เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ออกมาโพสต์คลิปเล่าเรื่องที่ ลูกสาวถูกเห็บกัด โดยที่พ่อแม่หาสาเหตุไม่เจอ กว่าจะมารู้ตัวก็ผ่านไปแล้ว 2 วัน
เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ใน TikTok ที่ชื่อว่า @skincare_chomngam ซึ่งเป็นคุณแม่รายหนึ่ง ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวของ ลูกสาวถูกเห็บกัด ที่ต้องเจอเรื่องไม่คาดฝัน ที่เมื่อจู่ ๆ ลูกบ่นเจ็บหูเจ็บตา โดยไม่รู้สาเหตุ จนกระทั่งเวลาผ่านไปแล้ว 2 วัน ถึงได้เจอต้นตอสุดสะพรึง โดยคุณแม่ท่านนี้ได้ระบุว่า
“2 วันก่อน พ่อกับแม่โดนกัดไปแล้ว ตัวมันเล็กมาก ๆ แต่โคตรเจ็บเลย เจ็บหลายวันด้วย มาวันน้องโดน เมื่อเช้าเจอที่หู ตอนเที่ยงเจอที่ตา ลูกบ่นเจ็บหูเจ็บตา พ่อกับแม่ก็ดูแล้ว แต่ไม่เจอ จนวันนี้มันกินเลือดน้องจนอิ่ม ถึงได้มองเห็น โคตรสงสารลูกเลย … พ่อกับแม่ขอโทษที่ดูแลหนูไม่ดี”
ที่มา tnews.co.th
”
ที่มา tnews.co.th
ซึ่งคุณแม่ท่านี้ได้ระบุว่า ตอนแรกลูกสาวบ่นเจ็บตา แต่ดูแล้วไม่เจออะไร พ่อแม่หาสาเหตุไม่เจอ จนผ่านไป 2 วัน กลับพบว่ามี “เห็บ” เกาะอยู่ที่ใบหู และเปลือกตาของลูกสาว โดยก่อนหน้านี้แม่ไปทำบุญที่ต่างอำเภอมา คาดว่าเห็บอาจจะติดมากับผ้าห่มที่อยู่ในรถตอนนั้น ที่สำคัญที่บ้านไม่มีการเลี้ยงหมา หรือเลี้ยงแมวสักตัว
หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาให้ความสนใจ และคอมเมนต์ด้วยความเป็นห่วง หลายคนเมื่อเห็นแล้ว ต่างสงสารหนูน้อยเป็นอย่างมาก พร้อมกับแนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่ ควรพาหนูน้อยไปหาหมอ ให้คุณหมอเอาเห็บออกให้ เพราะถ้าเอาออกเองแล้วผิดวิธี อาจจะทำให้เชื้อลามไปมากกว่านี้ได้
ที่มา tnews.co.th
คุณแม่ท่านนี้ได้ตอบกลับว่า คุณแม่ไม่รู้ว่าจะอันตรายขนาดนั้น แต่คุณแม่เอาออกเอง ตัวที่เกาะที่ตาแม่ใช้สำลีปาดออก ส่วนที่หูใช้แหนบคีบ และล้างแผลกับน้ำเกลือ ก่อนที่จะรีบพาไปหาหมอ ซึ่งคุณหมอก็จ่ายยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด และยาหยอดตากลับมา เบื้องต้นผลตรวจน้องดีมาก ๆ ไม่มีอาการติดเชื้อหรืออาการแพ คุณหมอมีนัดไปส่องกล้องเพิ่ม และขอให้เฝ้าอาการต่อ 3-5 วัน ในส่วนของเห็บดังกล่าว เป็นเห็บลมที่ระบาดในช่วงนี้ของภาคใต้
ในขณะเดียวกัน ได้มีความเห็นของชาวเน็ต เห็นตรงกันว่าหากบ้านไหนเลี้ยงน้องหมา แนะนำว่าควรให้น้องหมากินยาเห็บหมัด nexgard ราคาอาจจะแรง แต่รับประกันคุณภาพ เพราะลูกเห็บเวลาออกที ออกเยอะและเล็กมาก บ้านไหนมีลูกน้อยอาจจะเป็นอันตรายเช่นน้องคนนี้ได้
ที่มา tnews.co.th
เห็บและผลกระทบต่อสุขภาพ
เห็บ เป็นสัตว์ดูดเลือดและพาหะนำโรค ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ต่อทั้งมนุษย์และสัตว์เลี้ยง แม้โดยทั่วไปหากถูกเห็บกัดจะไม่เกิดอันตรายและไม่ปรากฏอาการเจ็บหรือคัน แต่ในบางกรณีก็อาจเกิดอาการแพ้ มีผื่นขึ้น เป็นแผลพุพอง หรือถึงขั้นหายใจติดขัดได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : เลี้ยงลูกกับสัตว์เลี้ยง ต้องทำอะไรบ้าง? เลี้ยงลูกพร้อมสัตว์เลี้ยงได้จริงหรือ?
ซึ่งเห็บนับเป็นปรสิตที่ใช้ปากกัด แล้วดูดเลือดสัตว์และมนุษย์เป็นอาหาร ถูกพบมากกว่า 800 สายพันธุ์ทั่วโลก นอกจากนี้ เห็บบางชนิดอาจเป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ที่อาจก่อให้เกิดโรคที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ผ่านทางน้ำลาย เช่น โรคลายม์ (Lyme Disease) โรคไข้เห็บ (Ehrlichiosis) และโรคทูลาริเมีย (Tularemia) เป็นต้น แต่โรคเหล่านี้ไม่ค่อยถูกพบในประเทศไทยนัก
โดยปกติ เห็บมักชอบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า พุ่มไม้ หรือต้นไม้ เพื่อรอเกาะติดไปกับสัตว์ หรือมนุษย์ที่ผ่านไปบริเวณนั้น ๆ ซึ่งส่วนมากในไทย มนุษย์จะติดเห็บมาจาก การเล่นหรือสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่มีเห็บ และเมื่อเห็บติดมา ก็มักซ่อนอยู่ในบริเวณที่อุ่นและชื้นตามร่างกายมนุษย์ เช่น รักแร้ ขาหนีบ และเส้นผม เป็นต้น
โดนเห็บกัดจะเป็นอย่างไร ?
โดยส่วนใหญ่ คนมักไม่รู้สึกตัว เมื่อถูกเห็บกัดในช่วงแรก เพราะจะไม่ปรากฏอาการเจ็บหรือคันผิวหนัง เหมือนตอนถูกสัตว์ชนิดอื่นกัด อีกทั้งเห็บยังมีขนาดตัวที่เล็กมาก จึงทำให้สังเกตเห็นได้ยาก แต่เมื่อถูกกัดไปสักระยะหนึ่งแล้ว เห็บจะเริ่มขยายตัว จนทำให้สังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น เพราะเห็บจะยังคงอยู่ ในบริเวณผิวหนังที่กัด ไม่ได้หนีหายไป หากปล่อยไว้นานประมาณ 7-10 วัน จนดูดเลือดเต็มที่แล้ว เห็บก็จะเลิกดูดเลือดและหลุดออกไปเอง
โดยปกติ การถูกเห็บกัด ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือมีอาการใด ๆ แต่สำหรับผู้ที่แพ้เห็บ อาจแสดงอาการแพ้ เช่น มีอาการบวม หรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณที่ถูกกัด เป็นผื่น เป็นแผลพุพอง หายใจติดขัดในกรณีที่แพ้รุนแรง เป็นต้น ซึ่งเห็บบางชนิดก็อาจแพร่กระจายเชื้อโรคสู่มนุษย์ได้ทันทีที่กัด และโรคติดต่อจากเห็บ อาจทำให้ผู้ป่วยปรากฏอาการต่าง ๆ แตกต่างกันไป โดยบางโรคอาจแสดงอาการหลังผ่านไป 2-3 วัน หรือนานเป็นสัปดาห์ตามแต่กรณี
อาการที่พบได้เมื่อเกิดโรคติดต่อจากเห็บ
หากเกิดอาการดังนี้ รวมทั้งมีอาการแพ้หลังถูกกัด หรือหลังจากดึงตัวเห็บออกแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมทันที
- มีจุดสีแดงหรือมีผื่นขึ้นใกล้กับบริเวณที่ถูกกัด
- มีผื่นขึ้นทั่วร่างกาย
- ปวดศีรษะ
- ปวดข้อต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ
- คอเคล็ด
- คลื่นไส้
- อ่อนเพลีย
- เป็นไข้ หนาวสั่น
- ต่อมน้ำเหลืองบวม
วิธีกำจัดเห็บด้วยตนเอง
1. ก่อนนำตัวเห็บออก
ควรฉีดพ่นยากันแมลง ที่มีส่วนประกอบของสารไพรีทริน (Pyrethrin) หรือสารไพรีทรอยด์ (Pyrethroids) ลงบนบริเวณที่ถูกกัด หรือทาครีมที่มีส่วนผสมของสารเพอร์เมทริน (Permethrin) รอบ ๆ บริเวณดังกล่าว เพื่อทำให้เห็บเป็นอัมพาตจนสามารถดึงออกมาได้ง่ายขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
2. หลังจากฉีดพ่นยาแล้ว
ห้ามใช้เข็มหรือไม้สะกิดตัวเห็บเด็ดขาด เพราะจะทำให้ดึงเห็บออกมาได้ยากขึ้น แต่ให้ใช้แหนบดึงตัวเห็บด้วยความระมัดระวัง โดยดึงตัวเห็บในบริเวณที่ใกล้กับผิวหนังที่สุด ดึงออกมาด้วยแรงบีบและความเร็วคงที่ ไม่บิด กระชาก บีบ ขยี้ หรือเจาะตัวเห็บ เพราะจะทำให้ของเหลวที่อาจมีเชื้อโรคถูกปล่อยออกมาจากตัวเห็บ
วิธีป้องกันเห็บกัด
- หลีกเลี่ยงการเดินผ่านพุ่มไม้หรือพงหญ้า และเลือกเดินตามเส้นทางเดินเท้า
- สวมเสื้อผ้าสีสว่าง เพื่อให้มองเห็นเห็บที่เกาะติดมากับเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น และเลือกสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และถุงเท้าข้อสูงคลุมปลายกางเกง เป็นต้น
- ใช้ยากันแมลงที่ปลอดภัย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารดีอีอีที (DEET) ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ หรือสารเพอร์เมทริน สารที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับป้องกันเห็บ เป็นต้น
- หลังกลับจากเดินทางหรือตอนอยู่ในบริเวณที่มีเห็บชุกชุม ให้หมั่นมองหาเห็บตามร่างกาย โดยสังเกตทั่วร่างกายโดยละเอียด โดยเฉพาะบริเวณหลังหู ศีรษะ และคอ
- รีบถอดเสื้อและอาบน้ำทันที หลังกลับจากบริเวณที่มีเห็บชุกชุม และนำเสื้อผ้าไปใส่ในเครื่องอบผ้า หรือเป่าด้วยไดร์เป่าลมร้อน ประมาณ 20 นาที เพื่อฆ่าเห็บที่อาจหลงเหลือติดมากับเสื้อผ้า
- ดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข หรือแมวให้สะอาดปราศจากเห็บอยู่เสมอ โดยให้สังเกตตามตัวของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์กลับมาจากนอกบ้าน หากพบเห็บให้รีบกำจัดเห็บออก ซึ่งอาจเลือกใช้ยากำจัดเห็บหมัด สำหรับสัตว์เลี้ยงได้ด้วยเช่นกัน
เนื่องจากว่าเด็กอาจจะยังลงรายละเอียด ความเจ็บป่วยของตัวเองไม่ได้ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหน ที่ต้องเดินทางช่วงนี้ และอาจจะต้องพบเจอกับเห็บ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดเสื้อผ้า เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ชวนใจสลาย อย่างเช่นครอบครัวนี้เลยนะคะ!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เห็บเข้าหู เห็บเข้าหูลูก แม่ใช้ไฟฉายส่องดูถึงกับช็อค! พาไปหาหมอพบเห็บวางไข่ในหูลูก
เห็บหมาเข้าหู ลูกงอแง นอนเกาหู เหมือนมีอะไรในหู แม่แคะออกดูถึงกับสยอง !
อุทาหรณ์ เห็บหมาเข้าหู มีเด็กเล็กต้องระวัง!
ที่มา : tnews.co.th, pobpad.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!