เยลลี่ลูกตา ขนมที่หลาย ๆ คน จะพอเห็นผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง เพราะกำลังเป็นกระแสที่โด่งดังอยู่ในโซเชียลในขณะนี้ มียูทูปเบอร์มากมายนำขนมชนิดนี้มารีวิว ขนมชนิดนี้ จะมีลักษณะเป็นลูกกลม ๆ สีขาว และมีลวดลายลักษณะเหมือนกับ “ลูกตามนุษย์” ข้างในจะมีไส้เป็นแยม รสต่าง ๆ แต่ไม่มีที่มาที่แน่ชัดว่า เยลลี่ลูกตา แบบนี้ มีที่มาจากที่ไหน
คุณแม่แชร์ประสบการณ์ อุทาหรณ์เตือนภัย เยลลี่ลูกตา
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2564 ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า Kenji Panimm ได้ออกมาโพสเตือนภัย เป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับ เยลลี่ลูกตา โดยเธอได้ทำการโพสภาพลูกสาว พร้อมกับแคปชันว่า “ข้าวหอมกินไป 3 ลูก ทั้งปวดท้อง อ้วก ตัวร้อน พี่เคนจิกินไป 2 ลูก เวียนหัว อ้วก ตัวร้อน สรุปลำไส้อักเสบ ขนมบ้าไรว่ะ เข็ดไปอีกนาน ไม่ให้กินอีกแล้วของพวกนี้”
เยลลี่ลูกตา สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป มีทั้งแบบที่บรรจุซอง ประทับตรายี่ห้อ และ แบบที่ทำขึ้นเอง ปัจจุบันกำลังเป็นกระแสในวงกว้าง มียูทูปเบอร์มากมายนำขนมชนิดนี้มารีวิวลงในช่องของตัวเอง ยิ่งทำให้กระแส สูงขึ้นตามไปอีก เมื่อขนม เป็นที่นิยม โด่งดัง และเป็นกระแสมาก ๆ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ขนมที่นำมาขายอยู่ในท้องตลาดนั้น ๆ ได้มาตรฐานหรือไม่ เมื่อมีของแท้ที่กำลังโด่งดังมาก ๆ ก็แน่นอนว่า จะต้องมีคนทำของปลอมออกมา เพื่อหวังกำไรจากการเกาะกระแสด้วยนั่นเอง
โพสดังกล่าว มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น และแสดงความห่วงใยกับน้อง ๆ ทั้งสองเป็นอย่างมาก บ้างก็สันนิษฐานว่า อากาศที่ร้อน บวกกับความอับชื้นในขนม และขนมอยู่ในบรรจุภัณฑ์พลาสติกนาน ๆ อาจทำให้ขนมเกิดสะสมแบคทีเรียขึ้นมาได้ ซึ่งตัวของคุณแม่ก็ยอมรับว่าผิดพลาดเอง และคงเข็ดที่จะให้ลูก ๆ กินขนมแบบนี้ไปอีกนาน
อาการปวดท้องของเด็ก ที่ไม่ควรมองข้าม
อาการปวดท้อง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ คุณแม่ต้องหมั่นสังเกตุอาการของลูกน้อย ว่ามีอาการผิดปกติมากแค่ไหน หากมีอาการผิดปกติมาก ควรรีบพบแพทย์ทันที
อาการที่ควรนำส่งแพทย์ทันที
- ปวดท้องมาก
- ท้องแข็ง
- อาเจียน และมีไข้
- อาเจียนเป็นเลือด หรือ น้ำดีสีเขียว
- ท้องเสียหลายครั้ง
- ถ่ายเป็นมูก หรือ ปนเลือด
สาเหตุของการปวดท้องที่มักพบในเด็ก
ลำไส้อักเสบ
มักมีอาการปวดท้องเป็นพัก ๆ มีถ่ายเหลว ถ่ายเป็นมูกเลือดหลายครั้ง อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน หรือมีไข้ร่วมด้วย
อาหารเป็นพิษ
มักมีอาการปวดท้อง อาเจียน มีไข้ ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำ หรือถ่ายเป็นเนื้อเละ ๆ มักพบในผู้อื่นในครอบครัวร่วมด้วย
ไส้ติ่งอักเสบ
มีอาการปวดท้องมาก โดยเฉพาะด้านขวาล่างของช่องท้อง ไม่มีช่วงหายปวด มีอาการคลื่นไส้ มีไข้ต่ำๆ หรืออาเจียนร่วมด้วย
ลำไส้กลืนกัน
โรคนี้มักพบในเด็กเล็ก อายุ 3 เดือน ไปจนถึง 3 ปี มีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด คล้ายแยม เด็ก ๆ มักจะร้องกวน มีไข้ ไอ น้ำมูก และอาจคลำพบก้อนที่ท้องได้
กระเพาะอาหารอักเสบ
มักมีอาการปวดท้องที่ลิ้นปี่ หรือใต้ชายโครงด้านซ้าย คลื่นไส้อาเจียน ไอ มีน้ำมูกนำมาก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
แผลในกระเพาะอาหาร
อาการจะคล้ายคลึงกับกระเพาะอักเสบ มีอาการปวดท้องรุนแรง ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน แสบร้อนกลางอก เบื่ออาหาร น้ำหนักลง
ท้องผูก
มีอาการปวดท้องบ่อย ๆ ไม่ถ่ายหลาย ๆ วัน เวลาปวดท้องมักเกร็ง หนีบขาหนีบก้น ถ่ายอุจจาระลำบาก ถ่ายก้อนใหญ่จนเจ็บก้น บางครั้งถ่ายเกือบทุกวัน แต่ถ่ายเป็นกระสุน และไม่หมด
กรดไหลย้อน
ในเด็กเล็ก มักมีอาการร้องกวน สำรอกบ่อย อาเจียนออกปาก และ จมูก น้ำหนักไม่ขึ้น
ในเด็กโต มักมีอาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ ปวดแสบที่ยอดอก เรอเปรี้ยว คลื่นไส้ อาเจียน และอิ่มเร็ว
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่สังเกตเห็นอาการผิดปกติของลูก ๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรค และทำการรักษาต่อไป ไม่ควรปล่อยไว้จนเกิดอาการเรื้อรัง เพราะอาจเป็นผลเสียกับลูก ๆ ในระยะยาวได้
ที่มาของข้อมูล : phukethospital
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อาหารติดคอเด็ก ภัยร้ายใกล้ตัว ที่ต้องคอยระแวดระวังอยู่เสมอ
เตือนภัย! ครอบครัวที่ชอบเอารถเข็นเด็กขึ้น-ลงบันไดเลื่อน!
เตือนภัย!!! รถชนลูกเเค่ขาหัก ถ้าไม่นั่งคาร์ซีทอาจตายไปเเล้ว