เรียกได้ว่าการพาลูกออกไปข้างนอก กลายเป็นเรื่องที่หลายบ้าน ต่างให้ความกังวลเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าการออกนอกบ้านในแต่ละครั้ง จะต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง ถ้าไม่นับรวมเรื่องอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ลูกตัวน้อยจะสร้างเหตุการณ์อะไรหรือเปล่า เพราะอย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นในร้านทำผม หญิงถูกเด็ก 6 ขวบตัดผม หลังแม่พามานั่งรอ
เรื่องนี้ถูกแชร์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ ที่ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ หญิงถูกเด็ก 6 ขวบตัดผม โดยเป็นร้านตัดผมในตงกวน มณฑลกวางตุ้ง โดยเรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากที่แม่รายหนึ่ง ได้พาเด็กหญิงวัย 6 ขวบ เข้าไปนั่งรอขณะที่ทำผม เมื่อเด็กเห็นกรรไกรของช่างทำผม ที่ถูกวางอยู่แถวนั้น จึงได้ทำเหตุการณ์สุดเศร้าขึ้น ด้านเจ้าของร้านเปิดเผยว่า ในขณะนั้นพนักงานทุกคน ต่างวุ่นอยู่กับการทำผม ไม่มีใครสังเกตเห็นพฤติกรรมของเด็กหญิง ซึ่งลูกค้าที่โดนตัดผมรู้สึกเสียใจมาก เธอร้องไห้ต่อหน้าทุกคน แม้ว่าทางพนักงานจะแนะนำให้ตัดผมสั้น แต่เธอก็ปฏิเสธ
จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ได้หันมาเห็นกรรไกรตัดผม ที่วางทิ้งไว้ของช่างทำผม จึงหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดผม ของลูกค้าอีกคนที่กำลังใช้บริการอยู่ กว่าจะรู้ตัวว่าโดนตัดผมเล่น ก็แหว่งจนเกิดความไม่พอใจ ลูกค้าคนดังกล่าวเสียใจมาก จึงได้เรียกตำรวจมาเพื่อเจรจาส่วนที่เสียหาย โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะตกลงกันได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หญิงสาวผู้เสียหาย ที่ถูกเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ตัดผมเล่นได้เรียกค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 11,500 หยวน หรือราว 56,550 บาท นอกจากนี้ร้านทำผม ยังให้สมนาคุณปลอบใจ ด้วยการทำผม ทรีตเมนต์ ยืด และต่อผม ฟรีอีก 8 ครั้ง
หลังจากที่มีการเสนอข่าวเรื่องนี้ออกไป ชาวเน็ตหลายคนต่างความเห็นมาก โดยส่วนมากออกไปทางเห็นใจ เพราะเส้นผมยาวขนาดนี้ ถูกตัดแหว่งไม่เหลือทรง ราคาเท่านี้ที่เรียกไป ไม่ได้รู้สึกว่าแพงเกิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ที่รู้สึกว่า เงินจำนวนนี้ประกรรโชกทรัพย์ บางความเห็นก็ระบุว่า “ทำไมช่างไม่เก็บกรรไกรให้ดี ถึงแม้ว่าจะยุ่งขนาดไหน ก็ไม่ควรวางทิ้งไว้ ร้านควรเป็นผู้รับผิดชอบด้วยซ้ำ” นอกเหนือจากนี้ ยังมีความเห็นที่ระบุว่า เด็กก็คือเด็ก เด็กควรได้รับความคุ้มครอง เนื่องจากยังอยู่ในวัยเรียนรู้ ยังแยกไม่ออกว่าอันไหนผมจริง อันไหนผมตุ๊กตา และการเรียกร้องค่าเสียหาย วัดมูลค่าจากอะไร แต่อีกความเห็นก็ระบุว่า พ่อแม่ไม่ดูแลลูก พ่อแม่นั่นแหละที่ควรรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะสร้างปัญหาในสังคมมากขึ้นกว่าเดิมได้ !
ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
ปัญหาลูกอาละวาดในที่สาธารณะ เชื่อว่าเป็นปัญหาที่พ่อแม่หนักใจ เพราะถ้าปัญหานี้เกิดขึ้นนอกบ้าน ย่อมเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ๆ ในสังคมอย่างแน่นอน เพราะใช่ว่าเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว คนอื่นจะต่อว่าที่ตัวเด็ก มีแต่จะว่าให้ว่าพ่อแม่ไม่ดูแลได้ ซึ่งในข้อนี้หลายคนต่างก็เข้าใจธรรมชาติของเด็กแล้ว เพียงแต่ข้อสงสัยต่อมาคือ ทำไมพ่อแม่ถึงไม่สอน หรือไม่ควบคุมดูแลลูกให้ดีกว่านี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบ้านไหนที่ลูกอาการหนักกว่าปกติ ยิ่งชี้ให้เห็นว่าพ่อแม่ มีความบกพร่องในฐานะหน้าที่ และมีความผิดพลาดในการเลี้ยงดูลูก เพราะปัจจัยหนึ่งที่ลูกแสดงออกแบบนี้ ด้วยการเป็นเด็กเอาแต่ใจ หรือพูดไม่ฟังในที่สาธารณะ ก็อาจจะเป็นเพราะถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ จนกลายเป็นความเคยตัวนั่นเองค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : Toxic People คืออะไร สอนลูกอย่างไรไม่ให้เป็นพิษต่อคนอื่น
หาวิธีรับมือเฉพาะลูกตัวเอง
ถ้าการพาลูกออกนอกบ้าน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า มีความเสี่ยงที่จะงอแง หรือมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้ พ่อแม่ควรที่จะหาวิธีรับมือโดยเฉพาะ เผื่อว่าอาจเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริง ๆ ซึ่งตำราทั้งหลายที่บอกไว้ ต่างก็ไม่อาจใช้ได้ทั้งหมด หรือครบทุกสูตร เพราะเด็กแต่ละคน ต่างก็มีวิธีตอบสนองที่ต่างกันไป
ซึ่งในบางครั้งการนิ่งเฉย เมื่อลูกเริ่มงอแงก็สามารถใช้ได้ แต่ก็ต้องคำนึงด้วยว่า การนิ่งเฉยที่จะทำในตอนนั้น สร้างความรำคาญให้กับคนอื่นหรือไม่ แต่ทั้งนี้ ก็ไม่สนับสนุนในการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทั้งการดุด่า หรือการตีลูกค่ะ
ถ้าควบคุมไม่ได้ ควรที่จะขอโทษก่อน
ก่อนอื่น การเริ่มต้นจัดการลูกที่กำลังงอแง หรือกำลังอาละวาดในที่สาธารณะ สิ่งแรกที่พ่อแม่ควรจะทำก็คือ ขอโทษคนรอบข้างก่อนอันดับแรก เนื่องจากเป็นการสร้างความเดือดร้อน จริงอยู่ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก แต่การที่จะมานั่งเข้าใจและอดทน ก็ไม่ใช่หน้าที่เช่นกัน ซึ่งนอกเหนือไปจากการที่เด็กร้องเสียงดังแล้ว สิ่งที่คนอื่นหงุดหงิด นั่นก็คือพ่อแม่ที่ไม่สนใจจะดูแลลูก
ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อันดับแรกการขอโทษคนรอบข้าง ขอโทษด้วยความจริงใจ ก็ช่วยให้อารมณ์ของคนรอบข้างลดลงได้ค่ะ ที่สำคัญ ยังเป็นแบบอย่างให้กับลูกได้ด้วยว่า ถ้าทำผิดแล้วมีคนเดือดร้อน ยังไงก็ต้องรู้จักขอโทษ แม้จะไม่ได้รู้สึกว่าผิดก็ตาม
นอกจากนี้ การพาลูกออกมานอกบ้าน เป็นภาระหลักของพ่อแม่ที่ต้องรับผิดชอบ หากในวันนั้นเด็กน่ารัก ไม่มีพฤติกรรมติดลบ ก็เป็นเรื่องที่ดีไป แต่ในทางตรงกันข้าม หากลูกมีการร้องเสียงดัง หรือสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น พ่อแม่ควรที่จะรับมือลูกให้ได้ ควรที่จะคุมลูกให้อยู่
เพราะไม่ใช่หน้าที่ของคนในสังคม ที่จะต้องมาเดือดร้อน หรืออดทนกับพฤติกรรมของลูกใครก็ไม่รู้ ทั้งที่อยู่มาแบบดี ๆ อย่างวลีที่ว่า “ลูกไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน” แล้วจะมาตอบทีหลังว่า ไม่มีลูกไม่รู้หรอกไม่ได้ เพราะการพาลูกไปยังที่สาธารณะ นั่นเท่ากับว่าคุณสามารถดูแลลูกของคุณได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สอนลูกเลือกของด้วยตัวเอง สิ่งนี้ฝึกอะไรให้กับลูก!
สอนความแตกต่างระหว่างถูกและผิด สอนลูกให้รู้จักแยกแยะได้อย่างไร?
สอนลูกให้เชื่อฟัง ต้องทำยังไง อยากให้ลูกคิดเป็น มีเหตุผล ไม่ต่อต้านพ่อแม่
ที่มา : sanook, hk01
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
