ความเจ็บป่วย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ยิ่งผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ยิ่งเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย หรือมีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งหลายครั้งที่แม่ท้องก็มักจะซื้อยามากินเอง โดยที่หารู้ไม่ว่าในช่วงตั้งครรภ์นั้น ไม่ควรซื้อยามากินเองหากไม่ได้ปรึกษาคุณหมอโดยเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกในท้องแบบคาดไม่ถึงได้ คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่า คนท้องห้ามกินยาอะไรบ้าง คนท้องกินยาแก้อักเสบได้ไหม พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่า
ยาที่คนท้องห้ามกินเด็ดขาด !
1. ยาแก้ปวด ลดไข้
ในช่วงท้องอ่อน ๆ คุณแม่กินยาแก้ปวด ลดไข้อย่างเช่น แอสไพริน (Aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้ถึง 5-6 เท่า และหากกินตอนใกล้คลอด ก็อาจจะไปยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือดของทารกในครรภ์ ทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้ นอกจากนี้ยาแอสไพริน (รวมถึงยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) ยังมีผลทำให้คุณแม่คลอดเกินกำหนดและคลอดยากขึ้นอีกด้วย
2. ยาแก้คัน แก้แพ้
ยาแก้แพ้ แก้คัน อย่างเช่น คลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine) นอกจากแก้คัน แก้แพ้แล้ว ยังช่วยลดน้ำมูกด้วย ซึ่งถ้าใช้เพียงชั่วคราว ก็อาจจะไม่ส่งผลต่อแม่ท้องมากนัก แต่ถ้าใช้ติดต่อกันไปนาน ๆ ก็จะทำให้เกล็ดเลือดต่ำ อาจส่งผลให้ลูกที่เกิดมามีอาการเลือดไหลผิดปกติ และยาแก้แพ้บางชนิดก็อาจทำให้ทารกเกิดความพิการแต่กำเนิดได้ด้วย
3. ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบ
ยาบางชนิดในกลุ่มนี้ จะส่งผลต่อการสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อยโดยตรง อาจส่งผลให้การเจริญเติบโตของกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ และพัฒนาการสมองผิดปกติ ถ้าแม่ท้องทานยากลุ่มนี้ในช่วงที่มีอายุครรภ์ระหว่าง 6 – 8 เดือน อาจมีผลทำให้เด็กมีกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ ฟันเป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาล นอกจากนี้ถ้าใช้ในปริมาณที่สูงมาก จะเกิดการทำลายตับของคุณแม่อย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ยาที่ทำให้ลูกหูตึง หูหนวก และทำให้ประสาทเกี่ยวกับการได้ยินเสียไปบางส่วน ได้แก่ สเตรปโตมัยชิน (Streptomycin), กานามัยซิน (Kanamycin), เจนตามัยซิน (Gentamicin) และ ซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamides) ซึ่งหากคุณแม่ทานยาเหล่านี้ขณะตั้งครรภ์ 2 – 3 สัปดาห์ เวลาที่คลอดออกมาอาจทำให้ลูกน้อยตัวเหลืองได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินคนท้อง ยา อาหารเสริม จำเป็นแค่ไหนสำหรับแม่ตั้งครรภ์ อะไรบ้างที่ห้ามกิน
4. ยานอนหลับ ยาคลายเครียด
ยานอนหลับ และยาคลายเครียด เช่น อัลปราโซแลม, ไดอาซีแพม อาจทำให้ทารกมีอาการปากแหว่งเพดานโหว่ได้ นอกจากไม่ควรกินตอนท้องแล้ว ยังควรหยุดใช้ยาก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3-6 เดือน
5. ยารักษาผมร่วง
ยาแก้ผมร่วง เช่น ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) อาจส่งผลทำให้อวัยวะเพศของทารกในครรภ์ผิดปกติได้
6. ยาสเตียรอยด์ทุกชนิด (Steroid)
ยาสเตียรอยด์ส่งผลทำให้มีโอกาสการแท้งบุตรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตไม่ดี หรืออาจทำให้เด็กในครรภ์มีความพิการแต่กำเนิด เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ นอกจากนี้ยาสเตียรอยด์บางชนิดยังมีผลทำให้ทารกเพศหญิงมีลักษณะของเพศชายอีกด้วย
7. ยารักษาสิว
ยารักษาสิวบางตัว มีอนุพันธ์ของวิตามินเอที่สามารถสะสมในร่างกาย หากมีแผนที่จะตั้งครรภ์ต้องหยุดทานวิตามินเอ หรืออนุพันธ์ของวิตามินเออย่างน้อย 3 เดือนถึง 1 ปี และหากแม่ท้องทานยาที่ใช้รักษาสิวหัวช้าง และสิวชนิดรุนแรง ยาดังกล่าวก็อาจจะมีผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง โดยอาจทำให้ลูกน้อยพิการแต่กำเนิดได้ ถึงแม้ว่าทารกที่คลอดออกมาจะดูปกติก็ตาม
8. ยาแก้อาเจียนหรือยาแก้แพ้ท้อง
ยาประเภทนี้ควรให้คุณหมอเป็นผู้สั่งยาเท่านั้น แม่ท้องไม่ควรซื้อมารับประทานเอง เพราะยาแก้อาเจียนบางชนิดอาจทำให้ทารกเกิดความพิการแต่กำเนิดได้
9. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
ถ้าแม่ท้องกินยาลดกรดชนิดที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium hydroxide) มาก ๆ ขนาดสูง ๆ ติดต่อกันเป็นประจำ ก็อาจทำให้แม่ท้องเกิดอาการท้องเสีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ และอาจทำให้เด็กแรกเกิดมีปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมในเลือดสูงจนเกิดอาการชักกระตุกได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาสามัญประจำบ้านที่คนท้องควรมี ยาที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก
ยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์
ยารักษาสิว | Isotretinoin | ||
ยารักษาโรคมาเลเรีย | Quinine | ||
ยารักษาไมเกรน | Ergotamine tartrate | Dihydroergotamine | |
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด | Warfarin | ||
ยานอนหลับ | Estazolam | Temazepam | |
Flurazepam | Triazolam | ||
ยาลดไขมันในเลือด | Atorvastatin | Pravastain | |
Cerivastain | Rosuvastatin | ||
Fluvastain | Slimvastain | ||
Lovastatin | |||
ยาฮอร์โมน | Clomiphene | Fluoxymesterone | Megestrol |
Chorionic gonadotrophin | Follitropin alfa | Mestranol | |
Desogestrel | Follitropin beta | Methyltestosterone | |
Danazol | Ganirelix | Nafarelin | |
Diethylstillbestrol | Gestodene | Norethisterone | |
Dienestrol | Goserelin | Norgestrel | |
Estradiol | Leuprorelin | Oxandeolone | |
Esteone | Levonorgestrel | Testosterone | |
Ethinyl estradiol | Medroxyprogesterone | Urofollitropin | |
ยาเคมีบำบัด , ยาต้านมะเร็ง | Bicalutamide | Fluorouracil | Methotrexate |
ยากลุ่มอื่น ๆ | Actitretin | Fluorescein | Oxytocin |
Alprostadil | Leflunomide | Raloxifene | |
Bosentan | Misoprostol | Ribavirin | |
Dutasteride | Nandeolone | Thalidomide | |
Ergometrine | Nicotine | ||
Finasteride | Oxymetholone |
คนท้องใช้ยาอะไรได้บ้าง ?
- พาราเซตามอล เมื่อปวดหัว หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ยาช่วยย่อยอาหาร ยาเคลือบกระเพาะ
ยาทาภายนอกมีผลต่อทารกในครรภ์หรือไม่ ?
โดยทั่วไปแล้วยาทาภายนอกจะออกฤทธิ์เฉพาะบริเวณที่เราทา การดูดซึมเข้ากระแสเลือดค่อนข้างต่ำ จึงมีโอกาสน้อยที่จะส่งผลต่อทารกในครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรประมาท ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงจะดีที่สุด
ถ้าคุณแม่รู้ตัวว่ากินยาอะไรในช่วงก่อนการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ หรือยาอะไรก็แล้วแต่ที่คุณแม่รับประทานอยู่ สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ รีบไปฝากครรภ์ และแจ้งคุณหมอที่ดูแลว่าได้กินยาตัวไหนในช่วงก่อนตั้งครรภ์อยู่ เพื่อที่คุณหมอจะได้ติดตามและประเมินผลต่อไป นอกจากนี้แล้ว ขอให้นึกเสมอว่าคุณกำลังตั้งครรภ์และไม่ควรใช้ยาใด ๆ ทั้งสิ้นโดยไม่ปรึกษาคุณหมอก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกในท้องค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ไขข้อข้องใจให้แม่ท้อง คนท้องกินยาแก้ปวดท้องได้ไหม ?
ยาแต้มสิวคนท้อง ยารักษาสิวแบบไหนที่คนท้องใช้ได้ หรือห้ามใช้
ยาที่คนท้องห้ามใช้ ยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ข้อควรระวังการใช้ยาของคนท้อง
แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับยาที่คนท้องห้ามกิน ได้ที่นี่!
คนท้องกินยาแก้อักเสบได้ไหม แล้วมียาชนิดไหนที่ไม่ควรทานบ้างคะ
ที่มา : medthai