เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง แชร์เรื่องราวหลัง ลูกสาวฝากครรภ์กับคลินิก แต่เมื่อลูกสาวเจ็บท้องหนัก กลับถูกปฏิเสธในการทำคลอด อ้างทารกยังไม่ถึงกำหนดคลอด

ในวันที่ 16 พฤษภาคม อาการของน้องยังไม่ดีขึ้น และช่วงเย็นของวันเดียวกัน คุณแม่ของน้องก็ได้โทรไปสอบถามคุณหมอที่คลินิกว่า ติดสาเหตุอะไรทำไมถึงไม่ผ่าคลอดให้ลูกสาว ผ่าไม่ได้หรือเพราะไม่ได้ใส่ซอง ด้านคุณหมอตอบกลับมาว่า อายุครรภ์ของน้องยังไม่ถึงกำหนดคลอด คุณหมอจึงจำเป็นให้ยาระงับการคลอดไปก่อน หากอาการของน้องยังไม่ดีขึ้นหมอก็คงไม่สามารถปล่อยน้องกลับบ้านได้ ต้องรักษาไปก่อนและให้ยาไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบกำหนดของการคลอด
ฝากครรภ์กับคลินิก ต่างกับโรงพยาบาลอย่างไร ?
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์สิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนควรปฏิบัติก็คือ การฝากครรภ์ ซึ่งหากเป็นไปได้แนะนำให้ฝากครรภ์กับโรงพยาบาลดีที่สุด เพราะมีอุปกรณ์เครื่องมือครบครัน ทั้งยังมีบุคลากรทางการแพทย์พร้อมทุกด้านมากกว่าคลินิก หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะได้ส่งตัวรักษาเฉพาะด้านในทันที
แต่ทางระยะทางไม่สะดวกในการเดินทางก็สามารถฝากครรภ์กับคลินิกใกล้บ้านได้ค่ะ แต่ต้องเลือกคลินิกที่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจครรภ์ครบ เพื่อตรวจสุขภาพครรภ์และหาสิ่งผิดปกติหรือความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งในปัจจุบันมีคลินิกใหญ่ ๆ หลายที่เลยค่ะ แถมบางที่ยังมีบริการทำคลอดอีกด้วย ทั้งแบบคลอดตามธรรมชาติและผ่าคลอดตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเลยค่ะ
การฝากครรภ์กับคลินิก
ข้อดีของการฝากครรภ์กับคลินิก หรือโรงพยาบาลเอกชน
เราสามารถเจาะจงคุณหมอที่ต้องการได้เลย เรียกว่า “การฝากครรภ์พิเศษ” ซึ่งหมายถึงทุก ๆ ครั้งที่เรามาตรวจสุขภาพครรภ์ก็จะได้เจอกับคุณหมอท่านเดิมนั่นเองค่ะ ทำให้การดูแลรักษาครรภ์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องโอนข้อมูลให้คุณหมอท่านอื่น ๆ แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ดังนั้น คุณแม่จึงต้องพิจารณาความเหมาะสมให้ดีก่อนเลือกที่ฝากครรภ์ค่ะ