การกินยาเพื่อคุมกำเนิด คือวิธียอดนิยมที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้ ทั้งคนที่ยังไม่อยากมีลูก รวมไปถึงคุณแม่ที่มีลูกแล้ว และยังไม่อยากมีเพิ่ม แต่ปัญหาที่พบมากที่สุดในการกินยาคุมกำเนิดก็คือ “ลืมกิน” ทำให้ประสิทธิภาพของการใช้ยาที่จำเป็นต้องกินให้ตรงเวลาและกินทุกวันนั้น ลดน้อยลง ยาคุมฉุกเฉิน จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญเมื่อวันแห่งการหลงลืมมาเยือน ซึ่งก็ยังมีคำถามคาใจถึง วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด 2 เม็ด ว่าต้องกินยังไงจึงจะดีที่สุด
การทำงานของยาคุมกำเนิด
การใช้ยาเพื่อคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดด้วยการใช้ฮอร์โมนมาเป็นตัวป้องกันการปฏิสนธิระหว่าง “ฟองไข่” ของฝ่ายหญิงกับ “อสุจิ” ของฝ่ายชาย โดยฮอร์โมนที่ใช้มี 2 รูปแบบ คือ ฮอร์โมนเดี่ยว หรือโปรเจสเตอโรน และฮอร์โมนรวม หรือเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งกลไกการทำหน้าที่หลัก ๆ ของยาคุมกำเนิด ได้แก่ ยับยั้งการตกไข่ เมื่อไม่มีการตกไข่ ก็จะไม่เกิดการปฏิสนธิ โดยออกฤทธิ์เฉพาะที่ คือ ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียว ยากต่อการเจาะของอสุจิ หรือทำให้ผนังโพรงมดลูกบาง ไม่เหมาะต่อการฝังตัวของตัวอ่อน
“ยาคุมฉุกเฉิน” ก็เช่นกัน… มีทั้งแบบฮอร์โมนเดี่ยว และฮอร์โมนรวม และในรูปแบบแอนติโปรเจสโตเจน ซึ่งฮอร์โมนที่ใช้ในยาคุมฉุกเฉินจะมีปริมาณค่อนข้างสูง วัตถุประสงค์ในการใช้งานจึงต้องเป็น “กรณีฉุกเฉิน” เท่านั้น
คุมกำเนิดแบบไหนที่ถือได้ว่า “ฉุกเฉิน”
สถานการณ์ที่นับได้ว่าจำเป็นต้องได้รับการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ก็คือ
- เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ
- การคุมกำเนิดตามปกติเกิดผิดพลาด เช่น ลืมกินยาคุมกำเนิดปกติ (ยาคุมฮอร์โมนรวมแบบรายเดือน) มากกว่า 2 เม็ด ใส่ถุงยางอนามัย แต่ถุงยางหลุด หรือฉีกขาด นับวันปลอดภัยพลาด ล้มเหลวในการหลั่งข้างนอก
- เลยกำหนดฉีดยาคุม ชนิด norethisterone enanthate (NET-EN) มากกว่า 2 อาทิตย์ / ชนิด depot-medroxyprogesterone acetate (DMPA) มากกว่า 4 อาทิตย์ / ชนิด combined injectable contraceptive (CIC) มากกว่า 7 วัน
ยาคุมฉุกเฉิน 7-11 มีขายไหม?
แน่นอนว่าเราชาวไทยฝากความหวังของงานแก้ขัด งานเร่งด่วน งานเฉพาะหน้า แม้กระทั่งการมองหา ยาคุมฉุกเฉิน ใน 7-11 เพราะบางพื้นที่ก็เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกกว่าร้านขายยา ก็สมฉายา ร้านสะดวกซื้อ นั่นแหละค่ะ
ซึ่งบอกได้เลยค่ะ… ไม่ว่าจะสาขาไหนคุณก็จะไม่มีวันเห็นยาคุมฉุกเฉินวางขายใน 7-11 แน่นอน (มีเฉพาะยาสามัญประจำบ้านเท่านั้นค่ะ) แต่… ใช่ว่าความหวังจะริบหรี่ เพราะหาก 7-11 สาขาที่คุณล็อกเป้าไว้มีร้านขายยา extra plus ก็สามารถ walk in เข้าไปหาซื้อยาคุมฉุกเฉิน รวมถึงสอบถาม วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด 2 เม็ด แล้วเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองได้เหมือนกัน
ยาคุมฉุกเฉิน ยี่ห้อไหนดี มีแบบไหนให้เลือกซื้อบ้าง
ยาคุมฉุกเฉินที่จำหน่ายในไทยปัจจุบัน มียาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด และแบบ 2 เม็ด โดยทั้ง 2 แบบเป็นฮอร์โมนเดี่ยว (Levonorgestrel) ในปริมาณสูง (1.5 และ 0.75 มิลลิกรัม) มียี่ห้อหรือชื่อทางการค้า คือ
- Madonna และ Madonna One เป็นยาคุมฉุกเฉินที่มีราคาประมาณ 40 บาท มีทั้งชนิด 1 เม็ด (ปริมาณฮอร์โมน Levonorgestrel 1.5 มิลลิกรัม) และ 2 เม็ด (มีปริมาณฮอร์โมน 0.75 มิลลิกรัม)
- Postinor เป็นยาคุมฉุกเฉินชนิด 2 เม็ด ราคาประมาณ 40–60 บาท
- Mary Pink ยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด ราคาประมาณ 40–60 บาท
- Maple Forte ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ราคาประมาณ 55 บาท
- Tansy ONE เป็นยาคุมฉุกเฉินชนิด 1 เม็ด ราคาประมาณ 80 บาท
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด 2 เม็ด ที่เวิร์คที่สุด
เมื่อมียาคุมฉุกเฉินไว้ในครอบครองแล้ว วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด หรือ 2 เม็ดก็ตาม ดีที่สุดคือ “กินทันที” หรือกินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังการมีเพศสัมพันธ์ เพราะประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินจะลดลงเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผ่านไป
ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด ต้องกินภายในกี่ชั่วโมง
หากกินเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ (กินแบบ 2 เม็ด ต้องกินเม็ดที่สองหลังเม็ดแรก 12 ชั่วโมง) ยาจะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75%
แต่ถ้ากินภายใน 24 ชั่วโมง พบว่ายาคุมฉุกเฉินจะให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็น 85%
ทั้งนี้ มีการศึกษาพบว่าสามารถกินยาคุมฉุกเฉินชนิด 2 เม็ด พร้อมกันครั้งเดียวได้เลยเพื่อความสะดวกและกันลืม โดยคงประสิทธิภาพเท่าเดิม เพียงแต่อาจส่งผลข้างเคียงกับบางคนที่กินยาด้วยวิธีนี้ อาทิ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนมากขึ้น และหากอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากกินยาแต่ละเม็ด จะต้องกินใหม่
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด 2 เม็ด แบบไหน ไม่ได้ผล
การกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีอาจสามารถช่วยคุมกำเนิด และป้องการการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 99% ก็จริง… แต่ความชะล่าใจ หรือความเข้าใจผิดเรื่อง “ระยะเวลา” นี่แหละคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์จากการใช้ยานั้นด้อยประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือ หลายครั้งยังมีความเข้าใจผิดคิดว่ายา 1 เม็ด คุมกำเนิดได้นาน 12 ชั่วโมง คิดว่ากินเพียงเม็ดเดียวก็พอ แล้วเก็บเม็ดที่เหลือไว้ ทั้งที่ความเป็นจริงต้องกินให้ครบโดสโดยเร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพราะการออกฤทธิ์ของยาจะมีผลในช่วงก่อนที่จะมีการฝังตัวของไข่ที่เยื่อบุโพรงมดลูกเท่านั้น หากเกิดความล่าช้าในการกินยา จนไข่ที่ผสมกับอสุจิได้ฝังตัวที่ผนังมดลูกไปแล้ว ยาคุมฉุกเฉินจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้เมื่อใช้ยาคุมฉุกเฉิน
- การกินยาคุมฉุกเฉินในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ สามารถเกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงนัก ซึ่งอาการที่พบบ่อยและไม่เป็นอันตราย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ตกขาวเป็นสีน้ำตาล ประจำเดือนอาจมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ
- หากใช้ยาคุมฉุกเฉินติดต่อกันนาน ๆ อาจเกิดผลข้างเคียงจากการได้รับฮอร์โมนสูงจนส่งให้ผลรังไข่ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดความผิดปกติ รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกด้วย ดังนั้น จึงควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเมื่อจําเป็นจริง ๆ เท่านั้น และไม่ควรเกิน 2 กล่องต่อเดือน
ยาคุมฉุกเฉิน ห้ามกินเกินกี่ครั้ง
อย่างที่บอกไปค่ะว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ควรกินเกิน 2 กล่องต่อเดือน เพราะยานี้ไม่ได้มีไว้เพื่อการคุมกำเนิดระยะยาว เมื่อกินบ่อยครั้งหรือกินติดต่อกันนาน ๆ ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินยังลดลง จนมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงในยาคุมฉุกเฉินที่สูงกว่ายาคุมกำเนิดแบบปกติถึง 2 เท่า ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น เพิ่มโอกาสเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเต้านม
จะเห็นได้ว่า ยาคุมฉุกเฉิน นับเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจได้อย่างดี แต่ก็ใช่ว่าประสิทธิภาพที่มีจะสามารถการันตีความปลอดภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น พ่อแม่ คู่สมรส ที่มีความตั้งใจในการคุมกำเนิด อาจลองปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อวางแผนการป้องกันการตั้งครรภ์ที่เหมาะกับคู่ของคุณ รวมถึงสามารถขอรับคำแนะนำเรื่องการใช้ยาคุมกำเนิด และยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกต้องได้ด้วย
ที่มา :
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน จะท้องไหม เมนส์ไม่มากี่วันถึงท้อง
พุงคนท้องแต่ละเดือน ท้องคุณแม่ใหญ่แค่ไหนในแต่ละเดือน?
เซ็กส์ตอนตั้งครรภ์ มีได้ใช่ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า