เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เว็บไซต์เน็กซ์ชาร์ก รายงานว่า โคลวิส ฮอง (Clovis Hung) เด็กชายวัย 12 ปี จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ได้กลายมาเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ที่เพิ่งจบการศึกษาวิทยาลัยฟูลเลอร์ทัน (Fullerton College) พร้อมรับอนุปริญญาถึง 5 ใบ ทำให้กลายเป็นบัณฑิตอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ 108 ปี ของวิทยาลัยแห่งนี้ โดยก่อนหน้านี้เขาก็เรียนเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไปกระทั่งรู้สึก เบื่อ รร. จนหยุดเรียน ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
ทางแม่ของเด็กชายเอง ทำงานเป็นติวเตอร์มานานกว่า 20 ปีแล้ว เธอเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง และรู้จักลูกชายของตัวเองดีว่าเป็นเด็กที่ไม่เหมือนใคร เขามีทั้งความอยากรู้และความชาญฉลาด ในขณะที่สามีกับลูกสาวทั้ง 2 คน ไม่เห็นด้วย พร้อมมองว่าเธอบ้าไปแล้วที่ให้โคลวิสออกจากโรงเรียน
หลังเรียนแบบโฮมสคูลอยู่ 1 ปี เขาก็ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยฟูลเลอร์ตัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากศิษย์เก่าที่ชื่อว่า แจ็ค ริโก ซึ่งสร้างสถิติจบการศึกษาด้วยอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น จนเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โคลวิสได้สร้างสถิติใหม่ให้กับวิทยาลัย เขาสามารถสำเร็จการศึกษาหลักสูตรอนุปริญญาตรีศิลปศาสตร์ 5 สาขา ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.92
โคลวิสยอมรับว่าเขามีอาการประหม่าเล็กน้อยในช่วงแรก ๆ ที่ต้องเข้าชั้นเรียนใหม่ โดยคำถามแรกที่อาจารย์กับเพื่อนร่วมชั้นมักจะถามก็คือ อายุเท่าไหร่แล้ว เพราะทุกคนล้วนประหลาดใจกับสิ่งที่เขาทำ และชอบสงสัยเกี่ยวกับการทดสอบข้อสอบที่เขาได้รับเสมอ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้เผยว่าหลังจากที่เขาแสดงทัศนคติที่จริงจังต่อการเรียนให้ทุกคนได้เห็นในความสามารถ พร้อมความมุ่งมั่นของเขาที่จะได้เกรดดี ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 อันดับ โรงเรียนนานาชาติ ในประเทศไทย มีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง
ในขณะที่ศาสตราจารย์ เคนเนธ คอลลินส์ เองก็ยอมรับว่า ตอนแรกแอบกังวลว่าโคลวิสจะสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ไม่ได้ เพราะมีอายุและพัฒนาการที่แตกต่างกัน โคลวิสเป็นส่วนผสมอันเยี่ยมยอดของคำว่า ‘เด็ก’ และ ‘นักศึกษา’ เขามีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในตัวพอที่จะให้นักเรียนคนอื่นแสดงความจริงจังด้วย และยังเด็กพอที่ทุกคนจะช่วยดูแลเขาเหมือนน้องชาย
ทั้งนี้ โคลวิสมีแผนจะเรียนต่อที่นี่เพิ่มอีกปี เพื่อคว้าอนุปริญญาอีก 1 สาขา และได้มีการวางแผนเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หรือไม่ก็สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เพื่อคว้าปริญญาตรี โดยอาชีพที่เขาให้ความสนใจนั้นจะมีทั้งด้านอวกาศ การเป็นนักบินพาณิชย์ รวมไปจนถึงแพทย์ และนอกเหนือจากเรื่องวิชาการแล้ว ขณะนี้เขาได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนักบินกองกำลังหนุนพลเรือน พร้อมกับการตั้งเป้าว่าจะคว้าใบอนุญาตนักบินให้ได้ตอนอายุ 16 ปีอีกด้วย
อะไรคือสาเหตุทำให้เด็ก เบื่อ รร. จนหยุดเรียน
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากเห็นเด็ก ๆ เบื่อการไปโรงเรียน เพราะปกติสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการจะบอกก็คือ พวกเขาไม่ชอบหัวข้อที่เรียนอยู่ และไม่ชอบใช้เวลาอยู่ที่โต๊ะเรียนนาน ๆ จึงทำให้เด็กบางคนเกิดความรู้สึกเบื่อโรงเรียนจนกลายเป็นเรื่องที่บ่นแล้วบ่นอีกอยู่ตลอดเวลา ส่วนสาเหตุหลัก ๆ ของอาการเบื่อโรงเรียน มีดังนี้
1. ไม่รู้สึกท้าทาย
ส่วนใหญ่เด็กที่หัวดีอยู่แล้ว เขาจะไม่ต้องการคำแนะนำมากเท่าไรในการทำความเข้าใจบทเรียน จึงทำให้พวกเขาชอบตลอดว่าเบื่อโรงเรียน แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่เด็ก ๆ จะสื่อก็คือ การเรียนในชั้นเรียนมันยังไม่ท้าทายความสามารถของพวกเขามากพอ เพราะปกติแล้วพวกเขาจะมีความสามารถและมีความฉลาดเป็นอย่างมากนั่นเองค่ะ
2. ได้รับแรงจูงใจต่ำเกินไป
บางครั้งการขาดแรงจูงใจมันเชื่อมโยงกับความรู้สึกของพวกเด็ก ๆ โดยตรงว่าสิ่งที่กำลังเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเห็นว่ามีความสำคัญ และกระบวนการเรียนรู้ไม่มีความหมายกับชีวิตของพวกเขาเลย แต่ในอีกสถานการณ์ การขาดแรงจูงใจก็บ่งบอกถึงสัญญาณของปัญหาที่สำคัญและซ่อนอยู่ได้ เช่น ภาวะซึมเศร้าในวัยเด็ก โรคสมาธิสั้น และสภาวะการเรียนบกพร่อง
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กยุคใหม่เครียด เรียนออนไลน์ ไม่รู้เรื่อง ปัญหาใหญ่ที่พ่อแม่ห้ามละเลย
3. ไม่สามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้
สำหรับเด็ก ๆ ที่มีปัญหาด้านการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน หรือกับคุณครู แน่นอนว่ามันอาจทำให้รู้สึกเบื่อโรงเรียนได้ง่าย เพราะพวกเขารู้สึกแปลกแยก โดดเดี่ยว ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนคนอื่น ๆ ได้ เขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถหันไปพึ่งใครในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ จนทำให้เขาปลีกตัวออกมาในส่วนนี้ผู้ปกครองเองก็ต้องคอยสังเกตอาการของลูกด้วยค่ะ และอย่าลืมพูดคุยกับลูกทุกครั้งในเวลาที่เขาไม่สบายใจ
4. มีทักษะต่ำเกินไป
ไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนที่จะมีทักษะในชั้นเรียน เนื่องจากมีความบกพร่องด้านการเรียนรู้ เพราะเขายังไม่ได้รับการสอนด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนรู้ของเขา มีการเรียนรู้ที่เกินความสามารถของเด็ก ๆ เมื่อเขารู้สึกว่าตัวเองเรียนไม่ทันเพื่อน หรือเนื้อหาที่กำลังเรียนอยู่ มันยากเกินไป เขาก็จะรู้สึกกลัวที่จะถูกคุณครูถาม กลัวอายเพื่อน ๆ จนทำให้ไม่อยากไปโรงเรียนนั่นเองค่ะ
การเรียนสำหรับเด็ก ๆ พวกเขาต้องการเข้าใจเนื้อหาในหนังสือก่อนจึงจะทำให้เรียนสนุก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถทบทวนได้ในช่วงเวลาว่าง และคุณครูเองก็ต้องมีการจัดการที่เข้ากับรูปแบบการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ไม่ให้ทำโจทย์ที่ยากเกินไป หรือไม่ให้อ่านหนังสือที่หนักเกินกว่าเหตุ เพราะมันทำให้เด็ก ๆ สนุกกับการเรียนน้อยลง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
Home School ข้อดีข้อเสียของการ เรียนที่บ้าน เป็นอย่างไร
ช่วยด้วย! พ่อแม่ต้องทำอย่างไรดีเมื่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียน
เปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นหาตัวเอง ด้วยเทคนิคการเรียนแบบ Home School
ที่มา :