออะไร ก่อนอื่นต้องตอบข้อสงสัยกันก่อนว่าเยื่อพรหมจรรย์นั้นคือ เยื่อบุบาง ๆ ล้อมรอบบริเวณปากช่องคลอด จะอยู่ถัดจากแคมเล็กโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นรูปร่างพระจันทร์ และจะมีช่องสำหรับการไหลผ่านของเลือดประจำเดือน หรือระดู ซึ่งเยื่อพรหมจรรย์จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามชนิดของพรหมจรรย์ โดยจะมีหลัก ๆ อยู่ 3 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้
- เยื่อพรหมจรรย์ไม่เปิด (Imperforate Hymen)
เยื่อพรหมจรรย์แบบไม่เปิดนั้น จะเป็นเยื่อพรหมจรรย์ที่ปกคลุมปิดปากช่องคลอดทั้งหมด ซึ่งเยื่อพรหมจรรย์รูปแบบนี้จะทำให้เลือดประจำเดือน หรือระดูนั่นไม่สามารถที่จะไหลผ่านออกมาได้ ซึ่งส่งผลให้เลือดประจำเดือนนั้นคั่งอยู่ภายในช่องคลอด และอาจจะกลายเป็นก้อนในท้อง เป็นสาเหตุให้สามารถเกิดอาการปวดท้อง และปวดหลังได้ ในบางรายอาจมีอาการเจ็บเวลาขับถ่าย หรือขับปัสสาวะด้วย
หากมีอาการเหล่านี้ และเกิดข้อสงสัย สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยอาการ และรับการรักษาโดยเร็ว สำหรับวิธีการรักษานั้น จะรักษาโดยการผ่าตัดนำเยื่อพรหมจรรย์ส่วนที่เกินออกไป และศัลยกรรมตกแต่งปากช่องคลอดให้มีขนาดที่เหมาะสม เพื่อให้เลือดประจำเดือนหรือระดูนั้นไหลออกมาได้อย่างเป็นปกติ
- เยื่อพรหมจรรย์ที่เปิดเล็กน้อย (Microperforate Hymen)
เยื่อพรหมจรรย์แบบเปิดเล็กน้อยนั้น จะเป็นเยื่อพรหมจรรย์ที่ปกคลุมปากช่องเกือบทั้งหมด จะมีเพียงแค่ช่องแคบ ๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาได้ แต่จะไหลออกมาได้เพียงเล็กน้อยเช่นกัน จึงส่งผลให้ช่องคลอดนั้นแคบ และจะแทบไม่สามารถใช้ผ้าอนามัยแบบสอดใส่ในช่องคลอดได้เลย ถึงใส่ได้ก็จะเป็นเรื่องที่ยาก และตอนถอดอาจจะถอดไม่ได้
ดังนั้นหากประสบปัญหานี้ ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้วินิจฉัย และรักษาโดยการผ่าตัดเอาเยื่อพรหมจรรย์ส่วนเกินออกไป และศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอดให้มีขนาดที่เหมาะสม เพื่อให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาอย่างเป็นปกติ และสามารถใส่ผ้าอนามัยแบบสอดใส่ในช่องคลอดได้
- เยื่อพรหมจรรย์ที่มีแถบกั้น (Septate Hymen)
เยื่อพรหมจรรย์แบบมีแถบกั้นนั้น จะมีลักษณะที่เนื้อเยื่อบางกลุ่มที่เป็นส่วนเกินมาปกคลุมกั้นไว้บริเวณกลางช่องคลอดทำให้เกิดรูช่องคลอดแคบ ๆ 2 รู โดยจะส่งผลให้การใส่ผ้าอนามัยแบบสอดใส่ในช่องคลอดนั้นทำได้ยาก สำหรับการรักษาเยื่อพรหมจรรย์แบบที่มีแถบกั้นนั้นสามารถทำได้โดยการเข้ารับการผ่าตัดเช่นกัน โดยแพทย์จะผ่าตัดนำเอาเยื่อพรหมจรรย์ส่วนเกินที่กั้นช่องคลอดไว้ออกไป และทำการศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอดให้มีลักษณะที่เป็นปกติ หลังจากนั้นจึงจะสามารถใส่ผ้าอนามัยแบบสอดได้ และเลือดประจำเดือนจะไหลออกมาได้อย่างสะดวกขึ้นอีกด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : เคล็ดลับ เซ็กส์ยาวนาน วิธีการมีเพศสัมพันธ์ให้นาน อึด ถึก ทน เอาใจคนรัก
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพรหมจรรย์
1. เยื่อพรหมจรรย์ขาด ไม่เท่ากับสูญเสียความบริสุทธิ์
ความเชื่อผิด ๆ ว่าการที่เยื่อพรหมจรรย์เกิดการฉีกขาดนั้น จะกล่าวได้ว่าเราเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วนั้นไม่ถูกต้อง เพราะปัจจัยที่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด ก็มีหลากหลายปัจจัยได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว และการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ก็อาจจะเกิดได้โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย
หากจะรู้ว่าเยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดหรือไม่นั้น ก็จะสามารถรู้ได้จากการตรวจดูโดยใช้เครื่องมือของแพทย์ได้นั่นเอง ดังนั้นการที่เยื่อพรหมจรรย์ขาด จึงไม่เกี่ยวว่าเรานั้นจะสูญเสียความบริสุทธิ์หรือไม่
2. มีกิจกรรมทางเพศในครั้งแรก ไม่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด
การมีกิจกรรมทางเพศในครั้งแรกนั้น ไม่ได้ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดเสมอไป เพราะเยื่อพรหมจรรย์สามารถที่จะยืดหยุ่น และขยายตัวได้ หากมีสิ่งที่สอดใส่เขามาในช่องคลอด ซึ่งการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์นั้นมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดขึ้นได้อีกมากมาย จึงถือว่าการมีกิจกรรมทางเพศครั้งแรก ไม่เกี่ยวกับการที่เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดเสียทีเดียว และเยื่อพรหมจรรย์สามารถที่จะขาดเมื่อมีกิจกรรมทางเพศครั้งที่ 10 ก็เป็นได้
3. มีเลือดออกขณะมีกิจกรรมทางเพศ ไม่เกี่ยวกับเยื่อพรหมจรรย์
อาการมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์นั้นไม่เกี่ยวกับการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์เสมอไป เพราะเมื่อมีการสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด เยื่อพรหมจรรย์ของผู้หญิงจะสามารถยืดหยุ่นขยายออกได้นั่น จึงไม่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาดได้เสมอไป แต่การที่มีเลือดออกขณะมีกิจกรรมทางเพศนั้น มีสาเหตุมาจากการที่ไม่มีสารหล่อลื่น หรือมีสารหล่อลื่นน้อยเกินไป จนทำให้เกิดการเสียดสี หรือการฉีกของเนื้อเยื่อ จนทำให้มีเลือดไหลซึมได้นั่นเอง
4. เสียพรหมจรรย์ ไม่ใช่การที่ผู้หญิงเสียคุณค่า
การสูญเสียพรหมจรรย์จากการมีเพศสัมพันธ์ตามกรอบแนวคิดแบบโบราณนั้น ออกเป็นเรื่องล้าหลัง และตกยุคสมัยไปแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีข้อดีตรงที่จะช่วยยับยั้งการเกิดเหตุการณ์ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม หรือโรคติดต่อการเพศสัมพันธ์ได้ แต่ข้อเสียก็มีอยู่มาก เช่น เป็นการฝังความคิดการดูถูกตัวเองเพราะเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ส่งผลให้ไม่มั่นใจในตัวเอง กลัวการดูถูกเหยียดหยาม หรือแม้แต่การไม่กล้ามีความรักในครั้งต่อไปอีกเลย
แต่ในปัจจุบันนี้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นแล้ว มีทางเลือกในการคุมกำเนิดมากมาย ทำให้สามารถลดปัญหาการท้องไม่พร้อม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปได้ ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์กัน จึงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ผิดแล้ว และเป็นเรื่องของกลไกทางธรรมชาติของร่างกาย ซึ่งหากยินดีและเต็มใจทั้งสองฝ่าย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ผิดอะไรถ้าหากมีการป้องกันอย่างรัดกุม และคุณค่าของผู้หญิงนั้นก็ไม่ควรที่จะวัดคุณค่ากันจากการเสียหรือไม่เสียพรหมจรรย์แล้ว แต่ควรมองจาก ความคิด ทัศนคติ และความรู้ความสามารถที่มีมากกว่า
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ภาวะช่องคลอดแห้ง ก่อนวัยอันควร มีวิธีป้องกัน และรักษา ได้อย่างไร
ปัจจัยที่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด
- ปัจจัยที่จะทำให้เกิดการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์นั้น สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ผาดโผน
- การใส่ผ้าอนามัยแบบสอด
- หรือการประสบอุบัติเหตุที่กระทบต่ออวัยวะเพศ
- การมีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรง
วิธีดูแลเยื่อพรหมจรรย์
- หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่หนักหน่วง หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความผาดโผนสูง เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือการใช้ท่วงท่าที่อันตรายต่อการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ได้นั่นเอง
- หลีกเลี่ยง ป้องกัน และเตรียมพร้อม ต่อความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
- สำรวจรสนิยมของคู่นอนให้แน่ชัด และตกลงกันให้ดีก่อนร่วมกันมีเพศสัมพันธ์ ว่าจะไม่ทำรุนแรงจนมากเกินไป จนส่งผลให้เยื่อพรหมจรรย์นั้นฉีกขาด นอกจากนี้ยังอาจทำให้ไม่มีความสุขในกิจกรรมทางเพศอีกด้วย
- ผ่าตัด ศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอด ซึ่งในปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ก้าวหน้า โดยเรานั้นสามารถที่จะผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรมช่องคลอดได้แล้ว ซึ่งสามารถเย็บตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์ ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ของสาว ๆ กลับมาสมบูรณ์แบบเช่นเดิม แม้จะเคยเกิดการฉีกขาดไปแล้วก็ตาม
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเยื่อพรหมจรรย์ แน่นอนว่าสาว ๆ คงได้คำตอบที่สงสัยกันแล้ว อย่างไรก็ตาม พรหมจรรย์ไม่ใช่สิ่งที่จะวัดคุณค่าความบริสุทธิ์ในตัวสาว ๆ ได้ แต่คุณค่าที่แท้จริงของผู้หญิงนั้นควรจะวัดกันที่ ความคิด ทัศนคติ ความรู้ ความสามารถและการดูตนเองกับคนที่คุณรักเสียมากกว่า สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากว่าคืออาการผิดปกติของร่างกายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเยื่อพรหมจรรย์ที่จะส่งผลเกี่ยวกับความไม่ปกติของประจำเดือน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
จิ้นไม่จิ้น ซิงไม่ซิง แล้วไงว้า? สาวๆ รู้ไหม ที่จริงแล้ว เยื่อพรหมจรรย์ ไม่เคยขาด
มดลูกต่ำ มีลูกได้หรือไม่ มีวิธีป้องกันและรักษามดลูกหย่อนอย่างไร?
คุมกำเนิด แบบไหนดี ? …วิธีคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ที่วัยรุ่นควรรู้!
ที่มา : pobpad, hd, hellokhunmor