6 ข้อห้ามคนท้องอ่อน ข้อห้ามคนท้อง ระวังให้ดี ก่อนเผลอทำร้ายลูกในครรภ์

ข้อห้ามคนท้อง ข้อห้ามคนท้องอ่อน หรือในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์นั้น เป็นเรื่องสำคัญที่แม่ท้องต้องใส่ใจ เพราะช่วงแรกของการตั้งครรภ์นั้น เป็นช่วงที่ลูกน้อยในครรภ์เริ่มเจริญเติบโต และเริ่มพัฒนาอวัยวะต่าง ๆ แม่ท้องจึงควรระมัดระวังในการดำเนินชีวิตให้มาก ๆ เรามาดูกันว่า ข้อห้ามคนท้องอ่อน หรือ ข้อห้ามคนท้อง จะมีอะไรบ้าง ข้อห้ามของคนท้อง เหล่านี้มีความอันตรายมากแค่ไหน

คนท้องห้ามทําอะไร ข้อห้ามคนท้องอ่อน ไตรมาสแรก ต้องระวังอะไรบ้าง

คนท้องในแต่ละไตรมาสมีเรื่องควรระวังที่ต้องรู้เนื่องจากบางข้ออาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น ไปจนถึงเรื่องของสภาวะอารมณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้

1. หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงไม่สุก 

ข้อห้ามคนท้อง อาหารที่ปรุงไม่สุกนั้น เป็นหนึ่งใน ข้อห้ามคนท้องอ่อน เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย และอาจมีพยาธิซึ่งทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ เมื่อแม่ท้องทานเนื้อสัตว์สุก ๆ ดิบ ๆ เข้าไป เช่น สเต๊กที่ไม่สุก หรือลาบดิบ ก็อาจทำให้แม่ท้องเสีย หรือปวดท้องได้

2. ระวังการใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ คนท้องห้ามทําอะไร ข้อห้ามคนท้อง

แม่ท้องควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งเท่านั้น ข้อห้ามคนท้อง หากไม่จำเป็นไม่ควรหายามาทานเอง อีกทั้งหากต้องซื้อยา แม่ท้องต้องแจ้งทุกครั้งว่ากำลังตั้งครรภ์ พร้อมทั้งบอกด้วยว่าอายุครรภ์กี่สัปดาห์ เนื่องจากยาบางชนิดอาจส่งผลทำให้ลูกน้อยในครรภ์พิการ โตช้า หรืออาจเสียชีวิตในครรภ์ได้ โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก

หากก่อนหน้าที่จะตั้งครรภ์นั้น แม่ท้องกินยาอย่างเช่น ยาแก้สิว ยาแก้ปวดท้อง หรืออาหารเสริมต่าง ๆ คุณแม่ควรนำยาที่กินไปปรึกษาคุณหมอว่ายังกินต่อไปได้หรือไม่ เพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง

 

3. หลีกเลี่ยงบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

สารนิโคตินในบุหรี่ เป็น ข้อห้ามคนท้อง เพราะสิ่งนี้สามารถส่งผ่านไปยังทารกทางรกได้ ซึ่งจะเข้าไปกดการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมการหายใจ และการเต้นของหัวใจ ไม่ว่าจะมาจากการที่แม่ท้องสูบบุหรี่เอง หรือได้รับควันพิษจากควันบุหรี่มือสองก็ตาม

ควันบุหรี่ที่ส่งผ่านไปยังลูกน้อย จะส่งผลให้ลูกคลอดออกมาตัวเล็กกว่าปกติ น้ำหนักน้อย หัวใจเต้นเร็วกว่าเด็กปกติ มักจะเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และอาจทำให้เกิดความพิการรุนแรง หรือมีพัฒนาการทางสติปัญญาช้า เหมือนเด็กปัญญาอ่อน

และหากแม่ท้องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ แอลกอฮอล์ก็จะไปทำลายเซลล์ประสาท ทำให้ทารกมีปัญหาการเจริญเติบโต มีปัญหาด้านความจำ และนอกจากนั้นยังทำให้เด็กทารกมีร่างกายที่ผิดปกติ สายตาสั้น จมูกแบน ปลายจมูกเชิดขึ้น บริเวณส่วนกลางใบหน้ามีการพัฒนาน้อยกว่าปกติ ซึ่งเป็นกลุ่มอาการเฉพาะของทารกที่เกิดจากมารดาดื่มแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า Fetal alcohol syndrome

 

4. ข้อห้ามคนท้อง ห้ามอดอาหาร

การลดน้ำหนัก และการอดอาหารนั้น คนท้องห้ามทําอะไร ถือเป็นอีกข้อห้ามคนท้องอ่อน หากคุณหมอไม่ได้แนะนำว่าต้องจำกัดอาหาร ก็ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ที่ได้รับสารอาหารครบถ้วน และเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันของร่างกาย

ผลจากการวิจัยพบว่า แม่ท้องที่อดอาหารมีอัตราคลอดก่อนกำหนดสูง และการอดอาหารส่งผลทำให้สมองของทารกพิการ เนื่องจากขาดสารอาหารที่จะช่วยบำรุงสมองของทารก ซึ่งลูกน้อยควรจะได้รับการบำรุงในขณะที่ยังอยู่ในครรภ์อย่างเต็มที่

5. หลีกเลี่ยงการซาวน่า

ข้อห้ามคนท้อง การซาวน่ามีความเสี่ยงกับแม่ท้องเนื่องจากความร้อนทำให้ร่างกายขาดน้ำ และเกลือแร่ที่จำเป็น ส่งผลให้เลือดข้น มีโอกาสที่จะเกิดการอุดตันของเส้นเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงทารกในครรภ์น้อยลง ทำให้เจริญเติบโตไม่เต็มที่ และอาจส่งผลเสียจนถึงขั้นแท้งบุตรได้

 

6. ห้ามเครียด

ความเครียดของแม่ท้องจะไปกระตุ้นการผลิตสารเคมีและฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายที่ทำให้หลอดเลือดแคบลง เกิดอาการขาดออกซิเจนไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด และทำให้เด็กมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์

นอกจากนี้แล้ว ความเครียดสามารถส่งผ่านไปยังลูกน้อยในครรภ์ได้ เมื่อลูกได้รับความเครียด สมองก็จะสั่งการให้เตรียมพร้อมเพื่อตอบสนองต่อความเครียดเหล่านั้น ซึ่งหากสมองทองทารกมีการตอบสนองที่มากเกินไปก็อาจเสี่ยงที่จะเกิดโรคสมาธิสั้น หรือโรคในกลุ่มออทิสติกได้

 

วิธีคลายเครียดสำหรับคนท้อง

  • พักผ่อน : การพักผ่อน ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ ทุกคนควรจะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลับให้สนิท หรือ เรียกว่าทำให้การนอนในครั้งนั้น เป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพ ไม่ได้หลับ ๆ ตื่น ๆ หรือ ถ้าหาก คุณแม่ตั้งครรภ์ คนไหนรู้สึกอ่อนเพลียระหว่างวัน สามารถหาเวลางีบเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ 15-20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ชาร์จแบตสักเล็กน้อยก็ยังได้
  • ไปเดินห้างช้อปปิ้ง : คุณแม่ตั้งครรภ์ เองก็เหมือนกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไปการช้อปปิ้งบำบัดใช้ได้ผลเสมอสำหรับผู้หญิงอย่างเรา ๆ ถึงจะตั้งครรภ์แล้ว แต่ผู้หญิงก็ยังมีความ รักสวย รักงาม ชอบจับจ่ายใช้สอยเป็นเรื่องปกติ ลองออกไปช้อปปิ้งให้รางวัลตัวเอง ซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่ เดินดูของใช้เด็กสำหรับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาออกมาดูโลก รับรองว่าจะช่วยให้หายเครียดไปได้เยอะเลยล่ะ
  • ท่องเที่ยว : สำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ยังท้องไม่แก่มาก ยังคงเอ็นจอย กับการท่องเที่ยว เดินเที่ยวไหวอยู่ล่ะก็ การออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด สูดอากาศบริสุทธิ์ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ช่วยให้ คุณแม่ตั้งครรภ์ ผ่อนคลายจากความเครียดได้ การทำแต่งาน ใช้ชีวิตแต่ในเมือง เจอแต่มลพิษ บางทีมันก็ทำให้สุขภาพจิตเราแย่ ลองออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นอกจากจะดี กับตัวเองแล้ว ยังดีต่อลูกในท้องด้วยนะ
  • ออกกำลังกาย : การออกกำลังกาย นอกจากจะดีต่อสุขภาพของ คุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลให้หน้าท้องไม่หย่อนคล้อย ไม่อ้วนจนเกินไป คลอดง่าย หลังคลอดพุงยุบเร็วแล้ว ทุก ๆ ครั้งเวลาเราออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน หรือ สารแห่งความสุขออกมา ทำให้สามารถผ่อนคลายความเครียดได้ โดย คุณแม่ สามารถปรึกษาคุณหมอถึง วิธีการออกกำลังกายแบบต่าง ๆ ตามอายุครรภ์ได้ ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินเล่น โยคะ อย่าหักโหมจนเกิดอันตรายต่อเด็กในครรภ์

 

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในไตรมาสแรก

ความอยากอาหารเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ แต่สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าคุณจะไม่สูญเสียเป้าหมายด้านโภชนาการของคุณไปพร้อมกับเติมเต็มความอยากเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีอาหารบางอย่างที่ห้ามทานอย่างเคร่งครัดในระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ได้แก่

  • หอย และไข่ดิบ หรือไม่สุก
  • เนื้อดิบ และสัตว์ปีก
  • นมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์
  • ชีสเนื้อนุ่มเช่นบรีเฟต้าหรือบลูชีสที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ
  • ถั่วงอกดิบ
  • ผัก และผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด
  • มะละกอ
  • สับปะรด
  • องุ่นดำ
  • มะเขือ
  • กะหล่ำปลีและผักกาดหอม
  • คาเฟอีนมากเกินไป
  • อาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไปเช่นของหวานและเครื่องดื่มรสหวาน

อาหารที่ควรกินในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์

หญิงตั้งครรภ์ต้องการพลังงานประมาณ 300 แคลอรีนอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติ ต้องบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเช่นขนมปังธัญพืชพาสต้าผักถั่วและพืชตระกูลถั่วเป็นประจำ ของเหลวและไฟเบอร์ในปริมาณที่เหมาะสมจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของอาหารประจำวันของคุณเมื่อตั้งครรภ์

 

1. ผัก

สิ่งสำคัญคือต้องมีผักหลากสีประมาณสามถึงห้าเสิร์ฟ ผักโขมเป็นแหล่งกรดโฟลิกที่อุดมไปด้วยดังนั้นคุณควรพยายามรวมไว้ในอาหารประจำวันของคุณ บร็อคโคลีมีธาตุเหล็กสูงซึ่งช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงในทารกในช่วงไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามผู้หญิงที่มีภาวะพร่องไทรอยด์ควรหลีกเลี่ยงบรอกโคลี แนะนำให้ใช้ ถั่วเขียว มะเขือเทศ พริกหวานสีแดง สีเขียว และ สีเหลือง หน่อไม้ฝรั่ง และมันฝรั่งหวานสำหรับไตรมาสแรก

 

2. ผลไม้

ปริมาณผลไม้ที่แนะนำสำหรับไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์คืออย่างน้อยสามหน่วยบริโภคต่อวัน ผลไม้รสเปรี้ยวเป็นแหล่งของกรดโฟลิกที่ดีดังนั้นพยายามกินเกรปฟรุตส้ม และมะนาวหวานเป็นประจำ อะโวคาโด กล้วย ลูกแพร์ แคนตาลูป เชอร์รี่ องุ่น กัววา แอปเปิ้ล แตงโมทับทิม และมะม่วง เป็นผลไม้อื่น ๆ ที่รวมอยู่ในอาหารของคุณ

 

4. ผลิตภัณฑ์นม

เมื่อตั้งเป้าหมายว่าต้องการนมสามส่วนต่อวันคุณสามารถเลือกชีสบางชนิดได้เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีไม่เพียง แต่ยังรวมถึงแคลเซียมซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนากระดูก และกล้ามเนื้อ สามารถบริโภค โยเกิร์ต นมเปรี้ยว นมไขมันต่ำ และชีสหลากหลายชนิดได้ในช่วงไตรมาสแรก เเละควรดูว่าชีตอันไหนคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถกินได้ด้วย

 

5. โฮลเกรน

โฮลวีตข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด ลูกเดือย และข้าวเป็นเมล็ดธัญพืชบางชนิดที่รวมอยู่ในอาหารไตรมาสแรกของคุณ ถั่วเลนทิลในรูปของซุปหรือทอดสามารถทำเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของคุณในระหว่างตั้งครรภ์ได้ ธัญพืชให้พลังงานแก่ทารก และจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของรก

 

6. โปรตีน

ดูว่าคุณได้รับโปรตีนอย่างน้อยสองส่วนต่อวัน ไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมสมบูรณ์ควบคู่ไป กับผลิตภัณฑ์จากนม เช่นปลา เนื้อสัตว์ถั่ว นม และเนยถั่ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่แพ้นมหรือถั่ว

 

7. อาหารอื่น ๆ

อาการคลื่นไส้ และอาการแพ้ท้องมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ในช่วงไตรมาสแรก ดังนั้นคุณอาจต้องการเก็บรายการอาหารที่เหมาะ กับคนท้องไว้ให้พร้อม

 

ทราบกันไปแล้วว่า ในช่วงที่กำลังท้องอ่อน ๆ นั้น ต้องระวังอะไรบ้าง แม่ท้องก็อย่าลืมใส่ใจสุขภาพให้มาก ๆ เพื่อที่ลูกจะได้คลอดออกมาแข็งแรง สุขภาพดี รวมถึงสุขภาพที่ดีของคุณแม่หลังคลอดนะครับ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ท้องอ่อนเจ็บเสียวบริเวณก้นกบ ยิ่งท้องแก่ ยิ่งปวดก้นกบมาก แบบนี้ปกติไหม

อาหารคนท้องอ่อน แบบไหนบำรุง แบบไหนแสลง อะไรห้ามกิน อะไรกินได้

ตั้งชื่อลูก พร้อมความหมาย ตามวันเกิด ใช้ได้ทั้งลูกชายลูกสาว

ที่มาอ้างอิง : parenting.firstcry

บทความโดย

P.Veerasedtakul