X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

คนท้องเริ่มฝากครรภ์ได้เมื่อไหร่ ฝากท้องกี่เดือน จำเป็นต้องฝากครรภ์ไหม?

บทความ 5 นาที
คนท้องเริ่มฝากครรภ์ได้เมื่อไหร่ ฝากท้องกี่เดือน จำเป็นต้องฝากครรภ์ไหม?

คนท้องเริ่มฝากครรภ์ได้เมื่อไหร่ เพิ่งจะต้องท้องเองท้องแรกด้วย ไม่รู้ควรทำอย่างไร สำหรับคุณแม่ที่มีความสงสัยเกี่ยวกับการฝากครรภ์ สามารถหาคำตอบได้ที่นี่

คนท้องเริ่มฝากครรภ์ได้เมื่อไหร่ ฝากท้องตอนกี่เดือน เริ่มอัลตร้าซาวด์ได้ตอนไหน เมื่อไหร่จะรู้เพศลูก สำหรับคุณแม่ที่เพิ่มจะเริ่มตั้งครรภ์ ท้องแรกคงจะมีคำถามมากมาย เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ วันนี้เรามีคำตอบสำหรับคุณแม่ทุกท่านค่ะ

 

ฝากท้องกี่เดือน

กรมอนามัยได้ดำเนินโครงการดูแลสตรีตั้งครรภ์แนวใหม่ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก โดยได้กำหนดการดูแลครรภ์หรือการฝากครั้งไว้อย่างน้อย 5 ครั้ง สำหรับคุณแม่ที่ไม่มีภาวะเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ดังนี้

  • ครั้งแรก อายุครรภ์ 12 สัปดาห์
  • ครั้งสอง อายุครรภ์ 18 สัปดาห์
  • ครั้งที่ 3 อายุครรภ์ 26 สัปดาห์
  • ครั้งที่ 4 อายุครรภ์ 32 สัปดาห์
  • ครั้งสุดท้าย อายุครรภ์ 36-38 สัปดาห์

สำหรับการอัลตร้าซาวด์นั้น ส่วนใหญ่มักจะเริ่มทำหลังจากตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ ซึ่งคุณแม่อาจเริ่มฝากครรภ์ได้ในช่วง 8 – 12 สัปดาห์ หรืออย่างช้าที่สุดคือ เริ่มเข้าสู่เดือนที่ 3 นั่นเองค่ะ หากคุณแม่อยากรู้เพศ ก็สามารถอัลตร้าซาวด์ได้ตั้งแต่ 16 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าลูกน้อยจะนอนโชว์ให้คุณพ่อคุณแม่เห็นหรือเปล่าก็ต้องรอลุ้นค่ะ

การฝากครรภ์ครั้งแรก มีความสำคัญมาก เพราะคุณหมอจะตรวจหาภาวะเสี่ยงของคุณแม่ที่อาจส่งผลต่อลูกน้อยในท้องไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายหรือทางด้านจิตใจ อีกทั้งยังเป็น การตรวจคัดกรองเพื่อหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ เพื่อดูว่าสามารถรักษา หรือมีทางเลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อหรือจำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์หากตรวจพบว่าลูกในท้องเป็นโรคธาลัสซีเมีย ดาวน์ซินโดรม เป็นต้น หากคุณแม่เข้ารับตรวจครรภ์อย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่และลูกน้อยในท้องได้

 

ฝากครรภ์เมื่อไร

คนท้องฝากครรภ์ หมอตรวจอะไรบ้าง

  1. สำหรับคุณแม่ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรก หมอจะทำการซักประวัติ  การตั้งครรภ์ในอดีต การตั้งครรภ์ในปัจจุบัน โรคทางอายุรกรรม เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ สารเสพติด สุรา การสูบบุหรี่ รวมถึงความพร้อมในการตั้งครรภ์และการเลี้ยงดูบุตรด้วย
  2. การตรวจคัดกรองความเสี่ยงของคนท้อง หากคุณหมอพบว่า คุณแม่มีภาวะเสี่ยงอาจมีการแยกให้คุณหมอดูแลเฉพาะทาง
  3. ตรวจคัดกรองเกี่ยวกับโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม ได้แก่ โรคธาลัสซีเมีย ดาวน์ซินโดรม ภาวะพร่องไทรอยด์แต่กำเนิด และโรคเบาหวาน
  4. ตรวจร่างกายคนท้อง ตรวจช่องท้อง ตรวจอัลตร้าซาวด์ ตรวจครรภ์ ประเมินอายุครรภ
  5. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบบาดทะยัก
  6.  ให้คำแนะนำการบริโภคอาหาร และการจ่ายยาบำรุงครรภ์ เช่น ไอโอดีน ธาตุเหล็ก และโฟเลท

บทความที่เกี่ยวข้อง : รวมแพ็คเกจฝากครรภ์ ปี 2564

 

 

อะไรที่ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงในการตั้งครรภ์

  • มีประวัติเคยคลอดลูก แล้วลูกเสียชีวิตในครรภ์
  • มีประวัติเคยแท้งบุตรมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
  • เคยคลอดลูกน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม หรือมากกว่า 4,000 กรัม
  • มีประวัติทารกคลอดก่อนและหลังกำหนด
  • มีประวัติทารกโตช้าในครรภ์ ทารกพิการทางด้านสมอง ครรภ์เป็นพิษ ตั้งครรภ์แฝด
  • เคยได้รับการผ่าตัดที่ตัวมดลูกหรืออวัยวะสืบพันธุ์
  • ทารกในครรภ์อยู่ในท่าที่ผิดปกติ เช่น ท่าก้น หรือท่าขวาง (ตั้งแต่ 34 สัปดาห์เป็นต้นไป)
  • คุณแม่ตั้งครรภ์มีอายุน้อยกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 40 ปี
  • มีเลือดออกทางช่องคลอดระหว่างตั้งครรภ์
  • มีก้อนในอุ้งเชิงกรานระหว่างตั้งครรภ์
  • หมู่เลือด Rh เป็นลบ
  • มีความดันโลหิตสูง โดยความดันมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มม.ปรอท
  • ตั้งครรภ์แล้วเป็นเบาหวานชนิดต้องพึ่งพาอินซูลิน
  • เป็นโรคไต โรคหัวใจ
  • ติดยาเสพติดหรือสุรา
  • เป็นโรคติดเชื้อ HIV (โรคเอดส์) ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะภูมิคุ้มกันไวเกิน โรคธาลัสซีเมีย โรคลมชัก วัณโรค หรือ พาหะตับอักเสบบี เป็นต้น

 

ฝากครรภ์

อาการคนท้องแบบไหนอันตรายควรไปพบแพทย์

  • ปวดศีรษะบ่อย
  • มีอาการจุกเสียดแน่นท้อง
  • มีขนาดท้องเล็กหรือใหญ่กว่าปกติ
  • มีเลือดออกทางช่องคลอด
  • เมื่อตั้งครรภ์ได้ 5-6 เดือนแล้วลูกยังไม่ดิ้น

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว อย่าลืมเข้ารับการฝากครรภ์ และสังเกตดูพัฒนาการของลูกน้อยในท้อง รวมถึงอาการต่าง ๆ ของคนท้อง เพื่อที่มีอาการผิดปกติจะได้เข้าพบแพทย์ทันทีนะคะ คุณแม่ส่วนใหญ่มักทราบข่าวดีจากการใช้ที่ตรวจครรภ์ เมื่อผลปรากฏว่าขึ้น 2 ขีด นั่นหมายความว่า ได้เวลาฉลองแล้วล่ะ คุณกำลังมีข่าวดี รู้อย่างนี้แล้วสิ่งแรกที่ควรทำคือบอกให้คนในครอบครัวร่วมแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ แล้วจากนั้นล่ะ ควรทำอะไรต่อ? ลำดับต่อไปที่ควรทำก็คือ การฝากท้อง หรือ การฝากครรภ์ นั่นเอง

 

ท้องแล้ว ควรฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี การฝากครรภ์มีประโยชน์ต่อคุณแม่อย่างไร?

ทำไมต้องฝากครรภ์

เพราะร่างกายของมนุษย์มีความซับซ้อนอย่างมาก การจะดูแลลูกในครรภ์ตลอด 9 เดือนให้พร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอกอย่างแข็งแรง จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณหมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ ในการตั้งครรภ์ และการคลอดบุตร โดยการฝากครรภ์มีประโยชน์ต่อทั้งแม่และลูกที่อยู่ในครรภ์ ดังนี้

 

การฝากครรภ์มีประโยชน์ต่อคุณแม่อย่างไร

  1. ส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจให้กับคุณแม่ เนื่องจากคุณหมอจะให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวระหว่างตั้งครรภ์ รวมถึงตอบคำถามต่างๆ ที่คุณแม่สงสัยในการตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่ดูแลร่างกายและจิตใจ ให้มีสุขภาพสมบูรณ์ที่สุด
  2. ตรวจสอบว่าการตั้งครรภ์ดำเนินไปโดยปกติหรือไม่ การเข้ารับการตรวจครรภ์อย่างต่อเนื่อง คุณหมอจะช่วยวินิจฉัยโรคบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อแม่และลูก เช่น โลหิตจาง ซิฟิลิส ครรภ์เป็นพิษ เป็นต้น เพื่อดำเนินการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้ง หากพบว่าท่านอนของลูกในครรภ์ผิดปกติ จะได้ป้องกันแก้ไขตั้งแต่ต้น
  3. ป้องกันหรือลดอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างปกติที่สุด จนกระทั่งถึงกำหนดคลอด หากมีโรคแทรกซ้อน คุณหมอจะได้ช่วยให้เกิดอันตรายน้อยที่สุด ติดเชื้อน้อยที่สุด และเสียเลือดน้อยที่สุด

การฝากครรภ์มีประโยชน์ต่อลูกในครรภ์อย่างไร

  1. ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับทารกในครรภ์ การฝากครรภ์ช่วยลดอัตราการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ลูกเสียชีวิตในท้อง หรือคลอดแล้วเสียชีวิต ป้องกันการอักเสบติดเชื้อในตัวลูกน้อย
  2. ช่วยดูแลทารกในครรภ์ ทำให้ลูกน้อยเติบโต สมบูรณ์แข็งแรง มีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม

 

ควรฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี

เมื่อรู้ถึงประโยชน์ของการฝากครรภ์แล้ว ควรฝากท้องตอนไหน คำตอบก็คือ คุณแม่ควรไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด ทันทีที่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเป็นอันขาด เพราะหากเกิดอาการแทรกซ้อนก็อาจสายเกินแก้ ถึงขั้นสูญเสียลูกในท้องได้

ฝากครรภ์ที่ไหนดีที่สุด

การเลือกสถานที่ฝากครรภ์ ควรเลือกโรงพยาบาล หรือคลินิกที่สะดวกที่สุด เช่น ใกล้โรงพยาบาล หรือใกล้บ้าน หากเป็นสถานพยาบาลที่คุณแม่มีประวัติการรักษาโรคประจำตัวมาก่อนยิ่งดีใหญ่ เพราะคุณหมอจะมีประวัติว่าคุณแม่เคยเป็นโรคอะไร ใช้ยาอะไร และจะมีผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์หรือไม่

 

ฝากครรภ์ครั้งแรกหมอตรวจอะไรบ้าง

เมื่อไปฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมอจะซักประวัติคุณแม่

  • ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ มาสม่ำเสมอหรือไม่
  • ก่อนตั้งครรภ์คุมกำเนิดด้วยวิธีใดหรือไม่
  • เคยมีโรคหรืออาการผิดปกติอะไรบ้าง
  • เคยมีการแพ้ยาหรือไม่ หากคุณแม่กำลังใช้ยาบางตัวอยู่ ซึ่งอาจเป็นอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ แม้แต่ยาแก้ไข้แก้หวัด ก็ควรบอกคุณหมอด้วย
  • ประวัติความเจ็บป่วยของคนในครอบครัวที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเลือด การมีลูกแฝด เป็นต้น

หลังจากซักประวัติคุณหมอจะทำการตรวจร่างกาย ดังนี้

  • ชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง หากคุณแม่สูงน้อยกว่า 145 เซนติเมตรมักจะมีเชิงกรานเล็ก ขนาดของลูกในครรภ์กับช่องเชิงกรานไม่ได้สัดส่วน ทำให้คลอดเองลำบาก มีโอกาสผ่าคลอดสูง
    การวัดส่วนสูงเทียบกับน้ำหนัก เพื่อให้ทราบว่าน้ำหนักตัวอยู่ในค่ามาตรฐานหรือไม่ และต้องชั่งน้ำหนักทุกครั้ง เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงว่าน้ำหนักเพิ่มมากน้อยเกินไปหรือไม่ ผิดปกติหรือไม่
  • ตรวจปัสสาวะ หากคุณแม่มีน้ำตาลในปัสสาวะมากอาจแสดงถึงโรคเบาหวาน ต้องทำการเจาะเลือดเพื่อหาเบาหวานต่อไป
  • วัดความดันโลหิต หากความดันโลหิตสูงผิดปกติ อาจเป็นจุดเริ่มแรกของครรภ์เป็นพิษ แต่หากความดันโลหิตต่ำมักไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
  • ตรวจฟัน หากคุณแม่มีฟันผุต้องรีบอุดเสียก่อนปล่อยให้อักเสบเรื้อรัง อาจมีผลให้อวัยวะอื่นๆ อักเสบตามไปด้วย
  • ตรวจต่อมไทรอยด์ โดยทั่วไป หญิงตั้งครรภ์ปกติจะมีต่อมไทรอยด์โตเล็กน้อย หากโตมาก ต่อมไทรอยด์อาจเป็นพิษได้
  • ฟังเสียงหัวใจและปอด หากพบสิ่งผิดปกติ คุณหมออาจให้การรักษาหรือปรึกษาแพทย์เฉพาะทางต่อไป
  • ตรวจครรภ์ เพื่อดูว่าขนาดหรือระดับมดลูกสัมพันธ์กับอายุครรภ์หรือไม่ มีก้อนเนื้อผิดปกติในท้องหรือไม่
    หากไม่มีความผิดปกติ คุณหมอก็จะให้ยาบำรุง ได้แก่ วิตามินบีรวม และธาตุเหล็กมาบำรุงคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
  • ตรวจขา เพื่อดูเส้นเลือดขอด ซึ่งทำให้เลือดไหลกลับไปหัวใจไม่สะดวก หากเป็นมากเส้นเลือดอาจอุดตัน ทำให้ขาบวม หรืออาจเป็นอันตรายหากก้อนเลือดที่อุดตันหลุดเข้าไปในกระแสเลือด
  • ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ เจาะเลือดเพื่อหาว่าเลือดจางหรือไม่ ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส โรคเอดส์ โรคตับอักเสบไวรัสบี ภูมิต้านทานหัดเยอรมัน

การตรวจนี้โรงพยาบาลบางแห่งอาจตรวจให้ในครั้งแรก แล้วนัดไปตรวจท้อง รวมถึงดูผลตรวจเลือดและปัสสาวะอีกครั้งใน 1-2 สัปดาห์ บางแห่งก็ตรวจท้องก่อน แล้วจึงเจาะเลือดและตรวจปัสสาวะ โดยจะนัดฟังผลใน 1-2 สัปดาห์ เช่นกัน

 

ที่มา: 1

 

บทความจากพันธมิตร
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

อาหารคนท้อง แต่ละไตรมาส คนท้อง ควรกินกี่มื้อ กับข้าวแม่ท้อง กินบำรุงทารกในครรภ์ ทุกไตรมาส

ประกันสังคม เพิ่มค่าฝากครรภ์ 1 พันบาท แม่ท้องต้องทำยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง

ฝากครรภ์พิเศษ ต่างจาก ฝากครรภ์ธรรมดาอย่างไร ฝากครรภ์ต้องตรวจอะไรบ้าง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Khunsiri

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • คนท้องเริ่มฝากครรภ์ได้เมื่อไหร่ ฝากท้องกี่เดือน จำเป็นต้องฝากครรภ์ไหม?
แชร์ :
  • เงินเด็กแรกเกิดกับเงินสงเคราะห์บุตร ต่างกันมั๊ย ได้เมื่อไหร่ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

    เงินเด็กแรกเกิดกับเงินสงเคราะห์บุตร ต่างกันมั๊ย ได้เมื่อไหร่ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

  • ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

    ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • เงินเด็กแรกเกิดกับเงินสงเคราะห์บุตร ต่างกันมั๊ย ได้เมื่อไหร่ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

    เงินเด็กแรกเกิดกับเงินสงเคราะห์บุตร ต่างกันมั๊ย ได้เมื่อไหร่ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

  • ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

    ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปให้กับคุณ