กลูต้าไธโอน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ช่วยให้ผิวขาวได้จริงหรือไม่ !?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เชื่อเลยว่าคนที่รักสุขภาพ ชอบความสวยความงาม ชอบการดูแลบำรุงตัวเอง หนึ่งในการดูแลที่ขาดไม่ได้ก็คือการรับประทานวิตามิน อาหารเสริม โดยเฉพาะวิตามินและอาหารเสริมที่ช่วยในเรื่องของการดูแล บำรุง ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสดใส เปล่งปลั่ง และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวที่คล้ำโทรมก็คือ ‘กลูต้าไธโอน’ วันนี้ TAP จึงอยากมาแนะนำว่า กลูต้าไธโอน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงหรือไม่ !? มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

 

กลูต้าไธโอน คืออะไร ?

 

 

กลูต้าไธโอน (Glutathione) คือสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งกลูต้าไธโอนจะสามารถแยกย่อยออกเป็นกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ ซีสเตอีน (Cysteine), ไกลซีน (Glycine) และ กลูตามิก (Glutamic) โดยอวัยวะภายในของร่างกายที่สามารถผลิตกลูต้าไธโอนได้มากที่สุด คือ ตับ ไต ม้าม รวมถึงเลนส์แก้วตา และกลูต้าไธโอน (Glutatjione) ยังเป็นสาระสำคัญที่จะช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TIPS by TAP : แต่สิ่งที่ควรรู้ก็คือ.. เมื่ออายุมากขึ้นกลไกการผลิตกลูต้าไธโอนตามธรรมชาติของร่างกายจะผลิตกลูต้าได้น้อยลงส่งผลให้ร่างกาย สุขภาพ และผิวพรรณเสื่อมโทรมลงตามวัย

และคุณสมบัติเด่นของกลูต้าไธโอน (Glutathione) ที่หลายคนนิยมรับประทานและอยากได้ผลลัพธ์จากการกินก็คือเรื่องของสุขภาพผิวพรรณที่มีความขาวกระจ่างใสเปล่งปลั่งมีออร่า เนื่องจากว่ากลูต้าไธโอนเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งจะทำให้เม็ดสีในร่างกายขาวขึ้น และส่งผลให้ผิวพรรณค่อย ๆ ขาวขึ้น กระจ่างใส เปล่งปลั่งมีออร่านั่นเองค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

กลูต้าไธโอน มีประโยชน์อย่างไร ?

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. ฟื้นฟูผิวให้ขาวกระจ่างใส

เชื่อว่าถ้าพูดถึง กลูต้าไธโอน (Glutathione) คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงสรรพคุณและจุดเด่นข้อนี้เป็นอันดับต้น ๆ นั่นก็คือเรื่องการทำให้ผิวขาวกระจ่างใสเปล่งปลั่งมีออร่า เพราะว่ากลูต้าไธโอนเป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมในการนำไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อผิวขาว รวมถึงผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม อาทิ เช่น ครีมบำรุงผิวหน้า เซรั่ม ครีมบำรุงผิวกาย เนื่องจากกลูต้าไธโอน (Glutathione) มีคุณสมบัติในการเข้าไปยับยั้งการสร้างเอนไซม์ที่มีชื่อว่าไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จะสร้างเม็ดสีเมลานินที่ทำให้ผิวเกิดปัญหาความหมองคล้ำ ผิวโทรม เมื่อกลูต้าไธโอนเข้าไปยับยั้งการสร้างเอนไซม์จึงทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูให้ขาวกระจ่างใสนั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 Galactomyces ยี่ห้อไหนดี บำรุงผิวให้แข็งแรง ชุ่มชื้น กระจ่างใส ผิวเรียบเนียน

 

2. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

กลูต้าไธโอน (Glutathione) เป็นสารที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะออกฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายให้มีความแข็งแรง อาทิ เช่น

  • กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด
  • เสริมประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ และ ปอด
  • ปกป้องเซลล์ประสาท
  • ป้องกันการเสื่อมสภาพของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย

ซึ่งปัจจัยจากอนุมูลอิสระภายนอกที่ต้องเจอในแต่ละวันทั้งฝุ่น ควัน แสงแดด มลภาวะ เป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายมีการเสื่อมสภาพลง ดังนั้นกลูต้าไธโอนจึงเป็นสารที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกายทั้งภายใน และ ภายนอก อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม ป้องกันความเสื่อมของดวงตา รวมถึงความเสื่อมโทรมของผิวพรรณ ริ้วรอยต่าง ๆ ได้อีกด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

3. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

นอกจากสรรพคุณในเรื่องของการฟื้นฟู ดูแล บำรุงผิวพรรณ และช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กลูต้าไธโอน (Glutathione) ยังสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีความแข็งแรง ซึ่งกลูต้าไธโอนจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่าง ๆ ไวรัส และ แบคทีเรีย รวมถึงสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายทั้งจากการรับประทานอาหาร อากาศ มลภาวะต่าง ๆ ที่มีส่วนทำให้ร่างกายเกิดการเสื่อมโทรม และ เจ็บป่วย

 

4. ดีท็อกซ์สารพิษ

สำหรับคนที่ทานวิตามินและอาหารเสริมเยอะ ๆ ทานเป็นประจำต้องทราบดีอยู่แล้วว่าวิตามิน หรือ อาหารเสริมบางประเภทจะตกค้างอยู่ภายในร่างกายส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักในการขับสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย ซึ่งการทานอาหารเสริมกลูต้าไธโอนจะช่วยเข้าไปล้างสารพิษ สิ่งแปลกปลอมภายในร่างกายโดยเฉพาะตับที่ต้องทำงานหนัก ช่วยดีท็อกซ์และขับสารพิษให้ออกมาง่ายขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีของตับ

TIPS by TAP : การรับประทานวิตามิน และ อาหารเสริม ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 2 – 3 เดือน และให้หยุดพักการรับประทานอาหารเสริมเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ร่างกายได้พัก และขับสารที่ไม่จำเป็นออก หลังจากนั้นจึงกลับมาทานเหมือนเดิม และเว้นระยะการทานอีกครั้งเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ป้ายยา ! 10 มาส์กโคลน ช่วยลดสิว ดีท็อกซ์ผิว กระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน

 

กลูต้าไธโอน ช่วยให้ผิวขาวได้จริงหรือไม่ ?

อย่างที่ได้ทราบไปแล้วว่า กลูต้าไธโอน (Glutathione) มีสรรพคุณในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวหมองคล้ำเสื่อมโทรม ดังนั้นถ้าหากร่างกายได้รับกลูต้าไธโอนในปริมาณที่พอเหมาะก็จะสามารถช่วยฟื้นฟูกู้สภาพผิวที่มีความหมองคล้ำ ผิวโทรม ผิวไม่สดใสให้กลับมาขาวกระจ่างใส ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีออร่าได้จริง ! แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลา ปริมาณกลูต้าที่รับประทาน ยี่ห้อของกลูต้าที่เลือกรับประทาน และการตอบสนองของร่างกายในแต่ละบุคคลที่มีความแตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ

 

 

ข้อควรรู้ในการทานกลูต้าไธโอน

การรับประทานกลูต้าไธโอน (Glutathione) ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ คือ 250 mg ต่อวัน ซึ่งการรับประทานกลูต้าไธโอนในปริมาณดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้เกิดความอันตรายต่อร่าง และ สุขภาพ มีความเหมาะสมที่ร่างกายสามารถรับได้ แต่ถ้าหากรับประทานมากกว่านี้อาจจะส่งผลให้ร่างกายทำงานหนักและอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้นั่นเองค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ทีนี้คำถามที่หลายคนสงสัยว่า กลูต้าไธโอน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงหรือไม่.. ก็น่าจะคลายข้อสงสัยได้ทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าทานกลูต้าไธโอนก็ควรเลือกซื้อโดยการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีทั้งข้อดีถ้าเลือกถูกแต่ก็สามารถเป็นโทษได้ถ้าหากเลือกผิด ดังนั้นเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ มีการรับรอง เพื่อสุขภาพที่ดีไม่ทำร้ายร่างกายในภายหลังนั่นเองค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

10 Astaxanthin ยี่ห้อไหนดี วิตามินชะลอวัย ต้านริ้วรอยเหี่ยวย่น

ชี้เป้า 10 วิตามินแก้ผมร่วง ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดผมหลุดร่วง พร้อมบำรุงให้ผมแข็งแรง!

บอกต่อ ! 10 วิตามินลดสิว ตัวช่วยผิวใส หน้าไกลสิว กู้ผิวหน้าพังให้กลับมาปัง

ที่มา : thrivewellnessth

บทความโดย

Prawit Kaewsuwan