ทำไงดี! ช่องคลอดติดเชื้อ ระหว่างช่วงตั้งครรภ์ ลูกจะเป็นอะไรมั้ย?

ช่วงตั้งครรภ์ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นเป็นผลมาจากฮอร์โมน แม้แต่ช่องคลอดของคุณแม่ก็จะมีเมือกหรือตกขาวมากกว่าปกติ ยิ่งอากาศร้อน ๆ เหงื่อออกเยอะทำให้ช่องคลอดติดเชื้อได้ง่าย มาดูกันว่าอาการ ช่องคลอดติดเชื้อ ช่วงตั้งครรภ์เป็นอย่างไร และมีวิธีแก้อย่างไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

การเปลี่ยนแปลงของช่องคลอดช่วงตั้งครรภ์

การมีสารคัดหลั่งออกมาทางช่องคลอดมากกว่าธรรมดา อาการนี้เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ ทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณ อุ้งเชิงกราน และช่องคลอดมากขึ้น มีการเจริญ และหลุดลอกของเซลล์ผิวในช่องคลอดมากขึ้น จึงมาตกขาวมากซึ่งถือว่าปกติ แล้วถ้าช่วงตั้งครรภ์ หากช่องคลอดติดเชื้อขึ้นมาจะทำอย่างไร

ช่องคลอดติดเชื้อ ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ในช่วงตั้งครรภ์ ทำอย่างไรดี

รศ.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร ภาควิชาสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงช่องคลอดติดเชื้อในช่วงตั้งครรภ์ ไว้ว่า การสังเกตช่องคลอดผิดปกตินั้น สังเกตได้จากสี และกลิ่นของตกขาว คือ การอักเสบติดเชื้อของช่องคลอด และปากมดลูก ที่พบได้บ่อยคือ การอักเสบติดเชื้อจากเชื้อรา เชื้อพยาธิในช่องคลอด และเชื้อแบคทีเรีย ดังนี้

• การอักเสบของช่องคลอดที่เกิดจากเชื้อรา

พบได้บ่อยมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของช่องคลอดระหว่างตั้งครรภ์ที่ทำให้สภาพต่าง ๆ เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อรามาก ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ลักษณะของตกขาวนั้น จะมีปริมาณมาก เป็นสีขาวหรือเป็นก้อนเล็ก ๆ สีขาวก็ได้ ที่สำคัญคือ มักมีอาการคันบริเวณช่องคลอด หรือบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกร่วมด้วย

• การอักเสบ และการติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด

เกิดจากเชื้อพยาธิตัวเล็ก ๆ ซึ่งเป็นคนละชนิดกับพยาธิลำไส้ ลักษณะของตกขาวนั้นมักเป็นสีเหลือง ๆ หรือเขียว ๆ บางรายอาจออกมามาก และคล้ายเป็นฟองอีกด้วย ส่วนอาการที่เกิดร่วมด้วยนั้นก็คล้ายกับการติดเชื้อรา คือ มักมีอาการคันอย่างมากบริเวณช่องคลอด และอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก จะมีอาการคันช่องคลอดมาก จนบางทีคุณแม่เกาจนถลอกเลยก็มี

• การอักเสบ และการติดเชื้อจากแบคทีเรีย

อาการมักไม่ชัดเจนเหมือนเชื้อราหรือเชื้อพยาธิ แต่มักมีตกขาวออกมามาก อาจมีสีเหลืองหรือเทา ๆ ข้น ๆ เหนียว ๆ อาจมีกลิ่นเหม็นผิดปกติร่วมด้วยก็ได้ อาการอื่นอย่างแสบร้อน หรือคันบริเวณช่องคลอดก็พบได้เช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ตกขาวมีกลิ่น ช่องคลอดเหม็นไม่ไหว แก้ไขได้ง่าย ๆ ไม่ยาก

การรักษาช่องคลอดติดเชื้อ

รศ.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร กล่าวถึง การรักษาโดยทั่วไป คุณหมอมักจะให้ยาเหน็บช่องคลอด หรือยาไปกินต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง เท่านั้นก็หายขาดได้ แต่ไม่ใช่ว่าหายแล้วหายเลย อาจจะกลับมาเป็นใหม่อีกได้ ซึ่งการรักษาความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่ควรรักษาและทำความสะอาดร่างกายอย่างเหมาะสม เพื่อลดอาการแสบคัน

การติดเชื้อนั้น จะส่งผลถึงทารกในครรภ์หรือไม่

คุณหมอยืนยันว่า การอักเสบติดเชื้อต่าง ๆ ที่ว่ามานั้นเป็นเพียงการอักเสบติดเชื้อเฉพาะที่เท่านั้น ไม่มีผลต่อลูกในท้อง โดยเฉพาะถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

การดูแลช่องคลอดระหว่างตั้งครรภ์

1. การรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้เกิดความอับชื้น

2. ชุดชั้นในควรเป็นชนิดที่ใส่สบาย ไม่รัดจนเกินไป กางเกงชั้นในที่ใส่ควรเป็นผ้าคอตตอน หรือผ้าฝ้าย ที่ระบายอากาศได้ดี

3. คุณแม่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำยาพิเศษอะไรสวนล้างช่องคลอด โดยเฉพาะหากแพ้ขึ้นมา อาจเป็นสาเหตุ ให้เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

4. ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำธรรมดา และต้องเป็นน้ำสะอาดเท่านั้น

5. สำหรับคุณแม่ที่ติดการใส่แผ่นรองกันเปื้อน ควรเปลี่ยนบ่อย ๆ เพราะถ้าไม่เปลี่ยนก็จะเกิดการอับชื้น และก็จะนำพาเชื้อรา ตัวการของช่องคลอดอักเสบได้นั่นเอง

6. แม่ตั้งครรภ์จะปัสสาวะบ่อย ดังนั้น เรื่องความสะอาดจึงต้องพิถีพิถัน เมื่อเข้าห้องน้ำ พกทิชชูที่สะอาดติดตัวไว้เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้น้ำ และทิชชูจากภายในห้องน้ำที่อาจที่เป็นตัวนำพาเชื้อต่าง ๆ

7. วิธีการทำความสะอาด ควรทำเฉพาะที่ ไม่ควรปาดจากก้นด้านหลังขึ้นมา เพราะจะนำเชื้อแบคทีเรียเข้าไปในช่องคลอดได้

8. รับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกหรือแบคทีเรียที่มีประโยชน์ เช่น กิมจิ หรือโยเกิร์ต เพราะอาหารที่มีโพรไบโอติกจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เรื่องที่ ช่องคลอดของคุณแม่ อยากจะบอกเกี่ยวกับการคลอดลูก

คุณหมอฝากบอก

หากคุณแม่เกิดอาการผิดปกติขึ้น หรือไม่แน่ใจ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ไม่ควรไปซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจไม่ตรงกับเชื้อ ทำให้รักษาไม่หายขาด อาจดื้อยา และเป็นเรื้อรังได้ ควรให้หมอตรวจก่อนดีกว่า เรื่องของตกขาวนั้นไม่ได้มีอันตรายรุนแรงมากนัก อาจมีปัญหาเข้ามากวนใจบ้าง แต่หากดูแลตนเองดี ๆ ก็จะไม่เกิดปัญหาที่รุนแรงตามมา

ช่องคลอดติดเชื้อ อาจสร้างความกังวลใจให้กับคุณแม่เป็นอย่างมาก ดังนั้น ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งและดูแลตัวเองด้วยวิธีข้างต้นเพื่อช่วยบรรเทาอาการอักเสบ หากใช้ยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงมากกว่าเดิม รวมถึงมีอาการหนาวสั่น เป็นไข้ และปวดตามร่างกาย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แม่ท้องเป็นเครียด! จิ๊มิ๊มีกลิ่นแรง แถม ตกขาวมีกลิ่นเหม็น แก้ยังไง

ตกขาวระหว่างตั้งครรภ์ อันตรายไหม? เรื่องของ “ตกขาว” ที่แม่ท้องต้องรู้

มีน้ำใส ๆ ไหลออกจากช่องคลอดผิดปกติไหม 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 13

ที่มา : si.mahidol, women.kapook