สุดสลด! พบศพทารก ถูกทิ้งถังขยะข้างคอนโดฯ ย่านลาดพร้าว

ผงะอีกเรื่อง พบศพทารก ถูกทิ้งอยู่ถึงขยะข้างคอนโดมิเนียม ในย่านลาดพร้าว คนพบศพคือเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตห้วยขวาง ที่กำลังจะไปเก็บขยะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สุดสลด! พบศพทารก ถูกทิ้งถังขยะข้างคอนโดฯ ย่านลาดพร้าว

ผงะอีกเรื่อง พบศพทารก ถูกทิ้งอยู่ถังขยะข้างคอนโดมิเนียม ในย่านลาดพร้าว คนพบศพคือเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตห้วยขวาง ที่กำลังจะไปเก็บขยะ

ผงะ! พบศพเด็กทารก ถูกทิ้งถังขยะข้างคอนโดเขตลาดพร้าว

ขอขอบคุณรูปจาก ThaiPBS

โดยเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 9 เมษายน พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกโดนทิ้งที่ถังขยะ ใกล้ ๆ บริเวณคอนโดแห่งหนึ่ง บนถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

โดยที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง มีความสูง 5 ชั้นติดถนนอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยลาดพร้าว 48 โดยข้างคอนโด เป็นจุดทิ้งขยะ เจ้าหน้าที่พบศพเด็กทารก เพศชาย อายุประมาณ 5-6 เดือน โดยมีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อผิวสีแดง มีรกสายสะดือติดอยู่ ซึ่งเสียชีวิตอยู่บริเวณท้ายรถเก็บขยะของสำนักงานเขตห้วยขวาง ยี่ห้อ ISUZU สีเขียว ทะเบียนรถป้ายเหลืองกรุงเทพมหานคร โดยพนักงานเก็บขยะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง

โดยจากการสอบถามนายออด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเขตห้วยขวาง เผยว่า

ขณะที่ตนกำลังยกถังขยะมาเท เพื่อคัดแยกขยะได้พบกับถุงพลาสติก และเมื่อตนแกะออกมา ก็พบว่ามีร่างเด็กถูกห่อกระดาษเพียงไม่กี่ชั้น โดยเห็นหัว ขา และฝ่าเท้า ตนจึงเรียกเพื่อมาดู เพื่อช่วยกันตรวจสอบว่านี้คือศพเด็กจริงหรือไม่ และปรากฏว่าใช่ นายออดจึงตกใจอย่างมาก เพราะโดยปกติจะเข้ามาเก็บขยะจุดนี้ 2 วัน 1 ครั้ง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบกล้องวงจรปิด และประสานให้คนที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และสอบปากคำ ส่วนร่างเด็กทารก จะนำไปชันสูตรเพิ่มเติม และพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อติดตามหาว่าใครนำศพมาทิ้ง ก่อนจะดำเนินการขั้นตอนกฏหมายต่อไป

จากการวิเคราะห์ของนักเขียน พบว่าส่วนใหญ่เหตุการณ์แบบนี้จะมาจากการท้องแบบไม่พร้อม หรือไม่ได้อยากมีท้องตั้งแต่แรก และหากใครกำลังมีปัญหาเรื่องนี้อยากให้มาทำความเข้าใจกับการ “ยุติการตั้งครรภ์”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยุติการตั้งครรภ์ หรือ การทำแท้ง เป็นกระบวนการสำหรับผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งเราพบว่า สถิติการทำแท้งในประเทศไทย มีการทำแท้งประมาณปีละ 300,000 คน และมีถึง 300 คน จาก 100,000 คน ที่ได้รับอันตรายจากการทำแท้ง ซึ่งนับว่าเป็นความเสี่ยงที่ต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ ณ ปัจจุบันการทำแท้งนั้น สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากมีการแก้ไข พ.ร.บ. เพิ่มเติม ซึ่งจำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ถูกกำหนดเอาไว้

ยุติการตั้งครรภ์ อย่างถูกกฎหมาย ทำได้อย่างไร ?

ณ ปัจจุบันการยุติการตั้งครรภ์ สามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งจำเป็นจะต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ และมีเงื่อนไขที่เข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  • จะต้องมีอายุครรภ์ต่ำกว่า 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน ไม่เกิน
  • หากมีอายุครรภ์ที่มากกว่า 12 สัปดาห์ ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จะต้องผ่านเกณฑ์การปรึกษาทางเลือก
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์มีความเสี่ยงทางสุขภาพกาย หรือสุขภาพจิต
  • ตัวอ่อนในครรภ์มีความเสี่ยงว่าจะพิการ หรือทุพพลภาพ
  • ตั้งครรภ์จากการถูกข่มขืน ล่อลวง อนาจาร
  • ผู้ตั้งครรภ์มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ณ วันที่มีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้ท้อง

การยุติการตั้งครรภ์มีวิธีไหนบ้าง

การยุติการตั้งครรภ์สามารถทำได้ด้วย 2 วิธี หลัก ๆ ด้วยกัน

  • การใช้ยา (Medical Abortion)

การใช้ยาในการยุติการตั้งครรภ์สามารถใช้ได้กับทุกอายุครรภ์ แต่มีขนาดยา และวิธีการใช้ที่แตกต่างกันทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ หากใช้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกวิธี อาจทำให้การยุติการตั้งครรภ์ไม่เป็นผล รวมถึง มีความเสี่ยงต่อการตกเลือด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • การใช้กระบอกดูดสุญญากาศ (Manual Vacuum Aspiration)

วิธีนี้จะใช้ได้ถึงอายุครรภ์ 15 – 16 สัปดาห์ หรือประมาณ 4 เดือน จำเป็นจะต้องดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น

ซึ่งทั้งสองวิธีเป็นวิธีที่องค์การอนามัยโลกยอมรับว่า มีความปลอดภัยสูง และทำแท้งได้สำเร็จ โดยการใช้เครื่องมือ สามารถใช้ได้ในอายุครรภ์ที่ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ส่วนการใช้ยา สามารถใช้ได้จนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ แต่อายุครรภ์น้อยกว่า 9 สัปดาห์จะมีความปลอดภัยมากกว่า นอกจากนี้ หากมีอายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ขึ้นไป ก็สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ ทางการแพทย์เรียกว่า เร่งคลอด
ในเกณฑ์ของ 1663 การใช้ยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ อยู่ในราคาเฉลี่ย 3,900-5,000 บาท โดยผู้ที่มีความประสงค์จะต้องไปยังสถานที่ยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ตามที่ 1663 ได้จัดเตรียมไว้ สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรไปที่สายด่วนได้ โดยการสนทนาจะถูกเก็บเป็นความลับและไม่มีการเปิดเผยตัวตน
“การตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ เป็นสิทธิของเค้า เพราะครรภ์ที่เค้าต้องอุ้ม 9 เดือน เป็นของเค้าเอง สำหรับ 1663 ทางการแพทย์ ชีวิตของหญิง คือ ความปลอดภัย ” 

ทางออกของสังคม เมื่อต้องการยุติการตั้งครรภ์

สสส. ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกผู้หญิงท้องไม่พร้อม (Referral system for Safe Abortion : RSA) และมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ได้พัฒนาระบบบริการเพื่อให้คำปรึกษา โดยจะมีให้บริการด้วยกัน 2 ช่องทาง คือ

  • เบอร์โทรสายด่วน 1663 เป็นสายด่วนปรึกษาปัญหาเอดส์ และท้องไม่พร้อม ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือกในการคุมกำเนิด รวมถึงทางเลือกในกรณีที่ท้องไม่พร้อม
  • ทางออนไลน์ www.rsathai.org เว็บไซต์อาร์เอสเอไทย ได้ให้คำปรึกษาการคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวร และทางเลือกในการตั้งครรภ์ ทั้งตั้งครรภ์ต่อ หรือยุติการตั้งครรภ์สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ประสบปัญหาทางด้านต่างๆ
“สายด่วน 1663 ไม่สนับสนุนการทำแท้งด้วยตัวเอง เพราะหลายคนซื้อยามาทำเองแล้วทำไม่ถูกวิธี ใช้ยามาก หรือน้อยไปไม่เหมาะสมกับอายุครรภ์ เกิดผลกระทบตามมามากมาย ดังนั้น 1663 สนับสนุนให้คนที่มีปัญหาท้องไม่พร้อมโทรมาปรึกษา และหากต้องการยุติการตั้งครรภ์ 1663 พร้อมส่งต่อไปยังเครือข่ายแพทย์ซึ่งเรารับรองความปลอดภัย” 

บทความโดย

bossblink