WHO เตือน! ห้ามเหยียบแมลงสาบ เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ เชื้อโรคแพร่กระจาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แมลงสาบ ถือเป็นสัตว์ที่หลาย ๆ คนไม่ชอบ เพราะนอกจากจะสกปรกแล้ว ยังสร้างความน่ารำคาญใจและความน่ารังเกียจเป็นอย่างมาก แต่สำหรับบางคนก็ใจกล้าที่จะกำจัดมันได้ง่าย ๆ ซึ่งวิธีที่หลายคนนิยมใช้นอกจากการฉีดยาฆ่าแมลงนั้น ก็คือการเหยียบ-ขยี้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเตือน ห้ามเหยียบแมลงสาบ เพราะอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

 

WHO เตือน! ห้ามเหยียบแมลงสาบ เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 หมอหมู วีระศักดิ์ หรือ นายแพทย์ วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ออกมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของแมลงสาบ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอหมู วีระศักดิ์ โดยในโพสต์ดังกล่าวได้ระบุว่า

 

WHO เตือนเหยียบขยี้แมลงสาบ ทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพ

องค์การอนามัยโลก (WHO) แจ้งเตือนว่าการกำจัดแมลงสาบด้วยการบดหรือเหยียบขยี้ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แมลงสาบมีความสามารถในการพาเชื้อโรคได้มากมาย เช่น

  1. แมลงสาบ มีเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดต่าง ๆ โรคกาฬโรค โรคบิด โรคท้องเสีย โรคติดเชื้อของช่องขับถ่าย โรคฝีผิวหนังพุพอง โรคในระบบทางเดินอาหาร โรคอาหารเป็นพิษ และโรคไทฟอยด์
  2. แมลงสาบมีหนอนพยาธิและเป็นรังสะสมโรค เช่น พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือนกลม พยาธิตัวตืดแคระ พยาธิตืดวัว พยาธิใบไม้โลหิต โดยพยาธิ 12 ชนิดสามารถออกมาผ่านทางมูลแมลงสาบ
  3. แมลงสาบ มีเชื้อรา 2 ชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคชนิดระบบทางเดินหายใจ และโรคผิวหนัง
  4. แมลงสาบมีเชื้อไวรัส ที่เป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบ
  5. แมลงสาบ มีเชื้อโปรโตซัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์ และเป็นสาเหตุของโรคท้องเสีย โรคบิด

การบดหรือเหยียบขยี้แมลงสาบอาจทำให้เชื้อโรคที่มีอยู่ในร่างกายแมลงสาบกระจายออกไปยังพื้นผิว หรือเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์

วิธีการป้องกันและกำจัดแมลงสาบที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ คือ การทำความสะอาดบ้าน การปิดฝาขยะ การใช้ยาฆ่าแมลง การใช้กับดักแมลง และการใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติไล่แมลง

บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ระวัง! แมลงสาบ ศัตรูตัวฉกาจ พาหะร้ายของโรคภูมิแพ้!

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เชื้อโรคอันตรายที่เกิดจากแมลงสาบ

แมลงสาบสามารถเติบโตและแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภูมิอากาศที่ร้อนชื้นอย่างประเทศไทย แมลงสาบสามารถแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดโรคในคนได้ โดยเชื้อโรคอันตรายจากแมลงสาบ มีดังนี้

  • เชื้อสเตรปโทค็อกคัส (Streptococcus) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั้งคนและสัตว์ สามารถติดเชื้อได้จากการรับประทานอาหาร หรือผ่านอากาศ หากเข้าสู่ร่างกาย ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหัว เจ็บตอ มีไข้สูง คลื่นไส้ มีน้ำมูก อาเจียน และผื่นผิวหนัง ดังนั้น ควรรีบกำจัดแมลงสาบก่อนที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
  • เชื้อสแตฟฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus) เป็นหนึ่งในเชื้อก่อโรคที่เป็นอันตรายอย่างมาก หากเชื้อชนิดนี้แพร่กระจายทางกระแสเลือด ก็จะทำให้เชื้อโรคแพร่ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จนทำให้เกิดภาวะอันตราย เช่น ลิ้นหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ ข้ออักเสบ หรือกระดูกอักเสบ เป็นต้น

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

7 วิธีกำจัดแมลงสาบภายในบ้าน

เกือบทุกบ้านล้วนมีแมลงสาบซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านหรือบริเวณใกล้เคียง คุณพ่อคุณแม่ควรกำจัดแมลงสาบเมื่อพบทันที เพราะมันสามารถเป็นพาหะนำโรคร้ายมาสู่คนได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง เพราะอาจเป็นอันตรายแก่ลูกน้อย โดยวิธีกำจัดแมลงสาบภายในบ้านง่าย ๆ มีดังนี้

 

1. โรยผงกรดบอริก

วิธีแรกให้นำผงกรดบอริกมาโรยไว้รอบ ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าและบริเวณที่มีความอับชื้นภายในบ้าน เมื่อแมลงสาบมาตกในผง และเห็นว่าแมลงสาบตายสนิทแล้ว ควรรีบทำความสะอาดบริเวณนั้นทันที อย่าปล่อยให้ผงกรดบอริกปลิวไปเกาะตามของใช้ภายในบ้าน

 

2. วางยาในอาหาร

ให้คุณพ่อคุณแม่หายาฆ่าแมลงมาผสมในอาหารที่ใช้เป็นเหยื่อล่อ โดยอาจใส่ไว้ในถาดที่มีขอบกั้นหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปไว้บริเวณถังขยะ ใต้อ่างล้างจาน บริเวณเตา หรือพื้นที่อับชื้นต่าง ๆ ในบ้าน เมื่อแมลงสาบมากินอาหารจนหมด ก็จะตายทันที แต่สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กเล็กคุณพ่อคุณแม่ต้องระวังไม่ให้ลูกเข้าใกล้อาหารเหล่านั้นเด็ดขาด

บทความที่เกี่ยวข้อง : 4 วิธีไล่แมลงสาบ ไล่อย่างไรให้หายลับอย่างมืออาชีพ

 

 

3. สร้างกับดักจากกากกาแฟ

กับดักดังกล่าว สามารถสร้างได้ง่าย ๆ ด้วยการนำกากกาแฟไปแช่ในน้ำเปล่าทิ้งไว้ จากนั้นนำกากกาแฟแช่น้ำใส่ลงไปในขวดโหล แล้วม้วนกระดาษเป็นรูปกรวย เสียบไว้ที่ปากขวด แล้วตั้งทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน เมื่อแมลงสาบได้กลิ่นก็จะปืนเข้าไปในขวดและตายด้วยกลิ่นของคาเฟอีน

 

4. สเปรย์น้ำมันสะเดา

อีกหนึ่งวิธีกำจัดแมลงสาบแบบธรรมชาติ ให้คุณพ่อคุณแม่หาสารสกัดจากสะเดา มาผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำไปไว้ตามจุดที่แมลงสาบซ่อนอยู่ หรืออาจเทลงในขวดสเปรย์แล้วฉีดไปยังบริเวณที่แมลงสาบอยู่เลยก็ได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

5. ทำเหยื่อล่อด้วยดินเบา

วิธีต่อมาเป็นการสร้างเหยื่อล่อด้วยดินเบา ให้นำดินเบาผสมกับอาหาร แล้วนำไปวางในจุดที่มีแมลงสาบบ่อย ๆ แต่อย่างไว้ใกล้บริเวณอาหารเด็ดขาด เมื่อแมลงสาบเข้าใกล้ ดินเบาก็จะดูดไขมันและความชื้นที่ผิวของมัน ทำให้แมลงสาบขาดน้ำและตาย อย่างไรก็ตาม ก่อนนำดินเบามาทำกับดักคุณพ่อคุณแม่ควรสวมถุงมือและหน้ากากอนามัยก่อน เพราะดินเบามีซิลิกาจำนวนมาก หากสูดดมเข้าไปก็อาจเป็นอันตรายนั้น 

 

6. ใช้เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดาสามารถกำจัดแมลงสาบได้ โดยให้คุณพ่อคุณแม่ผสมน้ำตาลและเบกกิ้งโซดาในปริมาณที่เท่า ๆ กันลงในน้ำเปล่า จากนั้นเทใส่ขวดพลาสติกที่มีกลิ่นหวาน ๆ เพื่อล่อให้แมลงสาบเข้ามากินน้ำ เบกกิ้งโซดาจะทำให้ท้องของแมลงสาบอัดแน่นไปด้วยแก๊สและตายนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง : เบกกิ้งโซดา ตัวช่วยสารพัดประโยชน์ที่จะทำให้บ้านสะอาดหมดจด!

 

 

7. ฉีดสเปรย์น้ำยาปรับผ้านุ่ม

แมลงสาบไม่สามารถหายใจในที่ที่มีกลิ่นน้ำหอมได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถกำจัดพวกมัน ด้วยการผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ฝา กับน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง ผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นนำไปพ่นตามที่ที่แมลงสาบชอบเข้าไป เมื่อมันได้กลิ่นก็จะหายใจไม่ออกและตายในที่สุด

 

เมื่อพบแมลงสาบในบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรกำจัดแมลงสาบทันที ไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของคนในบ้าน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ต้องหมั่นทำความสะอาดและจัดระเบียบเครื่องใช้ภายในบ้านบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงสาบมาสร้างความอันตราย

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แมลงก้นกระดก มาทุกหน้าฝน ป้องกันอย่างไร วิธีรักษาแผลเบื้องต้น

3 กลุ่มแมลงยอดฮิตใกล้ตัวลูก พร้อมวิธีปฐมพยาบาล แมลงกัดต่อย เบื้องต้น

10 วิธีกำจัดแมลงเม่า เมื่อมันบินเข้าบ้านเรา จัดการไล่แมลงเม่าเมื่อบินเข้าบ้าน

ที่มา : รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี, bnnbreaking.com, kingservice.co.th, home.kapook.com

บทความโดย

Sittikorn Klanarong