เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ ของเช้าวันที่ 24 พ.ค. 2567 เมื่อศูนย์วิทยุแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรลำปาง ได้รับแจ้งเหตุ รถตู้รับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ บนถนนสายลำปาง ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย เหตุการณ์สลดใจครั้งนี้สร้างความสูญเสียและความโศกเศร้าให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเอื้อม และสมาคมกู้ภัยลำปาง รีบรุดเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่ร้ายแรงครั้งนี้
โศกนาฏกรรมบนท้องถนน! รถตู้รับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ เด็กเสียชีวิต 1 ราย
ณ บริเวณที่เกิดเหตุ พบรถตู้สีขาวพลิกคว่ำตะแคงอยู่ข้างถนน ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บนับ 10 คน ทางกู้ภัยรีบเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน ส่วนทางด้านท้ายรถ พบร่างไร้วิญญาณของเด็กหญิงนักเรียนชั้น ป.1 เสียชีวิตอยู่ข้างรถ โดยสภาพร่างถูกตัวรถทับอยู่ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจึงประสานขอเครื่องตัดหางเพื่อนำร่างเด็กผู้เสียชีวิตออกมาจากจุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด
นางแสงจันทร์ คนขับรถตู้หญิง เล่าว่า เช้าวันเกิดเหตุ เธอออกเดินทางจากบ้านห้วยเป้ง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มุ่งหน้าไปส่งนักเรียนกว่า 20 คน ที่โรงเรียนในตัวเมืองลำปาง ระหว่างทางมีรถจักรยานยนต์ขับอยู่ข้าง ๆ เธอ จึงพยายามเบี่ยงหลบ แต่รถเสียหลักพุ่งลงข้างทางอีกฝั่งหนึ่ง
นางแสงจันทร์ อธิบายว่าสาเหตุมาจากถนนลื่นเนื่องจากฝนตกหนัก ส่งผลให้รถเสียการควบคุมและพลิกคว่ำหลายตลบ เหตุการณ์นี้สร้างความเสียใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก และเธอยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุเพิ่มเติม
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนเตือนใจให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังบนท้องถนน โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตก ควรลดความเร็วและขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
ทาง theAsianparent ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขออวยพรให้ผู้บาดเจ็บทุกท่านปลอดภัยและหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็วค่ะ
ที่มา: AmarinTV
ฝนตกถนนลื่น ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ?
เมื่อฝนตกหนัก ถนนจะลื่นและเต็มไปด้วยน้ำขัง สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะน้ำจะแทรกเข้าไประหว่างยางรถกับถนน ทำให้รถสูญเสียการยึดเกาะ และอาจเกิดการเหินน้ำได้ theAsianparent เข้าใจดีว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านคงกังวลใจเมื่อต้องขับรถรับส่งลูกน้อยในช่วงฝนตกหนัก ดังนั้น วันนี้เราจึงมีเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยมาฝากกันค่ะ
1) ไม่ควรหักพวงมาลัย หรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน
โดยเฉพาะช่วงฝนตกใหม่ เพราะถนนจะลื่นกว่าปกติ หากถูกคลื่นน้ำสาดใส่กระจก อย่าเบี่ยงหลบกระทันหัน แต่ให้ควบคุมรถให้อยู่ในเลนเดิม
2) ขับรถให้ช้าลง
ขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะความเร็วนี้เหมาะสมและช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3) เปิดไฟหน้ารถแบบปกติ
เปิดไฟหน้ารถแบบปกติ เพื่อให้มองเห็นถนนข้างหน้าได้ชัดเจน และช่วยให้ผู้ขับขี่คนอื่นมองเห็นรถของเราได้จากระยะไกล หลีกเลี่ยงการเปิดไฟหรี่ ไฟสูง ไฟกะพริบ หรือ ไฟตัดหมอก เพราะแสงไฟเหล่านี้จะรบกวนสายตาของผู้ขับขี่คันอื่น
4) เปิดที่ปัดน้ำฝน
ปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝน
5) ป้องกันการเกิดฝ้าที่กระจกรถ
การเกิดฝ้าบนกระจกรถขณะขับขี่เป็นสิ่งที่น่ารำคาญอย่างยิ่ง เพราะมันบดบังทัศนวิสัยบนท้องถนน ฝ้าเหล่านี้มักเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิภายในรถเย็นลง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ฝนตกบ่อย การขับขี่ท่ามกลางสายฝนยิ่งทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น
เพื่อป้องกันปัญหาฝ้าบนกระจกรถขณะขับขี่ มีวิธีง่ายๆ ดังนี้
- สังเกตว่าฝ้าเกิดขึ้นที่ด้านไหน:
-
- ฝ้าด้านนอก: อากาศภายในรถเย็นกว่าอากาศภายนอก
- ฝ้าด้านใน: อากาศภายนอกรถเย็นกว่าอากาศภายในรถ
- รักษาอุณหภูมิภายในและภายนอกรถให้เท่ากัน:
-
- เปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อระบายอากาศ
- ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม
- เปลี่ยนทิศทางแอร์ไม่ให้พุ่งตรงไปที่กระจก
- เช็ดฝ้าออก:
- ใช้ผ้าเช็ดฝ้าหรือที่ปัดน้ำฝน
6) ไม่ขับรถชิดคันหน้า
ควรทิ้งระยะห่างจากคันหน้า เพื่อให้มีระยะเบรกมากขึ้น ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิดจนเกินไป ไม่ควรขับคู่รถขนาดใหญ่ และไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหันเพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัว และทำให้รถพลิกคว่ำได้
7) ให้สัญญาณไฟล่วงหน้า
ก่อนเปลี่ยนเลนบนท้องถนน ให้เปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าอย่างน้อย 60 เมตร มองกระจกทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังอย่างรอบคอบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีรถอื่นอยู่ใกล้ๆ และปลอดภัยก่อนเปลี่ยนเลน
ที่สำคัญไม่ใช่แค่คนขับรถที่ต้องระวังตอนขับบนถนนลื่น แต่ผู้โดยสารก็ต้องช่วยกันด้วยนะคะ โดยการรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง และสำหรับเด็กเล็กควรให้นั่งคาร์ซีทเสมอ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนน
จำเป็นแค่ไหนที่ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีท ระหว่างเดินทางด้วยรถยนต์?
จากเหตุการณ์ รถตู้รับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ แม้จะยังไม่มีข้อสรุปว่าสาเหตุมาจากอะไร แต่เหตุการณ์นี้ตอกย้ำให้เราเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็ก แม้ว่ากฎหมายคาร์ซีทจะยังไม่บังคับใช้สำหรับรถรับจ้างและรถสาธารณะ แต่การใช้คาร์ซีทเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องพาลูกน้อยเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะในวันที่ฝนตก ถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ดี ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การใช้คาร์ซีทจะช่วยปกป้องเด็กน้อยของคุณให้ปลอดภัยจากอันตรายได้
บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีเลือก คาร์ซีทเด็กแต่ละช่วงวัย เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับลูกน้อย
ประโยชน์ของคาร์ซีท
คาร์ซีทได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับสรีระของเด็กแต่ละช่วงวัย มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยที่เสริมความมั่นคง ปกป้องลูกน้อยจากแรงกระแทกกรณีเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสาหัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สร้างวินัยที่ดีให้แก่เด็ก
การฝึกให้เด็กนั่งคาร์ซีท จะทำให้เขานั้นรู้หน้าที่ของตัวเองเมื่อขึ้นมาบนรถยนต์ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อเขาขึ้นมาแล้วเขาก็จะรู้ว่าตัวเองต้องในตรงไหน เติมเต็มความรับผิดชอบต่อตัวเอง ฝึกให้อยู่นิ่งๆ ไม่ซน ขณะเดินทางและทำให้เขาสามารถนำเอาวินัยเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วยนั่นเอง
3. ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนรถยนต์
หลาย ๆ ครั้งที่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถยนต์นั้นมักมาจากความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ๆ เพราะเป็นวัยที่กำลังซนอาจลุกขึ้นยืน เล่นซน หรือแม้กระทั่งหลุดออกจากเบาะนั่งขณะรถกำลังวิ่ง คาร์ซีทจึงเปรียบเสมือนเขื่อนป้องกันอันตราย ช่วยให้เด็กอยู่ในที่นั่ง ปลอดภัยจากการกระแทกภายในรถ
4. ช่วยให้การดูแลเด็กของพ่อแม่ และผู้ปกครองภายในรถนั้นง่ายขึ้น
การมีคาร์ซีทช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเด็กได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าลูกจะซนหรือรบกวนสมาธิขณะขับขี่ มุ่งมั่นขับขี่อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวล
ด้วยประโยชน์มากมายที่กล่าวมาข้างต้น การเลือกคาร์ซีทที่มีมาตรฐาน เหมาะกับวัย และติดตั้งอย่างถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องอนาคตอันสดใสของลูกน้อย และมอบความอุ่นใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ มุ่งมั่นขับขี่อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวลค่ะ
จากเหตุการณ์ รถตู้รับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ บนถนนลื่น ทำให้เด็กนักเรียนชั้น ป.1 เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนน โศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน ร่วมมือร่วมใจลดความเสี่ยง ป้องกันอุบัติเหตุ เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ และทุกคน นอกจากนี้ ยังต้องมีการรณรงค์ให้ความรู้แก่ผู้ขับขี่เกี่ยวกับอันตรายจากถนนลื่น วิธีการขับขี่อย่างปลอดภัย และมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืนค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
