คนท้องห้ามกินยาอะไรบ้าง ? ท้องอยู่กินยาแก้อักเสบได้ไหม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ความเจ็บป่วย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ยิ่งผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ยิ่งเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย หรือมีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งหลายครั้งที่แม่ท้องก็มักจะซื้อยามากินเอง โดยที่หารู้ไม่ว่าในช่วงตั้งครรภ์นั้น ไม่ควรซื้อยามากินเองหากไม่ได้ปรึกษาคุณหมอโดยเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกในท้องแบบคาดไม่ถึงได้ คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่า คนท้องห้ามกินยาอะไรบ้าง คนท้องกินยาแก้อักเสบได้ไหม พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่า

 

ยาที่คนท้องห้ามกินเด็ดขาด !

1. ยาแก้ปวด ลดไข้

ในช่วงท้องอ่อน ๆ คุณแม่กินยาแก้ปวด ลดไข้อย่างเช่น แอสไพริน (Aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้ถึง 5-6 เท่า และหากกินตอนใกล้คลอด ก็อาจจะไปยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือดของทารกในครรภ์ ทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้ นอกจากนี้ยาแอสไพริน (รวมถึงยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) ยังมีผลทำให้คุณแม่คลอดเกินกำหนดและคลอดยากขึ้นอีกด้วย

 

2. ยาแก้คัน แก้แพ้

ยาแก้แพ้ แก้คัน อย่างเช่น คลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine) นอกจากแก้คัน แก้แพ้แล้ว ยังช่วยลดน้ำมูกด้วย ซึ่งถ้าใช้เพียงชั่วคราว ก็อาจจะไม่ส่งผลต่อแม่ท้องมากนัก แต่ถ้าใช้ติดต่อกันไปนาน ๆ ก็จะทำให้เกล็ดเลือดต่ำ อาจส่งผลให้ลูกที่เกิดมามีอาการเลือดไหลผิดปกติ และยาแก้แพ้บางชนิดก็อาจทำให้ทารกเกิดความพิการแต่กำเนิดได้ด้วย

 

3. ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบ

ยาบางชนิดในกลุ่มนี้ จะส่งผลต่อการสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อยโดยตรง อาจส่งผลให้การเจริญเติบโตของกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ และพัฒนาการสมองผิดปกติ ถ้าแม่ท้องทานยากลุ่มนี้ในช่วงที่มีอายุครรภ์ระหว่าง 6 – 8 เดือน อาจมีผลทำให้เด็กมีกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ ฟันเป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาล นอกจากนี้ถ้าใช้ในปริมาณที่สูงมาก จะเกิดการทำลายตับของคุณแม่อย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ยาที่ทำให้ลูกหูตึง หูหนวก และทำให้ประสาทเกี่ยวกับการได้ยินเสียไปบางส่วน ได้แก่ สเตรปโตมัยชิน (Streptomycin), กานามัยซิน (Kanamycin), เจนตามัยซิน (Gentamicin) และ ซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamides) ซึ่งหากคุณแม่ทานยาเหล่านี้ขณะตั้งครรภ์ 2 – 3 สัปดาห์ เวลาที่คลอดออกมาอาจทำให้ลูกน้อยตัวเหลืองได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินคนท้อง ยา อาหารเสริม จำเป็นแค่ไหนสำหรับแม่ตั้งครรภ์ อะไรบ้างที่ห้ามกิน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

4. ยานอนหลับ ยาคลายเครียด

ยานอนหลับ และยาคลายเครียด เช่น อัลปราโซแลม, ไดอาซีแพม อาจทำให้ทารกมีอาการปากแหว่งเพดานโหว่ได้ นอกจากไม่ควรกินตอนท้องแล้ว ยังควรหยุดใช้ยาก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3-6 เดือน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. ยารักษาผมร่วง

ยาแก้ผมร่วง เช่น ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) อาจส่งผลทำให้อวัยวะเพศของทารกในครรภ์ผิดปกติได้

 

6. ยาสเตียรอยด์ทุกชนิด (Steroid)

ยาสเตียรอยด์ส่งผลทำให้มีโอกาสการแท้งบุตรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตไม่ดี หรืออาจทำให้เด็กในครรภ์มีความพิการแต่กำเนิด เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ นอกจากนี้ยาสเตียรอยด์บางชนิดยังมีผลทำให้ทารกเพศหญิงมีลักษณะของเพศชายอีกด้วย

 

7. ยารักษาสิว

ยารักษาสิวบางตัว มีอนุพันธ์ของวิตามินเอที่สามารถสะสมในร่างกาย หากมีแผนที่จะตั้งครรภ์ต้องหยุดทานวิตามินเอ หรืออนุพันธ์ของวิตามินเออย่างน้อย 3 เดือนถึง 1 ปี และหากแม่ท้องทานยาที่ใช้รักษาสิวหัวช้าง และสิวชนิดรุนแรง ยาดังกล่าวก็อาจจะมีผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง โดยอาจทำให้ลูกน้อยพิการแต่กำเนิดได้ ถึงแม้ว่าทารกที่คลอดออกมาจะดูปกติก็ตาม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

8. ยาแก้อาเจียนหรือยาแก้แพ้ท้อง

ยาประเภทนี้ควรให้คุณหมอเป็นผู้สั่งยาเท่านั้น แม่ท้องไม่ควรซื้อมารับประทานเอง เพราะยาแก้อาเจียนบางชนิดอาจทำให้ทารกเกิดความพิการแต่กำเนิดได้

 

9. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร

ถ้าแม่ท้องกินยาลดกรดชนิดที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium hydroxide) มาก ๆ ขนาดสูง ๆ ติดต่อกันเป็นประจำ ก็อาจทำให้แม่ท้องเกิดอาการท้องเสีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ และอาจทำให้เด็กแรกเกิดมีปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมในเลือดสูงจนเกิดอาการชักกระตุกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาสามัญประจำบ้านที่คนท้องควรมี ยาที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

 

 

ยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์

ยารักษาสิว Isotretinoin
ยารักษาโรคมาเลเรีย Quinine
ยารักษาไมเกรน Ergotamine tartrate Dihydroergotamine
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด Warfarin
ยานอนหลับ Estazolam Temazepam
Flurazepam Triazolam
ยาลดไขมันในเลือด Atorvastatin Pravastain
Cerivastain Rosuvastatin
Fluvastain Slimvastain
Lovastatin
ยาฮอร์โมน Clomiphene Fluoxymesterone Megestrol
Chorionic gonadotrophin Follitropin alfa Mestranol
Desogestrel Follitropin beta Methyltestosterone
Danazol Ganirelix Nafarelin
Diethylstillbestrol Gestodene Norethisterone
Dienestrol Goserelin Norgestrel
Estradiol Leuprorelin Oxandeolone
Esteone Levonorgestrel Testosterone
Ethinyl estradiol Medroxyprogesterone Urofollitropin
ยาเคมีบำบัด , ยาต้านมะเร็ง Bicalutamide Fluorouracil Methotrexate
ยากลุ่มอื่น ๆ Actitretin Fluorescein Oxytocin
Alprostadil Leflunomide Raloxifene
Bosentan Misoprostol Ribavirin
Dutasteride Nandeolone Thalidomide
Ergometrine Nicotine
Finasteride Oxymetholone

 

คนท้องใช้ยาอะไรได้บ้าง ?

  • พาราเซตามอล เมื่อปวดหัว หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • ยาช่วยย่อยอาหาร ยาเคลือบกระเพาะ

 

ยาทาภายนอกมีผลต่อทารกในครรภ์หรือไม่ ?

โดยทั่วไปแล้วยาทาภายนอกจะออกฤทธิ์เฉพาะบริเวณที่เราทา การดูดซึมเข้ากระแสเลือดค่อนข้างต่ำ จึงมีโอกาสน้อยที่จะส่งผลต่อทารกในครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรประมาท ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงจะดีที่สุด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ถ้าคุณแม่รู้ตัวว่ากินยาอะไรในช่วงก่อนการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ หรือยาอะไรก็แล้วแต่ที่คุณแม่รับประทานอยู่ สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ รีบไปฝากครรภ์ และแจ้งคุณหมอที่ดูแลว่าได้กินยาตัวไหนในช่วงก่อนตั้งครรภ์อยู่ เพื่อที่คุณหมอจะได้ติดตามและประเมินผลต่อไป นอกจากนี้แล้ว ขอให้นึกเสมอว่าคุณกำลังตั้งครรภ์และไม่ควรใช้ยาใด ๆ ทั้งสิ้นโดยไม่ปรึกษาคุณหมอก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกในท้องค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ไขข้อข้องใจให้แม่ท้อง คนท้องกินยาแก้ปวดท้องได้ไหม ?

ยาแต้มสิวคนท้อง ยารักษาสิวแบบไหนที่คนท้องใช้ได้ หรือห้ามใช้

ยาที่คนท้องห้ามใช้ ยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ข้อควรระวังการใช้ยาของคนท้อง

แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับยาที่คนท้องห้ามกิน ได้ที่นี่!

คนท้องกินยาแก้อักเสบได้ไหม แล้วมียาชนิดไหนที่ไม่ควรทานบ้างคะ

ที่มา : medthai

บทความโดย

P.Veerasedtakul