ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ร้องทุกข์ลงในกลุ่ม ทนายอาสาให้คำปรึกษากฎหมายฟรี หลังจากร้านตัดผม ตัดผมผิดทรง ให้ลูกสาว โดยเธอโพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าวว่า ว่าลูกสาวได้ไปตัดผมกับคุณยาย และยายได้บอกกับช่างให้ตัดผมหลานสาวเป็น “ทรงนักเรียนซอย” แต่ช่างกลับตัดออกมาเป็น “ทรงนักเรียนชาย” ทำให้สภาพจิตใจของลูกสาวย่ำแย่ถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย และไม่ไปโรงเรียนทั้ง ๆ ที่เป็นเด็กเรียนดี
โดยทางช่างเองก็ได้รับผิดชอบด้วยการไม่เอาเงินและให้หมวกมา 1 ใบ ตอนนี้ทางคุณแม่เองก็รู้สึกทุกข์ใจไม่น้อย เพราะโทรไปหาช่างเพื่อตกลงกันอีกครั้งก็ไม่เข้าใจกัน เนื่องจากช่างตัดผมเมาขณะพูดคุยกัน จึงได้โพสต์เรื่องดังกล่าวในกลุ่มว่าตนสามารถร้องเรียนกับช่างตัดผมได้ไหม
ในขณะเดียวกันกลุ่มเฟซบุ๊ก “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ก็ได้นำเรื่องราวดังกล่าวออกมาแชร์ต่อเหมือนกัน โดยได้รับข้อมูลจากคุณแม่ของน้องที่ถูกช่างตัดผมรายนี้ตัดผมลูกไม่ตรงปก ซึ่งหลังจากสนทนาจบก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนด้านชาวเน็ตบางรายคาดว่า เรื่องนี้น่าจะเกิดจากการสื่อสารผิดพลาดระหว่างผู้ปกครอง และช่างตัดผม
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ได้รับประสานขอข้อมูลแม่เด็กที่ถูกตัดผมไม่ตรงปกเรียบร้อยแล้ว เพื่อจะได้ประสานการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะทำให้เด็กมีปัญหาทางความคิด และอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างที่คุณแม่กังวลได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังแม่เด็กเพิ่มเติมถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งคุณแม่ก็ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะที่ยายพาไปร้านตัดผม เมื่อขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัดผมของร้าน คุณยายได้บอกกับช่างว่าให้ตัด “ทรงนักเรียนซอย” หลังจากนั้นช่างก็เริ่มตัดหน้าม้าทันที และใช้ปัตตาเลี่ยนไถข้างศีรษะ ซึ่งเด็กและทุกคนในร้านก็ตกใจ และรีบตะโกนห้ามช่างแต่ช่างก็ไม่ฟังจนตัดผมไปเกือบจะเสร็จแล้ว
หลังเกิดเหตุช่างก็ได้กล่าวขอโทษแล้วบอกว่า ตัดไปแล้วจะให้ทำยังไง แล้วก็ให้หมวกมา 1 ใบ ซึ่งทางคุณแม่เองตอนนี้ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ลูกสาวอาศัยอยู่แค่กับตายายเท่านั้น และกังวลว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นปมด้อยของลูกสาวจึงได้มาปรึกษาชาวเน็ตเพื่อหาทางออก
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กหญิงดีใจได้ไปตัดผมกับยาย ต้องเจอความเสียใจ เมื่อยายหลอกไปตัดผมแลกเงิน
วิธีรับมือเมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน เพราะกลัวเพื่อนล้อ
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่สำหรับเด็ก ๆ มักไม่ชอบไปโรงเรียนเมื่อโดนเพื่อนล้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรงผม การบุลลีรูปร่างต่าง ๆ จนกลายเป็นปมในใจและเกิดการต่อต้านการเข้าสังคม ทำให้เขารู้สึกว่าโรงเรียนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย เพราะต้องคอยกังวลสายตาจากคนรอบข้าง ไม่เหมือนอยู่บ้านที่เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ เราจึงได้รวบรวมวิธีรับมือกับลูกที่ไม่อยากไปโรงเรียนมาฝาก คุณพ่อคุณแม่ไปเรียนรู้และเข้าใจความคิดของลูกกันเลย
1. พูดคุยกับลูกถึงสาเหตุที่แท้จริง ทำไมลูกไม่อยากไปโรงเรียน
ในช่วงแรกของการพูดคุยกับลูก แน่นอนว่าเขาจะยังไม่บอกอะไรเราตั้งแต่แรก แต่เมื่อค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ ถาม ลูกจะเริ่มบอกเป็นนัย ๆ แต่จะยังไม่บอกตรง ๆ หรือไม่บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เช่น โดนเพื่อนล้อ โดนเพื่อนแกล้ง ตัดผมผิดทรง บางครั้งไปบอกครูแต่ครูก็เมินเฉย ทำให้เขาไม่อยากพูดกับใคร ดังนั้น เมื่อลูกเล่าอะไรให้ฟัง ต้องแสดงให้ลูกเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่เชื่อใจเขา พยายามรับฟังให้มาก ๆ และคิดหาวิธีการแก้ไขให้เขาค่ะ
2. สอนลูกหาเพื่อนสนิทไว้สักคน
สำหรับเด็ก ๆ แล้ว การมีเพื่อนสนิทสักคนถือเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะช่วยดึงให้เขาอยากไปโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในข้อนี้เองอยากให้คุณพ่อคุณแม่บอกคุณสมบัติต่าง ๆ ของการมีเพื่อนให้เขาฟัง รวมถึงการนิยามคำว่าเพื่อนสนิทให้ลูกได้รับรู้ เพื่อให้ลูกค่อย ๆ หาเพื่อนสนิทด้วยตัวเอง แล้วมันจะทำให้การไปโรงเรียนสนุกมากยิ่งขึ้น
3. พยายามหาสิ่งที่ทำให้ลูกมีแรงจูงใจในการไปโรงเรียน
เมื่อลูกเริ่มเข้าโรงเรียนได้สักพักแล้ว เราจะสังเกตได้เองว่า ตอนนี้ลูกกำลังชอบอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษอยู่ เช่น ไปโรงเรียนได้เล่นสวนสนุก ได้วาดรูป ได้ทำกิจกรรมมากมาย ได้ขนมจากคุณครู เป็นต้น ซึ่งการมีสิ่งที่ชอบในโรงเรียนสักอย่าง ถือเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่ทำให้ลูกอยากไปโรงเรียนมากขึ้น
4. อย่าโกหกลูกเรื่องเวลา
ข้อนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยค่ะ การบอกลูกไปตรง ๆ เลยว่าต้องไปเรียนนานเท่าไหน เลิกกี่โมง และคุณแม่จะมารับประมาณกี่โมง เขาจะได้ไม่รอคอยเวลาในขณะที่กำลังเรียนอยู่ ซึ่งการวางแผนเรื่องเวลาที่ดีมันจะช่วยให้ความคิดของลูก ได้วางแผนอย่างมีระบบด้วยค่ะ เช่น ไปวิ่งเล่นกับเพื่อน หรือแวะไปอ่านหนังสือในห้องสมุดรอ เป็นต้น แต่ถ้าหากลูกเร่งอยากให้พ่อแม่มาถึงเร็ว ๆ ก็ควรบอกให้เขาดูที่เข็มนาฬิกาว่าถึงเวลาหรือยัง เพื่อให้เขาเข้าใจข้อตกลงระหว่างกันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกกลัวโรงเรียน ทำอย่างไรดี สารพัดวิธี ช่วยให้ลูกหายกลัวโรงเรียน
5. ห้ามพูดจาขู่ให้ลูกกลัว
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการรับมือของลูก เมื่อเขาไม่ยอมไปโรงเรียนคือ ผู้ปกครองต้องอย่าใช้คำพูดที่ขู่ลูก เพราะจะทำให้เขาไม่อยากไปโรงเรียนมากกว่าเดิม และอย่าเอาลูกไปเปรียบเทียบกับบ้านอื่น ต้องค่อย ๆ พูดด้วยเหตุผลให้เขาฟังว่าทำไมเราถึงต้องไปโรงเรียน ไปแล้วได้อะไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลลูกอย่างใกล้ชิด พยายามสังเกตอาการของลูกอยู่เรื่อย ๆ ว่าอะไรคือสาเหตุที่เขาไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งหลัก ๆ แล้วเด็ก ๆ ส่วนใหญ่มักกลัวโดนเพื่อนแกล้ง ไม่มีเพื่อนเล่น หรือบางครั้งอาจจะเรียนไม่เข้าใจ เวลาครูถามตอบไม่ได้แล้วเขารู้สึกอายเพื่อน อายคุณครู จนรู้สึกว่าโรงเรียนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย ไม่สามารถเป็นตัวเองได้ จึงอยากอยู่บ้านมากกว่านั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ไอเดีย! ตัดหน้าม้าให้ลูก ทำอย่างไรดี? ทรงผมที่ใครต่อใครก็มักจะหลงรัก
เกินไปหรือเปล่า ? คลิปครูกล้อนผมนักเรียนจนแหว่ง ยากเกินจะแก้ทรงได้
ผมประบ่า ทรงไหนสวย ไอเดียผมสั้นประบ่าตามรูปหน้า หน้ากลมต้องตัดทรงไหน
ที่มา :